เท็ด บันดี้ ประวัติ

เท็ด บันดี้ ประวัติ Ted Bundy ฆาตกรต่อเนื่องที่ฉาวโฉ่ที่สุดของสหรัฐฯ ช่วงปลายศตวรรษที่ 20 ซึ่งเรื่องราวของเขาได้สร้างแรงบันดาลใจของนิยายรวมถึงภาพยนตร์หลายเรื่อง โดยเมื่อประกอบกับความหล่อเหล่านุ่มนวลของชายคนนี้ ทำให้เขากลายเป็นหนึ่งในอาชญากรที่มีแฟนคลับมากที่สุดในประวัติศาสตร์อาชญากรรม

ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่าได้สังหารผู้หญิงอย่างน้อย 36 คนในปี 1970 เขาถูกประหารชีวิตด้วยเก้าอี้ไฟฟ้าในปี 1989 ดังนั้นเรามาลองมาทำความรู้จักกับ เท็ด บันดี้ ฆาตกรต่อเนื่องสุดโฉด แต่กลับมีผู้ปลาบปลื้ม และเป็นแรงบันดาลใจ ให้หนังฆาตกรต่อเนื่องอีกหลายเรื่อง พร้อมเปิดพฤติกรรมใช้ท่าทางดูดี นุ่มนวล ลวงเหยื่อฆ่า

ฆาตกรล่องหน เปิดเรื่องราว ฆาตกรต่อเนื่องสุดลึกลับ ฉายา The Phantom Killer

เท็ด บันดี้ ประวัติ

เท็ด บันดี้ ประวัติ Ted Bundy ฆาตกรต่อเนื่องที่มีชื่อเสียงฉาวโฉ่ที่สุดในช่วงปลายศตวรรษที่ 20 ของสหรัฐฯ

Ted Bundy เกิดเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 1946 ในเมืองเบอร์ลิงตัน รัฐเวอร์มอนต์ สหรัฐฯ ชีวิตวัยเด็กของเขาเติบโตมาพร้อมกับพ่อ แม่ และพี่สาว ในครอบครัวที่เคร่งครัดศาสนา ก่อนความจริงจะปรากฏว่าผู้ที่เขาคิดว่าเป็นพ่อแม่มาตลอด กลับเป็นตาและยาย ส่วน เอเลนอร์ โคเวลล์ ผู้เป็นพี่สาวต่างหาก คือแม่แท้ ๆ ของเขา ซึ่งตัดสินใจปกปิดความจริงเอาไว้เพราะไม่ต้องการให้ใครรู้ว่าตัวเธอท้องลูกไม่มีพ่อ

จากนั้นในปี 1951 เอเลนอร์ก็ได้แต่งงานกับ จอห์นนี่ บันดี้ ซึ่งนามสกุลบันดี้ของเท็ด ก็ได้มาจากพ่อเลี้ยงของเขานี่เอง เอเลนอร์และจอห์นนี่ใช้ชีวิตครอบครัวกันอย่างมีความสุข และมีลูกที่น่ารักด้วยกันอีกหลายคน เป็นครอบครัวชนชั้นแรงงานแสนอบอุ่น ที่เท็ดบอกเองว่าเขาได้รับการเลี้ยงดูมาอย่างดี ไม่เคยถูกล่วงละเมิดในครอบครัว

 

อย่างไรก็ตามด้านมืดในใจของเท็ดเริ่มพอกพูนขึ้นตรงข้ามกับฉากนอกที่เป็นนักเรียนตัวอย่าง สุภาพและฉลาดเฉลียว เขาจบการศึกษาด้านจิตวิทยาจากมหาวิทยาลัยในวอชิงตัน ที่ซึ่งได้พบรักกับเด็กสาวหน้าตาดี ฐานะร่ำรวยจากรัฐแคลิฟอร์เนีย ก่อนที่ความสัมพันธ์นั้นจะจบลง จากนั้นเขาได้เข้าเรียนต่อด้านกฎหมายในรัฐยูทาห์ ก่อนจะเดินหน้าเข้าสู่แวดวงการเมือง

 

ในช่วงเวลาระหว่างนั้นมีเด็กสาวหน้าตาดีจำนวนมากที่หายตัวไป โดยมีหลายคนเชื่อว่าเท็ดน่าจะก่อเหตุลักพาตัวและฆ่า แอนน์ มาเรีย เบอร์ วัย 8 ขวบ ขณะที่เขายังเป็นเพียงวัยรุ่น แต่เขาปฏิเสธข้อกล่าวหานั้น แล้วอ้างว่าการลงมือฆ่าครั้งแรกของเขาเกิดขึ้นในปี 1974 ขณะที่มีอายุ 27 ปี โดยเหยื่อรายแรกก็คือ ลินดา แอนน์ ฮีลลี นักศึกษาหญิงที่ถูกลงมือทำร้ายร่างกายและฆาตกรรมอย่างโหดเหี้ยม ก่อนที่ไม่กี่เดือนต่อมาเขาจะลงมือล่วงละเมิดทางเพศและทำร้ายเหยื่ออีกราย ซึ่งแม้เหยื่อรายนี้จะรอดไปได้ แต่ก็ต้องพิการตลอดชีวิต

