ซุปเปอร์บอน ซุปเปอร์บอนเทรนนิงแคมป์ เป็นนักมวยไทยชาวไทยประเภทไฟท์เตอร์ เน้นเตะ เข่า และถนัดขวา เขาเป็นทั้งอดีตแชมป์ประเทศไทย รุ่น 135 ปอนด์ รวมถึงเป็นเจ้าของอันดับ 2 มวยรอบอีซูซุ ครั้งที่ 22 ตลอดจนเป็นผู้มีผลงานชนะในระดับนานาชาติ
ยังเป็นตัวแทนจากประเทศไทย เข้าแข่งขันรายการ มวยไทยวอริเออร์ส 2012 และเป็นหนึ่งในนักมวยไทยที่ได้ร่วมรับถ้วยรางวัลจากสมเด็จฮุนเซนผู้เป็นนายกรัฐมนตรีแห่งประเทศกัมพูชา
โดย ซุปเปอร์บอน สามารถทวงเข็มขัดแชมป์โลกเฉพาะกาลของรุ่นนี้ เมื่อปี 2567 และต่อมาได้รับการสถาปนาให้เป็น แชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นเฟเธอร์เวต อย่างเป็นทางการ เมื่อเดือนมกราคม 2568
คริสเตียน ลี ประวัติ THE WARRIOR เจ้าของแชมป์โลก 2 เข็มขัด
ซุปเปอร์บอน ซุปเปอร์บอนเทรนนิงแคมป์ แชมป์โลกคิกบ็อกซิ่ง คนแรกในประวัติศาสตร์ ONE รุ่นเฟเธอร์เวต
ซุปเปอร์ บอน ซุปเปอ ร์บอนเทรนนิงแคมป์ ในอดีตรู้จักกันในสีเสื้อ ลูกเจ้าแม่สายวารี เขามีชื่อเล่นว่า “บอน” ชื่อจริงคือ นายศุภชัย หมื่นสังข์ ตอนในวัย 5 ขวบ ได้เริ่มทำความรู้จักกับมวยไทยจากผู้เป็นพ่อที่ชื่นชอบกีฬาชนิดนี้เป็นชีวิตจิตใจ จนเปิดค่ายมวยของตนเองในชื่อ “ลูกเจ้าแม่สายวารี”
ที่นั่นมีเทรนเนอร์คนสำคัญซึ่งเป็นบุตรบุญธรรมของพ่อคือ นายบุญธรรม สมพิศ โดยมี รัตน์ หมื่นสังข์ ซึ่งเป็นพ่อของเขาเป็นครูมวยคนแรก (ผู้เป็นหัวหน้าคณะและผู้จัดการในเวลาต่อมา) และใช้ชื่อครั้งแรกในการชก คือ ซุปเปอร์บอน ลูกเจ้าแม่สายวารี ปัจจุบัน พ.ต.เฉลิมชัย มัจฉากล่ำ และ บอน ลูกพ่อขุน เป็นผู้ให้การสนับสนุน
ในการแข่งขันศึกอีซูซุคัพ ครั้งที่ 22 ณ วันที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2554 ซุปเปอร์บอน ลูกเจ้าแม่สายวารี พบกับคู่ชกชื่อ เพชรอัศวิน ซีทรานเฟอร์รี่ ที่เวทีมวยอ้อมน้อย ซึ่งซุปเปอร์บอนเป็นฝ่ายชนะคะแนน
เขาร่ำเรียนวิชามวยอยู่หนึ่งปี จึงได้ขึ้นชกและแพ้ติดต่อกันถึง 5 ครั้ง ซุปเปอร์บอน ตั้งความหวังที่จะทำให้พ่อภูมิใจ เขาจึงทุ่มเทฝึกฝนอย่างหนักจนฟอร์มดีขึ้นเรื่อยๆ และเริ่มมีชื่อเสียงขจรขจาย ขยายพื้นที่จากละแวกชุมชน เป็นจังหวัด เป็นภาค
และก้าวขึ้นสู่เวทีมวยมาตรฐานในเมืองหลวงตอนอายุ 15 ปี หลังจากจบชั้นมัธยมปลายที่โรงเรียนประจำจังหวัด เขาก็เข้าศึกษาในระดับปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยรัตนบัณฑิต (RBAC) คณะบริหารธุรกิจ สาขาคอมพิวเตอร์ พร้อมกับย้ายถิ่นฐานเข้ามาพำนักอยู่ที่กรุงเทพฯ และเปลี่ยนที่ซ้อมมวยเป็นค่าย ต.เฉลิมชัย ย่านเหม่งจ๋าย
