ปัญหา เชื้อราในตู้เสื้อผ้า เป็นปัญหากวนใจของแม่บ้านหรือใครหลาย ๆ คน ซึ่งเกิดจากความชื้นภายนอกหรือเสื้อผ้าที่เราเก็บเข้าตู้เสื้อผ้านั้นยังไม่แห้งสนิทดีก็รีบเก็บเข้าตู้เสียแล้ว นอกจากจะทำให้เกิดเชื้อราในตู้เสื้อผ้าแล้วยังทำให้เกิดกลิ่นอับชื้นและกลิ่นอันไม่พึงประสงค์อีกด้วย ซึ่งหากกลิ่นนี้ติดเสื้อผ้าเราไปอาจจะทำให้ตัวเราเองดูไม่ดีเพราะกลิ่นอีกด้วยนะ ดังนั้นเรามารู้จักกับเชื้อราที่เกิดขึ้นและวิธีแก้ปัญหาเชื้อรานี้กันเถอะ
สาเหตุของการเกิด เชื้อราในตู้เสื้อผ้า
เชื้อรานั้น ๆ ใครก็รู้ดีว่าเกิดจากความชื้นและความชื้นก็เกิดจากที่ที่แดดส่องไม่ถึงหรืออากาศที่ไม่ถ่ายเทมากนัก จึงทำให้ตู้เสื้อผ้าเป็นมุมที่เกิดเชื้อราได้ง่าย และเชื้อราเองก็เติบโตได้ดีเพราะทั้งมืด ทั้งอับ และอากาศในตู้เสื้อผ้าเองก็ไม่ค่อยถ่ายเทอีกด้วย นี่แหละสิ่งที่ตัวเชื้อราชอบเป็นพิเศษเลย
วิธีทำความสะอาดเชื้อราในตู้เสื้อผ้า
ขั้นตอนที่ 1
กำจัดคราบเชื้อราเก่าออกไปก่อนโดยการใช้ผ้าชุบน้ำหมาด ๆ มาเช็ดเชื้อราออก และระหว่างทำความสะอาดแนะนำให้สวมหน้ากากอนามัยด้วยเพราะระหว่างทำความสะอาดจะเกิดการฟุ้งกระจายได้นั่นเอง แต่ถ้าหากคราบเชื้อราค่อนข้าง ติดแน่น และสะสมอยู่เป็นเวลานาน แถมยังลุกลาม และกระจายออกเป็นวงกว้าง ก็สามารถใช้น้ำยาทำความสะอาดต่าง ๆ อย่างแอลกอฮอล์ หรือ น้ำยาทำความสะอาดแบบอเนกประสงค์ หรือ สเปรย์สำหรับกำจัดเชื้อราโดยเฉพาะ มาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการกำจัดคราบเชื้อราเหล่านี้ให้ออกไปได้นั่นเอง
ขั้นตอนที่ 2
เมื่อลงมือเช็ดคราบเชื้อราออกไปบ้างแล้วแต่อาจจะเหลือคราบเชื้อราฝังแน่นในเฟอร์นิเจอร์แล้วละก็ สามารถแก้ไขโดยการนำกระดาษทรายมาขัดบริเวณคราบเชื้อราออก โดยเริ่มจากการขัดกระดาษทรายแบบหยาบก่อน เพื่อให้เชื้อราหลุดออกไปให้ได้มากที่สุด เท่าที่จะทำได้ก่อน จากนั้นจึงค่อย ๆ ใช้กระดาษทรายแบบเนื้อละเอียด มาขัดย้ำที่ร่องรอยเดิม เพิ่มให้เนื้อเฟอร์นิเจอร์นั้นมีความเรียบสวยเหมือนเดิม และขจัดคราบเชื้อรากวนใจได้อีกด้วย
ขั้นตอนที่ 3
เมื่อขจัดคราบเชื้อราออกจนหมดแล้ว เรามาป้องกันไม่ให้เกิดเชื้อรากันดีกว่าโดยการใช้น้ำส้มสายชูผสมกับน้ำเปล่าลงในขวดสเปรย์ แล้วนำมาฉีดพ่นลงไปให้ทั่วบริเวณที่เกิดเชื้อราทิ้งไว้ให้แห้งสนิท หรืออีกวิธีหนึ่งคือการใช้ยาหยอดฆ่าเชื้อราในเล็บ หยอดลงไปในบริเวณที่มีเชื้อราอยู่ โดยน้ำยาฆ่าเชื้อราสำหรับเล็บนี้ สามรถหาซื้อได้ตามร้านขายยา เช็ดทำความสะอาด ตู้ที่มีเชื้อราทับลงไปได้
ขั้นตอนที่ 4
ทุกครั้งที่เราทำความสะอาดตู้เสื้อผ้าอาจจะเป็นการเช็ดด้วยน้ำ หรือน้ำยาต่าง ๆ จะทำให้เกิดความชื้นแหล่งก่อเชื้อราได้ เราต้องรีบทำให้แห้งโดยเร็วที่สุดด้วยการเอาพัดลมมาเป่า ไดร์เป่าผม หรือผ้าเช็ดให้แห้งก็ได้ ความชื้นนั้นนอกจากจะทำให้เกิดเชื้อราแล้วยังจะทำให้เฟอร์นิเจอร์ของเรามีเนื้อที่บวมขึ้นอีกด้วย
ขั้นตอนที่ 5
หลังกำจัดคราบเชื้อราที่เกิดขึ้นออกไปจากตู้เสื้อผ้าแล้ว ก็ควรจะต้องหาวิธีป้องกันพื้นผิวตู้เสื้อผ้า ให้ลดการสัมผัสกับความชื้น ที่อาจเกิดขึ้น ด้วยการใช้น้ำยาเคลือบผิวไม้ ทาทับให้ทั่วตู้เสื้อผ้าอีกชั้นหนึ่ง จากนั้นก็รอให้น้ำยาเคลือบผิวไม้แห้ง จนกลิ่นน้ำยาค่อย ๆ จางลงไป ก็สามารถนำตู้เสื้อผ้า กลับมาใช้งานได้เหมือนเดิมแล้ว
สามารถรับข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ : คลิกที่นี่
อ้างอิง : คลิกที่นี่