กระทรวงการคลังจะออกหนังสือชี้ชวน เสนอขายหน่วยลงทุนกองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง ประเภท ก. วงเงินรวม 1.5 แสนล้านบาท โดยเปิดให้ประชาชนรายย่อยจองซื้อได้ ในช่วงวันที่ 16-20 ก.ย.67 และจากนั้นจะเปิดให้นักลงทุนสถาบัน จองซื้อได้ วันที่ 18-20 ก.ย.67 ทั้งนี้ จะทราบผลการจัดสรรหน่วยลงทุนในวันที่ 23 ก.ย.นี้ และกองทุนรวมวายุภักษ์จะเริ่มเข้าไปลงทุนในตลาดหุ้นไทยได้ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.67 เป็นต้นไป ด้านหน่วยลงทุนจะเข้าไปเทรดได้ไม่เกินวันที่ 10 ต.ค. 67 สิ่งที่ต้องติดตามต่อหลังจากนี้จะมีการสำรวจความเห็นของนักลงทุนเพื่อกำหนดอัตราผลตอบแทนขั้นต่ำและขั้นสูง รวมถึงหนดหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และช่องทางการเสนอขาย ก่อนที่จะจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ภายในเดือนกันยายน 67 วันนี้พามารู้จักกับอีกหนึ่งทางเลือกในการออม กองทุนวายุภักษ์ คืออะไร
แก่นฝาง สรรพคุณ มีอะไรบ้าง กินมีประโยชน์ แล้วมีอันตรายหรือข้อควรระวังไหม
กองทุนวายุภักษ์ คืออะไร มารู้จักกองทุนหลักแสนล้าน ของรัฐบาลไทย
กองทุน วายุภักษ์ คือ อะไร เป็นกองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง หรือที่มักเรียกกันว่า กองทุนวายุภักษ์ ก่อตั้งขึ้นในปี 2546 ตามข้อเสนอของกระทรวงการคลัง ในสมัยทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี ด้วยเงินทุนเริ่มต้น 5 แสนล้านบาท และกองทุนดังกล่าวจะถูกบริหารจัดการโดยบลจ.กรุงไทย และบลจ.เอ็มเอฟซี และแบ่งสัดส่วนการจัดการ บลจ.ละ 50% สำหรับวัตถุประสงค์ของการตั้งกองทุนก็เพื่อเพิ่มความคล่องตัว ในการบริหารจัดการทรัพย์สินของรัฐบาลแทนกระทรวงการคลัง โดยที่จะช่วยลดการใช้งบประมาณแผ่นดินลง อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มทางเลือกในการลงทุนให้กับประชาชนและนักลงทุนสถาบัน ในช่วงที่ภาวะดอกเบี้ยกำลังตกต่ำลง
ล่าสุด กระทรวงการคลัง ก.ล.ต. และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ออกมาเปิดเผยว่ากำลังเตรียมที่จะกลับมาเสอขายหน่วยลงทุนประเภท ก. ให้แก่นักลงทุนทั่วไป นักลงทุนรายย่อยอีกครั้งหนึ่ง เริ่มลงทุนตั้งแต่ 5,000 บาท มีการคุ้มครองผลตอบแทนขั้นต่ำด้วย ซึ่งจะเข้าจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ภายในไตรมาส 3 หรือไม่เกินเดือนกันยายนนี้
เพื่อเป็นการเพิ่มทางเลือกในการออมและการลงทุนให้กับประชาชน และฟื้นบรรยากาศการลงทุนท่ามกลางแนวโน้มตลาดหุ้นไทยที่ตกต่ำลง เนื่องจากว่าสถานการณ์ตลาดทุนไทยในช่วงที่ผ่านมาค่อนข้างผันผวน กระแสเงินทุนต่างชาติไหลออก โดยในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นไทย มูลค่ากว่า 530,000 ล้านบาท ขณะที่มูลค่าการซื้อขายของตลาดหลักทรัพย์ฯ รวมถึงมูลค่าการระดมทุนของตลาดตราสารทุนและตราสารหนี้ก็ชะลอตัวลง
กระทรวงการคลังจึงมองว่าการฟื้นกองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง ครั้งนี้ จะช่วยดึงสัดส่วนการลงทุนให้ไหลกลับเข้ามาในตลาดหุ้นไทย สร้างความเชื่อมั่นแก่นักลงทุนทั้งไทยและต่างประเทศต่อการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์
โดยกระทรวงการคลังตั้งเป้าในการระดมทุนประมาณ 100,000 – 150,000 ล้านบาท สำหรับนักลงทุนทั่วไป นักลงทุนรายย่อย ลงทุนขั้นต่ำคนละ 5,000 บาท ระยะเวลาการลงทุนเบื้องต้น 10 ปี
จะได้รับเงินปันผลอย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง ตามผลตอบแทนของกองทุน แต่จะได้ไม่น้อยไปกว่าผลตอบแทนขั้นต่ำ และไม่สูงเกินกว่าผลตอบแทนขั้นสูงที่กำหนดไว้ ซึ่งอัตราผลตอบแทนขั้นต่ำและขั้นสูงจะเป็นอัตราคงที่ตลอด 10 ปี ส่วนจะกำหนดไว้ที่เท่าไหร่ จะถูกระบุไว้ในหนังสือชี้ชวน ซึ่งคาดว่าจะมีความชัดเจนในเดือนกันยายนนี้
