สำหรับใครที่อยู่ในวงการลูกหนัง หรือวงการฟุตบอล ก็คงจะรู้จักกับ ชาบิเอร์ อาลอนโซ โอลาโน หรือรู้จักในนาม ชาบี อาลอนโซ กันอย่างแน่นอน โดยหลาย ๆ คนคงจะรู้ข่าวคราวกันมาบ้างแล้วตั้งแต่ต้นปี 2024 ว่าตำนานอย่าง ชาบิเอร์ อาลอนโซ นั้นจะมาคุมทีม ลิเวอร์พูล ในซีซั่นหน้า ทำเอาเหล้าแฟน ๆ หงส์แดง ดีใจกันยกใหญ่ เพราะว่า ชาบิเอร์ อาลอนโซ เรียกได้ว่าเป็นทายาทนักฟุตบอลกันเลยทีเดียว
ด้วยไตล์ฟุตบอลของอลอนโซ่ประสบความสำเร็จอย่างสวยงาม ด้วยจุดเด่นด้านการครองบอล ชาบี อลอนโซ่ ได้รับการยกย่องอย่างสูงมากขึ้นเรื่อย ๆ ในเยอรมนี ที่ยิ่งไปกว่านั้น เขายังคงเป็นผู้เล่นที่ดีที่สุดในสนามฝึกซ้อม โดยสอนบทเรียนอันมีค่าแก่ลูกทีมของเขาในแต่ละเซสชั่น คือถ้าจะลงสนามจริง ๆ เขายังสามารถเล่นได้อย่างสบาย มีเพียงไม่กี่คนในโลกที่สามารถจ่ายบอลได้เหมือนเขา แม้จะอายุขนาดนี้แล้วก็ตาม และสำหรับใครที่อาจจะเคยได้ยินชื่อแต่ก็ไม่เคยรู้ประวัติความเป็นมา รวมถึงความเก่งกาจของเขา วันนี้ทางเราจะมาเล่า ประวัติ ชาบี อลอนโซ่ ชายที่เรียกได้ว่าเป็นทายาทนักฟุตบอลคนนี้ว่ามีประวัติความเป็นมาอย่างไร
ประวัติ บัลเบร์เด้ เจ้านกน้อย กองกลางดาวรุ่งมาแรง ของราชันชุดขาวเรอัลมาดริด
ประวัติ ชาบี อลอนโซ่ จากยอดนักเตะสู่ยอดโค้ช
- ประวัติชาบี อลอนโซ่ บนเส้นนักเตะ
ชาบี อลอนโซ่ เกิดในแคว้นบาสก์ เริ่มต้นอาชีพนักฟุตบอลกับสโมสร เรอัล โซเซียดาด ในลาลีกา ต่อมาเมื่อ ราฟาเอล เบนิเตซ เข้ามาเป็นผู้จัดการทีมลิเวอร์พูลในปี 2004 เขาก็แทบจะไม่เสียเวลาเลยในการเซ็นสัญญาดึงตัว อลอนโซ่ มาเล่นในอังกฤษ เขาเริ่มต้นการค้าแข้งในพรีเมียร์ลีกด้วยวัยแค่ 22 ปีเท่านั้น
และประตูในเกม “ปาฏิหาริย์แห่งอิสตันบูล” ในรอบชิงชนะเลิศ แชมเปี้ยนส์ลีก ปี 2005 ก็กลายเป็นการปิดฉากฤดูกาลแรกอันน่าทึ่งกับลิเวอร์พูล ชนิดที่แฟนบอลยังจดจำได้ถึงวันนี้
หลังจากผ่านไป 5 ปี 210 เกม และคว้าแชมป์ เอฟเอคัพ ได้ 1 ครั้ง ชาบี อลอนโซ่ ก็ย้ายไป เรอัล มาดริด ยักษ์ใหญ่ในบ้านเกิด ซึ่งเป็นที่ๆเขาก้าวขึ้นสู่จุดสูงสุดของชีวิต นั่นคือการคว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก และแชมป์ ลา ลีก้า ก่อนย้ายไปอยู่กับ บาเยิร์น มิวนิค ในเยอรมนี
และก็สานต่อเกียรติประวัติอันยอดเยี่ยมของตัวเอง ด้วยการคว้าแชมป์บุนเดสลีกา 3 สมัย ขณะที่ในนามทีมชาติ อลอนโซ่ คว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 1 สมัยและแชมป์ยุโรป 2 สมัยกับทีมชาติสเปน เรียกว่าจะหานักเตะคนใดที่ครอบครองถ้วยแชมป์ตลอดอาชีพได้ขนาดนี้ก็คงยากเต็มที
- จากยอดนักเตะสู่ยอดโค้ช
หลังจากแขวนสตั๊ดในปี 2017 ชาบี อลอนโซ่ เบนเข็มสู่งานโค้ช เข้าอบรมหลักสูตรการฝึกสอน “ยูฟ่า อีลิท” ในรุ่นเดียวกับ ชาบี เอร์นานเดซ (กุนซือ บาร์เซโลน่าในปัจจุบัน) และกลับมาที่ เรอัล มาดริด เพื่อเป็นโค้ชทีมชุดอายุต่ำกว่า 14 ปี ในปี 2019
