เป็นกระแสให้พูดถึงในบ้านเรา ที่เมื่อไม่นานมานี้มีข่าวว่าประเทศไทยอาสาเป็นเจ้าภาพจัดแข่ง Formula E ในปี 2025 ซึ่งวันนี้เราจะไปทำความรู้จัก Formula E คืออะไร สำหรับการแข่ง Formula E เป็นการแข่งที่สร้างมลภาวะทางเสียง และทางอากาศในปริมาณที่น้อยมาก ๆ การแข่งขัน Formula E จึงสามารถจัดการแข่งขันแบบ Street Circuit ในเมืองหลวงใหญ่ ๆ ได้เลย
หรือหัวเมืองซึ่งทำให้คนดูสามารถเข้าถึงการแข่งขันได้ง่ายขึ้น ตัวอย่างเช่น การแข่งขัน Paris E-Prix ที่จัดขึ้นใจกลางเมืองปารีส ประเทศฝรั่งเศส รวมไปถึง London E-Prix จัดขึ้นที่เมืองลอนดอน ประเทศอังกฤษ ซึ่งมรการเริ่มจัดการแข่งขันอย่างเป็นทางการตั้งแต่ปี ค.ศ.2014 ประเดิมสนามแรกที่กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน
กฎอัยการศึก คืออะไร รู้จักกฏหมายพิเศษ ใช้เมื่อบ้านเมืองไม่มีความสงบ
Formula E คืออะไร มาทำความรู้จักกับการแข่งรถไฟฟ้า สุดเร้าใจ
For mula E คือ อะไร เป็นการแข่งขันรถล้อเปิด ที่นั่งเดี่ยว ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% บรรจุให้เป็น 1 ในซีรีส์ของการแข่งขันชิงแชมป์โลกที่จัดขึ้นภายใต้การดูแลของสหพันธ์ยานยนต์นานาชาติ (FIA) ได้เริ่มจัดการแข่งขันอย่างเป็นทางการมาตั้งแต่ปี 2014 ในชื่อ ABB FIA Formula E Championship มีเป้าหมายเพื่อพัฒนารถแข่งควบคู่ไปกับการรักษาสิ่งแวดล้อม
โดยประเดิมสนามแรกที่กรุงปักกิ่ง ประเทศจีนและได้จัดการแข่งขันอย่างต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน
ในช่วงการแข่งขันปี 2018-2019 ที่ผ่านมา รถแข่ง “Formula E Generation 2” ได้ถูกเปิดตัวและนำมาใช้ในการแข่งขัน โดยพัฒนาอัพเกรดขึ้นมาทั้งในเรื่องขนาดแบตเตอร์รี่และกำลังส่งของมอเตอร์ไฟฟ้า
โดยแบตเตอร์รี่รุ่นใหม่นี้สามารถเก็บพลังงานไฟฟ้ามากกว่ารุ่นเก่าถึง 2 เท่า อยู่ที่ 54 kWh ส่งผลให้นักแข่งไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนรถระหว่างการแข่งขัน ส่วนมอเตอร์ก็แรงขึ้นอีก 50 kW สามารถทำความเร็วสูงสุดได้เพิ่มขึ้น ตัวถังก็ได้ถูกออกแบบใหม่และติดตั้ง Halo เพื่อระบบความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้นของนักแข่งในกรณีเกิดอุบัติเหตุ มาพร้อมแถบไฟ LED แสดงสถานะของโหมดการขับขี่อีกด้วย ปัจจุบันมีทีมเข้าร่วมถึง 12 ทีม ประกอบไปด้วยนักแข่ง 24 คน และรถแข่งอีก 24 คัน
กฎกติกาการแข่งขันคร่าว ๆ มีดังนี้
1.Practice
ในทุกๆ สนามจะมีการซ้อมทั้งหมด 2 รอบ รอบแรกจะใช้เวลา 45 นาที รอบที่ 2 จะใช้เวลา 30 นาที แต่ละคันจะมีกำลังสูงสุดอยู่ที่ 250 กิโลวัตต์ นอกจากนี้การชาร์จไฟรถจะอนุญาตทำได้จนถึงในช่วงระหว่างรอบ Practice นี้เท่านั้น
2.Qualifying