 

จากฐานข้อมูลอย่างเป็นทางการระบุว่า เท็ด บันดี้ มีความเชื่อมโยงกับคดีฆาตกรรมโหด 36 ราย (แม้ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าเหยื่อของเขาจริง ๆ น่าจะมีถึงร้อยราย) โดยพฤติกรรมการลงมือของเขา มักจะเข้าไปหาหญิงสาวตามสถานที่สาธารณะต่าง ๆ และใช้ท่าทีสุภาพอย่างผู้ดี ลักษณะที่มีเสน่ห์ของตัวเอง หลอกล่อเหยื่อให้ไปในที่เปลี่ยว ก่อนที่จะล่วงละเมิดทางเพศและฆ่า

เขาจัดการตัดหัวเหยื่ออย่างน้อย 12 คนและเก็บศีรษะเอาไว้ในอพาร์ทเม้นต์ เปรียบเสมือนกับรางวัลแห่งความภาคภูมิใจ เหยื่อส่วนมากถูกเขาซ้อมอย่างหนักจนตาย บางรายถูกทรมานจากสิ่งของรอบตัวในที่เกิดเหตุ

 

ในครั้งหนึ่งเขาได้ล่อลวงหญิงสาว 2 คนที่ริมชายหาด ตอนกลางวันแสก ๆ โดยแสร้งทำทีเป็นบาดเจ็บและขอความช่วยเหลือจากพวกเธอ ก่อนที่พวกเธอจะหายตัวไป โดยมีพยานในที่เกิดเหตุให้ข้อมูลกับตำรวจว่าพบเห็นพวกเธอพูดคุยอยู่กับชายหนุ่มผมดำชื่อเท็ด ที่แขนใส่เฝือก ซึ่งเมื่อตำรวจสเก็ตช์ภาพคนร้ายออกมา ก็มีอดีตเพื่อนร่วมงานของเท็ดที่จำเขาได้ แต่ทางตำรวจเลือกที่จะมองผ่านเขาไป เพราะคิดว่าคนหนุ่มหน้าตาดีอนาคตไกล ประวัติขาวสะอาดรายนี้ ไม่น่าที่จะฆ่าใครได้

 

นับจากนั้นยังมีเหยื่ออีกหลายรายที่ถูก เท็ด บันดี้ ลักพาตัว ล่วงละเมิดทางเพศ และสังหารด้วยวิธีเหี้ยมโหด มีเหยื่อบางคนหลุดรอดมือเขาไปได้ ทำให้เขาถูกดำเนินคดีฐานลักพาตัวในปี 2518 แต่เขาก็รอดมาได้ ก่อนถูกจับอีกครั้งในข้อหาฆาตกรรมเมื่อตำรวจมีหลักฐานพอจะเชื่อมโยงเขากับเหยื่อคนก่อนหน้า ทว่าเขาสามารถแหกคุกแหกศาลออกมาได้ถึง 2 ครั้ง และก่อเหตุฆาตกรรมอีก 3 ศพ ซึ่งเนื่องจากนายเท็ด บันดี้ ถูกตัดสินว่ามีความผิดในคดีฆาตกรรมหลายศพ เขาจึงถูกตัดสินประหารชีวิตด้วยเก้าอี้ไฟฟ้า ในวันที่ 24 มกราคม 1989 ปิดฉากฆาตกรต่อเนื่องสุดฉาวโฉ่รายนี้

เท็ด บันดี้ ประวัติ

บทสรุป

สรุป เท็ด บันดี้ ประวัติ Ted Bundy เป็นหนึ่งในอาชญากรที่มีชื่อเสียงที่สุดในช่วงปลายศตวรรษที่ 20 เขาเป็นฆาตกรต่อเนื่องในปี 1970 ผู้ข่มขืนและชอบมีอะไรกับศพ (necrophiliac) เขาถูกประหารชีวิตด้วยเก้าอี้ไฟฟ้าในฟลอริดาในปี 1989 โดยศพของบันดีถูกเผาในเมืองเกนส์วิลล์ ( Gainesville ) และไม่มีการจัดพิธีสาธารณะ

ก่อนที่เขาจะถูกประหารเขาขอให้เถ้าถ่านของเขา ถูกนำไปโปรยในเทือกเขาคาสเคด ( Cascade Mountains ) ของรัฐวอชิงตัน ที่ซึ่งเขาสังหารเหยื่อของเขาอย่างน้อยสี่คน คดีของเขาได้สร้างแรงบันดาลใจให้กับนวนิยายและภาพยนตร์หลายเรื่องเกี่ยวกับฆาตกรต่อเนื่อง

ขอบคุณเนื้อหาจาก : wikipedia

เป็นกำลังใจช่วยแชร์หน่อยค่ะ



ball