ต่อมา อลอนโซ่ ได้รับโอกาสย้ายไปเป็นหัวหน้าโค้ชของ “เรอัล โซเซียดาด เบ” ในดิวิชั่น 3 ของสเปน และก็เริ่มฉายแววกับงานด้านนี้ด้วยการพาทีมเลื่อนชั้นสู่ เซกุนด้า ดิวิชั่น (แม้ว่าจะตกชั้นในฤดูกาลสุดท้ายของเขาก็ตาม) ในเดือนตุลาคม ปี 2022 ชาบี อลอนโซ่ ย้ายเข้ามาคุม ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ซึ่งในเวลานั้นกำลังเผชิญสถานการณ์ย่ำแย่อย่างหนัก ด้วยการรั้งอันดับรองสุดท้ายหลังผ่านไป 8 เกม
สิ่งที่ อลอนโซ่ ปรับให้ลูกทีมเป็นอย่างแรกก็คือการทำให้พวกเขาแข็งแกร่งขึ้นโดยไม่มีบอล โดยอาศัยระบบแผงหลัง 5 คน การปลอดภัยไว้ก่อนแบบนี้ช่วยทำให้ทุกคนมีความมั่นใจมากขึ้น และสามารถสร้างพื้นที่เพื่อโจมตีคู่แข่งได้
มุสซ่า ดิยาบี้ (ปัจจุบันอยู่ที่แอสตัน วิลล่า), อามีน อัดลี และ ฟลอเรียน แวร์ตซ์ ทำหน้าที่ได้อย่างยอดเยี่ยมในการเปลี่ยนทีม ช่วยให้ทีมไต่อันดับขึ้นไปบนตารางบุนเดสลีกาได้อย่างรวดเร็วจนจบที่อันดับ 6 เมื่อสิ้นสุดฤดูกาล และผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศยูโรปา ลีก ก่อนไปพ่ายต่อโรม่าของ โชเซ่ มูรินโญ่ และนับจากวันนั้นเป็นต้นมา ก็ไม่มีใครหยุด อลอนโซ่ และพลพรรค “ห้างขายยา” ได้อีกเลย
- ฤดูกาลอันแสนมหัศจรรย์
ฤดูกาล 2023/24 เลเวอร์คูเซ่น มีการเสริมทัพที่น่าสนใจ วิงแบ็กอย่าง อเล็กซ์ กรีมัลโด้ ที่ย้ายมาแบบไม่มีค่าตัว ได้เพิ่มคุณภาพทางริมเส้นที่หายไปเป็นอย่างดี ส่วนด้านแท็กติก มีการหยิบระบบที่ไม่ค่อยมีใครใช้อย่าง 3-4-2-1 ปัดฝุ่นกลับมาติดตั้งให้ลูกทีมเน้นการ “บิลด์อัพ” หรือการตั้งเกมบุกจากแดนหลังตั้งแต่ผู้รักษาประตู
แต่ส่วนที่สำคัญที่สุดในแท็กติกของเขาก็คือการติดตั้งกองกลาง 2 คนในระบบ double pivot มาสู่ทีม เนื่องจากการใช้กองหลัง 3 คน รวมถึงใช้กองกลางตัวรับ 2 คน มีข้อดีก็คือสามารถหยิบใช้ใครมาลงเล่นก็ได้ เนื่องจากเป็นแผนที่ไม่ได้ต้องการใช้ความสามารถเฉพาะตัวเป็นหลัก แต่ต้องการนักเตะที่มีวินัยและสอดประสานกับเพื่อนร่วมทีมได้เป็นอย่างดี รวมถึงเข้าใจบทบาทหน้าที่ของตัวเองและของเพื่อนร่วมทีมที่จะต้องทำร่วมกัน มันจึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับทีมที่ไม่ได้เงินถุงเงินถังมากอย่าง เลเวอร์คูเซ่น
ในด้านเกมรุก “ข้างขายยา” จะขับเคลื่อนเกมริมเส้นด้วยวิงแบ็กที่มีความคล่องตัวสูง อย่าง เฌเรมี่ ฟริมปง และ อเล็กซ์ กริมัลโด้ โดยมี ฟลอเรียน แวร์ตซ์ เป็นหัวใจสำคัญในแดนบน
ขณะที่ในส่วนของหน้าที่ในการล่าตาข่าย กลายเป็นการแจ้งเกิดของ “วิคเตอร์ โบนิเฟซ” ดาวยิงโนเนมที่ไปคว้ามาจาก ยูนิโอน แซงต์ ชิลลัวส์ ด้วยค่าตัว 20.5 ล้านยูโร และปัจจุบันยิงไปแล้ว 17 ประตูจากการลงสนาม 26 เกมในทุกรายการ
สรุป ประวัติ ชาบี อลอนโซ่ เป็นนักฟุตบอลที่ยอดเยี่ยม ทำผลงานได้อย่างโดดเด่น และเป็นที่รักของแฟนบอลในทุกทีมที่เล่นให้ โดยไม่เคยต้องเผชิญกับปัญหาหนัก ๆ ตลอดอาชีพนักฟุตบอลของตัวเองแม้แต่ครั้งเดียว และล่าสุดได้มาเป็นยอดโค้ชทีมเลเวอร์คูเซ่นที่ได้สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับสโมสร
ขอบคุณเนื้อหาจาก : wikipedia