ความเก่งกาจของเขาเริ่มมีเครื่องหมายการันตี ด้วยการเป็นแชมป์ประเทศไทยรุ่นไลต์เวต 135 ปอนด์ พร้อมป้องกันแชมป์ต่อเนื่องถึงขั้นเก็บชัยชนะจาก “สิงห์ร้ายแดนขแมร์” หรือ สิงห์ดำ เกียรติหมู่ 9 มวยรุ่นพี่ดีกรียอดมวยไทยปี 2549 ได้สำเร็จ
ทั้งยังเป็นรองแชมป์มวยรอบอีซูซุครั้งที่ 22 และรองแชมป์มวยรอบโตโยต้ามาราธอนอีกด้วย ขณะที่ตลาดนักมวยใหญ่ในบ้านเราไม่เป็นที่นิยม ซุปเปอร์บอน จึงเริ่มห่างหายจากการชก เป็นขาลงจนเขามีทีท่าจะแขวนนวม และผันตัวไปเป็นเทรนเนอร์ร่วมกับพี่ชาย (นายคงศักดิ์) ที่บินลัดฟ้าไปเปิดยิมถึงถิ่นจิงโจ้
“ซุปเปอร์บอน” ไต่เต้าและสร้างชื่อในวงการมวยไทยจากการคว้าแชมป์ในหลายเวที อาทิ แชมป์ประเทศไทยรุ่นไลต์เวต 135 ปอนด์ และแชมป์มวยรอบโตโยต้ามาราธอน อย่างไรก็ตาม
ในขณะนั้น มวยรุ่นใหญ่ไม่เป็นที่นิยมในเมืองไทย “ซุปเปอร์บอน” จึงตัดสินใจออกล่าความสำเร็จในเวทีต่างประเทศ และตระเวนกวาดแชมป์จากเวทีแข่งขันคิกบ็อกซิ่งชื่อดัง อาทิ คุนหลุนไฟต์ (Kunlun Fight) และ เอ็นฟิวชัน (Enfusion) มาครอง ส่งให้เขาได้รับการจับตามองในฐานะนักมวยไทยและนักชกคิกบ็อกซิ่งที่มีฝีมือโดดเด่นระดับแถวหน้า
จากผลงานยอดเยี่ยม “ซุปเปอร์บอน” ได้โอกาสเข้าร่วมกับ ONE และสร้างตำนานบันลือโลกจากการเตะก้านคอน็อกเอาต์นักชกคิกบ็อกซิ่งระดับตำนาน “จอร์จิโอ เปโตรเซียน” ขึ้นแท่นเป็นแชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นเฟเธอร์เวต คนแรกในประวัติศาสตร์ ONE ในปี 2564 และ“ซุปเปอร์บอน” สามารถป้องกันบัลลังก์ได้ 1 ครั้ง ก่อนจะเสียแชมป์ในปี 2566 แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็สามารถทวงเข็มขัดกลับมาได้จากการคว้าแชมป์โลกเฉพาะกาลของรุ่นนี้ เมื่อปี 2567 และต่อมาได้รับการสถาปนาให้เป็น แชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นเฟเธอร์เวต อย่างเป็นทางการ เมื่อเดือนมกราคม 2568
สรุป ซุปเปอร์บอน ซุปเปอร์บอนเทรนนิงแคมป์ เติบโตมาในค่ายมวย “ลูกเจ้าแม่สายวารี” ที่คุณพ่อของเขาเป็นคนก่อตั้งขึ้น เขาจึงซึมซับวิชามวยไทยมาตั้งแต่จำความได้ โดยได้ขึ้นสังเวียนครั้งแรกเมื่ออายุ 6 ขวบ จนกระทั่งได้โอกาสเข้าไปชกเวทีมวยมาตรฐานในกรุงเทพฯ เมื่ออายุได้ 15 ปี โดยเรียนหนังสือควบคู่ไปด้วย และได้โอกาสเข้าร่วมกับ ONE และสร้างตำนานบันลือโลกจากการเตะก้านคอน็อกเอาต์นักชกคิกบ็อกซิ่งระดับตำนาน “จอร์จิโอ เปโตรเซียน” และต่อมาได้รับการสถาปนาให้เป็น แชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นเฟเธอร์เวต อย่างเป็นทางการ
ขอบคุณเนื้อหาจาก : wikipedia