หลังจากเสนอขายหน่วยลงทุนประเภท ก. ให้กับนักลงทุนทั่วไป ก็จะนำไปลงทุนในหลักทรัพย์ทั้งแบบเชิงรุก และเชิงรับ ซึ่งยังคงลงทุนส่วนใหญ่ในตราสารทุนที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยจะเน้นการลงทุนในบริษัทที่มีอัตราผลตอบแทนดี มีความมั่นคงในระยะยาว โดยมีผู้จัดการกองทุนเป็น บลจ.กรุงไทย และ บลจ. MFC
ปัจจุบัน หากเรามาดูสินทรัพย์ที่กองทุนถือ 5 อันดับแรกของพอร์ต
- หุ้นสามัญ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT
- หุ้นสามัญ บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB
- หุ้นสามัญ ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือ TTB
- หุ้นสามัญ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB
- หุ้นสามัญ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BCP
นอกจากนี้ ก็ยังถือหุ้นไทย เช่น ADVANC, AMATA, AOT, ESSO, IVL, KWC, SCCC, RATCH, SCGP และ THAI
ลักษณะกองทุนวายุภักษ์เป็นอย่างไร
กองทุนวายุภักษ์ มีลักษณะเป็นกองทุนผสม แบบไม่กำหนดสัดส่วนการลงทุน โดยมีการลงทุนทั้ง เงินฝาก ตราสารหนี้ หุ้น สินทรัพย์ทางเลือก และสินทรัพย์อื่นทั้งในประเทศและต่างประเทศ ทั้งยังสามารถลงทุนในกองทุนรวมอื่น ๆ ได้อีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นกองทุนที่มีนโยบายการลงทุนยืดหยุ่นสูง ในช่วงแรก กองทุนวายุภักษ์ มีสถานะเป็นกองทุนปิด โดยมีการกำหนดอายุกองทุนเป็นระยะเวลา 10 ปีและเปิดขายหน่วยลงทุนให้ทั้งนักลงทุนรายย่อย นักลงทุนสถาบัน รวมถึงนักลงทุนภาครัฐ เช่น กระทรวงการคลัง รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานต่าง ๆ ของรัฐ
กองทุนวายุภักษ์ ได้เข้าลงทุนในบริษัทไทย และเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ในหลายบริษัท โดยเฉพาะรัฐวิสาหกิจ จากรายงานกองทุนประจำปี 2556 ซึ่งเป็นปีที่กองทุนมีอายุครบ 10 ปี และกองทุนวายุภักษ์สามารถทำผลตอบแทนเฉลี่ย ได้ถึง 14.96% ต่อปี ภายหลังครบอายุ ได้มีการปิดกองทุนและทำการคืนเงินให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนทั้งหมด โดยหลังจากนั้นได้มีการประกาศ แปรสภาพกองทุน มาเป็นกองทุนเปิด และเปิดขายหน่วยลงทุนอีกครั้ง แต่ในครั้งนี้กองทุนเปิดขายให้เฉพาะกระทรวงการคลัง และนักลงทุนที่เป็นหน่วยงานภาครัฐเท่านั้น และยังไม่มีการขายหน่วยลงทุนให้แก่นักลงทุนทั่วไปมาจนถึงทุกวันนี้ และส่งผลให้รัฐบาลกลายเป็นผู้ถือหน่วยลงทุนรายใหญ่เพียงรายเดียวของกองทุนผ่านกระทรวงการคลัง คล้ายกับ Temasek Holdings ของรัฐบาลสิงคโปร์
สรุป กองทุนวายุภักษ์ คืออะไร เป็นกองทุนรวมเพื่อพัฒนาการลงทุนแบบบูรณาการของกระทรวงการคลัง ระบุว่า ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติอนมัติ ให้กระทรวงการคลังจัด ตั้ง “กองทุนรวมวายภักษ์” เพื่อลงทุนแบบยึดหยุ่น (Mutual Fund Hexible Port) โดยมีวัตถุประสงค์ในการดำเนินงาน คือ 1) ท่าให้การบริหารจัดการหลักทรัพย์ที่รัฐถือครองอยู่เกิดประโยชน์สูงสดและเป็นเครืองมือให้กระทรวงการคลังรักษาความเป็นเจ้าของทรัพย์สินและความมั่นคงของประเทศได้ 2) ลดภาระของรัฐในการจัดสรรเงินงบประมาณเพื่อน่าไปลงทนในกิจการที่มีความจำเป็นและต้องการการส่งเสริมจากภาครัฐ 3) เพิ่มทางเลือกของประชาชนล้อมเงินในภาวรที่อัดราดอกเบียเงินฝากต่ำ 4) ส่งเสริมสนับสนนการพัฒนาดลาดลาดทุนของประเทศ
ขอบคุณเนื้อหาจาก : wikipedia