ในรอบควอลิฟายจะมีเวลาให้ทั้งหมด 1 ชั่วโมง ซึ่งนักแข่งทั้งหมดจะถูกแบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม กลุ่มละ 6 คัน แต่ละกลุ่มจะมีเวลา 6 นาทีในการทำเวลาให้เร็วที่สุด ผู้ที่ทำเวลาในรอบ Qualifying ได้เร็วที่สุดนั้นจะได้รับคะแนนพิเศษเพิ่มไป 1 คะแนน นอกจากนี้นักแข่งที่ทำเวลาเร็วที่สุด 6 อันดับแรกจะได้สิทธิเข้ารอบ Super Pole โดยในรอบ Super Pole นั้นนักแข่งที่ทำเวลาเป็นอันดับ 6 จะได้สิทธิออกวิ่งก่อนเมื่อนักแข่งอันดับที่ 6 วิ่งผ่านเส้นจับเวลา Pit Lane จะเปิดไฟเขียวให้นักแข่งที่ทำเวลาเป็นอันดับ 5 ออกไปวิ่งต่อ และทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนกระทั่งอันดับ 1 ได้ออกวิ่ง และในรอบนี้ผู้ที่ทำเวลาเร็วที่สุดจะได้ตำแหน่ง Pole Position ไปพร้อมกับคว้า 3 คะแนน ซึ่งตลอดการควอลิฟายนักแข่งสามารถเรียกกำลังรถได้เต็มที่ 250 กิโลวัตต์
3.Races
การแข่งขัน หรือเรียกกันว่า E-Prix (อีปรีซ์) เป็นการออกตัวแบบ Standing Start จะไม่มีการวิ่ง Formation Lap เหมือนการแข่งขัน Formula 1 ซึ่งเริ่มแรกรถแข่งจะจอดอยู่บน Dummy Grid ก่อนที่จะเคลื่อนตัวเข้าสู่ Gird Start ของตัวเอง เพื่อทำการออกตัว การแข่งขันจะใช้เวลา 45 นาทีบวก 1 รอบ สำหรับโหมดการแข่งขันรถแข่งจะให้กำลังสูงสุด 200 กิโลวัตต์ นอกจากนี้แล้วนักแข่งที่
สามารถทำ Fastest Lap ได้จะได้รับคะแนนพิเศษ 1 คะแนนมาครอง
4.Attack Mode
โหมดโจมตี เป็นโหมดที่นักแข่งจะต้องขับผ่านโซนพิเศษที่มีสัญลักษณ์บ่งบอกบนเส้นทางที่ใช้ในระหว่างแข่งขันเท่านั้น เมื่อนักแข่งใช้ Attack Mode จะมีไฟ LED ปรากฏอยู่บนบริเวณ Halo แสดงการทำงานของโหมดนี้อีกด้วย ซึ่งสามารถเพิ่มกำลังรถ และเพิ่มกลยุทธ์ในการใช้พลังงานได้ นักแข่งจะต้องใช้โหมดทั้ง Attack Mode และ Race Mode ขณะแข่งขัน โดยโหมดโจมตีทำให้นักแข่งสามารถเข้าถึงพลังงานสูงสุดที่ 235 กิโลวัตต์
5.Fan Boost
ถือเป็นอีกหนึ่งความแปลกใหม่ในวงการมอเตอร์สปอร์ตเลยทีเดียว เป็นการทำให้สาวก Formula E ได้มีส่วนร่วมของการแข่งขัน โดยที่แฟนคลับสามารถโหวตให้กับนักแข่งที่ตนเองชื่นชอบผ่านทาง Website ของ Formula E และนักแข่งที่ได้รับคะแนนนิยมมากที่สุด 5 อันดับแรกจะได้รับอนุญาตให้ใช้พลังงานไฟฟ้าเพิ่มขึ้น เรียกว่า Boost (บูสท์) ซึ่งจะสามารถใช้งานได้เพียงแค่ 5 วินาทีของครึ่งหลังในการแข่งขันเท่านั้น
สรุป Formula E คืออะไร เป็นการแข่งขันรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% เริ่มจัดการแข่งขันอย่างเป็นทางการตั้งแต่ปี ค.ศ.2014 ประเดิมสนามแรกที่กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน ในฤดูกาลนั้น McLaren ค่าย Super Car สัญชาติอังกฤษ ได้รับเลือกให้เป็นผู้พัฒนา “มอเตอร์ไฟฟ้า” ที่ใช้สำหรับรถแข่ง Formula Eตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ใกล้บ้าน ซึ่ง McLaren ได้นำ “มอเตอร์ไฟฟ้า” ของ McLaren P1 หรือ Hyper Car สายพันธุ์ Hybrid มาใช้เป็นพื้นฐาน และพัฒนาต่อยอดเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน เพื่อให้เหมาะกับการแข่งขัน Formula E มากที่สุด
ขอบคุณเนื้อหาจาก : wikipedia