การต่อสัญญา ฟุตบอล กับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ออกไปอีกสองปีของ เป๊ป กวาร์ดิโอลาร์ บ่งบอกถึงสัญญาณในโปรเจคการปฏิรูป ซ่อมแซม และต่อยอด เรือใบลำนี้ให้กลับมาแล่นฉิวได้อีกครั้ง เหมือนเฉกเช่นครั้งที่เขาทำได้

การออกสตาร์ทได้ไม่ดีของแมนเชสเตอร์ซิตี้ตลอด 9 เกมที่ผ่านมา

เก็บได้เพียง 12 คะแนนและล่าสุดกับการพ่ายแพ้สเปอร์สของ โจเซ่ มูริญโญ่ เป็นครั้งแรกที่เป๊ปสามารถเก็บแต้มได้น้อย ครั้งล่าสุดต้องย้อนกลับไปสมัยที่คุมบาร์เซโลน่าในปี 2012 ซึ่งฤดูกาลนั้นเขาลาออกจากตำแหน่งและเจ้าบุญทุ่มก็เสียแชมป์ลาลีกาในปีนั้น

อย่างไรก็ตาม ความพ่ายแพ้ต่อไก่เดือยทอง 2-0 ทำให้การฉลองการต่อสัญญาใหม่ของเขาดูกร่อยไปหน่อย แต่มันก็ยังเหลือเวลาให้เขาได้พิสูจน์ตัวเองในเส้นทางการลุ้นแชมป์อีกพอสมควร การต่อสัญญาครั้งนี้หลายฝ่ายต่างมองไปในทิศทางเดียวกันว่า ภารกิจเดียวที่เป๊ปต้องการจะทำให้ได้คือ การพาแมนเชสเตอร์ซิตี้เป็นจ้าวยุโรป นั่นอาจจะเป็นเหตุผลที่กุนซือชาวสแปนิชยอมต่อสัญญาออกไป อีกส่วนหนึ่งก็คือการลบล้างความผิดหวังเมื่อฤดูกาลที่แล้ว โดยพวกเขาแพ้ต่อ โอลิมปิก ลียง ทีมที่ใครหลายคนต่างมองว่าพวกเขาน่าจะ “ผ่านได้” ในรอบ 8 ทีมสุดท้ายเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา พลาดการสร้างประวัติศาสตร์พาทีมเข้ารอบรองชนะเลิศได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของสโมสร

ผลงานการเก็บ 100 คะแนนทำให้ทีมเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีกในฤดูกาล 2018/19 , แชมป์เอฟเอคัพและลีกคัพ ทริปเบิ้ลแชมป์ในประเทศถือเป็นความสำเร็จที่ต้องยกความดีความชอบให้เป๊ป กวาร์ดิโอลาร์ แต่ทว่าในฟุตบอลถ้วยยุโรปนั้นองค์ประกอบอาจจะแตกต่างออกไป ความไม่แน่นอนของการเล่นฟุตบอลถ้วยน็อคเอ้าท์และการออกไปเล่นเกมเยือน เกมรับที่เสียประตูได้ง่ายทั้งๆที่เป็นฝ่ายครองเกมเหนือคู่แข่ง นับเป็นปัญหาที่ยังแก้ไม่ตกของแมนเชสเตอร์ซิตี้

เกมรับที่เป็นปัญหาของซิตี้ เป๊ปจัดการด้วยการดึง อายเมลิก ลาปอร์ก มาจากแอธเลติก บิลเบา ราคา xx ล้านยูโร(ประมาณ) นำเข้า รูเบน ดิอาซ จากเบนฟิก้า ราคา xx ล้านยูโร(ประมาณ) และ นาธาน อาเก้ จากบอร์นมัธ ราคา xx ล้านยูโร(ประมาณ) เพื่อหาคู่เซนเตอร์แบ็คที่ลงตัวที่สุด ผนึกกำลังกับวิงแบ็คซ้าย-ขวาอย่าง ไคลน์ วอร์คเกอร์และ เชา คานเซโล่ ซึ่งเป็นที่น่าตั้งข้อสงสัยว่าแผงแบ็คโฟร์ของเป๊ป ไม่มีใครที่ถนัดซ้ายธรรมชาติเลยสักคน

ขยับขึ้นมาในแผงมิดฟิลด์ ภายหลังการจากไปของ ดาบิด ซิลบาที่ย้ายกลับสเปนไปอยู่กับโซเซียดาด , เลอรอย ซาเน่ที่ย้ายไปเสือใต้ แฟร์นานดิญโญ่และกุน อเกวโร่ที่วัยกำลังโรยลาโดยทั้งคู่อาจจะอยู่กับทีมปีสุดท้าย เพราะสัญญากำลังจะหมดในช่วงสิ้นสุดฤดูกาลนี้ ภาระหนักในการสร้างสรรค์เกมและทำประตูอาจจะต้องตกเป็นของ เควิด เดอ บรอยด์และ ราฮีม สเตอริ่ง อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

การไล่ล่าหาถ้วยรางวัลระดับเมเจอร์ใบที่สี่ ปัญหาต่อมาของพวกเขาก็คือตัวจริงกับตัวสำรองไม่อาจทดแทนกันได้ดีเท่าที่ควร  โดยพวกเขาสามารถครองเกมเหนือคู่แข่งได้อย่างชัดเจน ครองบอล หาจังหวะเข้าทำ การเล่นสอดประสานที่ลงตัวของทีม ซึ่งแบร์นาโด ซิลวามีฤดูกาลที่ยอดเยี่ยมเมื่อปีที่แล้ว ฟีล โฟเด้น กำลังเติบโตไปในทิศทางที่ดี แฟร์ราน ตอร์เรสมีสัญญาระยะยาวกับทีมและริยาห์ด มาห์เรซก็ยังรักษามาตรฐานของตัวเองไว้ได้ ไม่ต้องห่วงเลยในเกมรุก แต่ทว่าในเรื่องของเกมรับนั้น อิลคาย กุนโดกันและ โรดรี้ นั้นไม่สามารถเล่นเกมรับได้ดีเท่าที่ควร เฉกเช่นที่แฟร์นานดิญโญ่ทำได้ในสมัยที่อายุยังไม่เยอะเท่าทุกวันนี้

บางทีการเข้ามาของ ลิโอเนล เมสซี่ อาจจะเป็นคำตอบสุดท้ายของเรือใบที่กำลังตามหาอยู่ แต่ทว่าการลาออกของประธานสโมสรบาร์เซโลน่าอย่าง โจเซป มาเรีย บาร์โตเมว อาจจะเป็นอีกตัวแปรสำคัญที่อาจทำให้เมสซี่เลือกอยู่กับเจ้าบุญทุ่มต่อไป และงานหนักก็คงเป็นของทีมงานสเกาท์ที่ต้องหาแข้งมาทดแทน แข้งซีเนียร์ที่กำลังจะอำลาทีมไป แต่ก็ใช่ว่าจะหากันได้ง่ายๆเพราะแท็คติกของเป๊ปนั้น ต้องอาศัยนักเตะที่มีความเข้าใจเกมสูงและมีเทคนิคที่ดีมาก ไม่ใช่ว่าซื้อใครมาก็จะเล่นได้เข้าระบบ

คนที่ได้รับความกดดันมากที่สุดคงหนีไม่พ้น เป๊ป กวาร์ดิโอลาร์ เมื่อเขากำลังประสบพบเจอกับอีกซีซั่นที่ทั้งยากลำบากและท้าทาย เพราะทุกทีมต่างยกระดับมาสู้แพ้ชนะกันได้หมด โจทย์เดียวที่เป๊ปต้องทำให้ได้คือการพาซิตี้คว้าถ้วยรางวัลเข้าสู่ตู้ประดับสโมสรให้ได้ นอกเหนือจากนั้นคือความล้มเหลว แล้วฤดูกาลนี้ละ ? จะเป็นปีที่ดีหรือแย่ของแมนซิตี้ คนเดียวที่จะให้คำตอบได้ก็คงไม่พ้นชายที่ชื่อ เป๊ป กวาร์ดิโอลาร์ อยู่ดี

อ้างอิง :

https://www.fourfourtwo.com/features/man-city-pep-guardiola-rebuild-new-contract-squad-transfers

สามารถรับข่าวสารฟุตบอลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.sccwiki.com/