จากประเด็นร้อนสะเทือนโซเชียลในกรณีคู่รักคู่ที่เข้าไปพบว่าบ้านจัดสรรที่ได้รับเป็นของขวัญแต่งงาน มีคนเข้าไปอยู่อาศัย พร้อมต่อเติมบ้านจนสภาพผิดไปจากเดิม ต่อมาผู้บุกรุกก็อ้างว่าอยากซื้อบ้านหลังนี้มานาน แต่ไม่รู้ว่าใครเป็นเจ้าของบ้าน โดยการ ครอบครองปรปักษ์ เดิมถูกตราขึ้นเพื่อให้ผู้ที่มีที่ดินจำนวนมาก หรือมีที่ดินแต่ไม่ได้ดูแล และปล่อยให้รกร้าง เป็นน่าเสียดาย หากมีผู้ต้องการที่ดินเข้ามาทำประโยชน์เป็นเวลานานกว่า 10 ปี โดยที่เจ้าของที่ดินก็ไม่ได้ทักท้วงหรือขับไล่ ก็จะทำให้ผู้นั้นได้กรรมสิทธิ์ครอบครองปรปักษ์ เนื่องจากกฎหมายต้องการให้ประชาชนใช้ที่ดินเพื่อทำประโยชน์นั่นเอง การครอบครองปรปักษ์ถือเป็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งมักจะก่อให้เกิดข้อพิพาทอยู่บ่อยครั้ง แต่อันที่จริงแล้วการ ครอบครองปรปักษ์ คืออะไร มีหลักเกณฑ์หรือข้อบังคับอย่างไรบ้าง
แบลงค์กัน คืออะไร ทำความรู้จัก ปืนปลอม ที่ไม่ผิดกฎหมายและฆ่าคนได้
ครอบครองปรปักษ์ คืออะไร และเรื่องที่ต้องรู้ก่อนสูญเสียบ้าน-ที่ดิน
- ครอบครองปรปักษ์คืออะไร
การครอบครองปรปักษ์เป็นหลักกฎหมายที่มีมาตั้งแต่สมัยยุคโรมัน เดิมก็ด้วยเจตนาที่จะทำให้การซื้อขายที่ไม่ถูกต้องตามแบบ แต่เมื่อผู้ซื้อมีการครอบครองทรัพย์นั้น และปฏิบัติครบหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนดแล้ว ก็จะได้กรรมสิทธิ์ไปโดยการครอบครองปรปักษ์ แม้จะมีความบกพร่องเรื่องแบบพิธีในการซื้อขายก็ตามในยุคต่อมาการครอบครองปรปักษ์กลายเป็นกฎหมายที่ส่งเสริมให้คนใช้ประโยชน์ในอสังหาริมทรัพย์ ไม่ปล่อยให้รกร้างไม่ดูแล มิเช่นนั้นผู้ที่เข้าใช้ประโยชน์ในอสังหาริมทรัพย์ก็จะได้กรรมสิทธิ์ไป
- หลักเกณฑ์การครอบครองปรปักษ์เป็นอย่างไร?
การครอบครองปรปักษ์ คือ การแย่งกรรมสิทธิ์โดยการครอบครอง มีได้ทั้งอสังหาริมทรัพย์ และสังหาริมทรัพย์ สำหรับการครอบครองปรปักษ์อสังหาริมทรัพย์มีหลักเกณฑ์ตามที่กำหนดไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1382 ดังนี้
1.ครอบครองอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นของผู้อื่น
2.โดยสงบและเปิดเผย ด้วยเจตนาเป็นเจ้าของ
3.ได้ครอบครองติดต่อกันเป็นระยะเวลา 10 ปี (5 ปี สำหรับสังหาริมทรัพย์) *สังหาริมทรัพย์ เป็นสินทรัพย์ที่ไม่ติดอยู่กับที่ สามารถนำติดตัวไปไหนมาไหนได้ เช่น โบราณวัตถุ, เพชร, ทอง, รถยนต์ และเครื่องประดับ เป็นต้น
- กฎหมายที่ต้องรู้เกี่ยวกับการครอบครองปรปักษ์อสังหาริมทรัพย์
1.การครอบครองปรปักษ์ต้องเป็นอสังหาริมทรัพย์ที่มีกรรมสิทธิ์ เช่น โฉนด โฉนดตราจอง หรือเอกสารกรรมสิทธิ์ประเภทอื่น ๆ ส่วนทรัพย์ประเภทที่มีเพียงสิทธิครอบครอง เช่น ส.ค.1 (ใบแจ้งการครอบครองที่ดิน) หรือ น.ส.3 หรือ น.ส.3 ก. (หนังสือรับรองการทำประโยชน์) หรือที่ดินมือเปล่าไม่สามารถครอบครองปรปักษ์ได้
2.แต่อาจแย่งการครอบครองกันได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1375 แต่ไม่มีกฎหมายรับรองให้สามารถยื่นคำร้องหรือคำฟ้องขอให้ศาลสั่งให้ได้กรรมสิทธิ์ได้แบบครอบครองปรปักษ์ (ตามนัยคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5389/2549)
3.การครอบครองปรปักษ์ต้องเป็นการครอบครองทรัพย์ของผู้อื่น ทรัพย์ของตนเองไม่สามารถอ้างการครอบครองปรปักษ์ได้ เช่น อ้างว่าเป็นที่ดินของตนเองแต่ใส่ชื่อของคนอื่นแทน (ตามนัยคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 538/2536) หรืออ้างว่าครอบครองปรปักษ์ในที่ดินที่ได้รับมรดกมา (ตามนัยคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4843/2545)
4.การครอบครองทรัพย์ของผู้อื่น ผู้ครอบครองไม่จำเป็นต้องทราบว่าทรัพย์นั้นเป็นของผู้อื่น อาจเข้าใจว่าเป็นของตนเองก็ได้ (ตามนัยคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5794/2551, 5596/2552)
5.การครอบครองปรปักษ์ต้องเป็นการครอบครองด้วยเจตนาเป็นเจ้าของ คือ ต้องใช้สอยทรัพย์นั้นอย่างเดียวกับเจ้าของกรรมสิทธิ์ ขัดขวางไม่ให้ผู้อื่นเข้ายุ่งเกี่ยวกับทรัพย์นั้น และต้องไม่เป็นการครอบครองโดยอาศัยสิทธิหรือยอมรับสิทธิของบุคคลอื่น เช่น
5.1การที่ผู้ซื้อครอบครองที่ดินตามสัญญาซื้อขายถือว่าเป็นการครอบครองแทนผู้ขายจนกว่าจะโอนกรรมสิทธิ์ ไม่ได้กรรมสิทธิ์โดยครอบครองปรปักษ์ (ตามนัยคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7490/2551)
5.2การที่ทายาทคนหนึ่งครอบครองที่ดินมรดกทั้งหมด ถือว่าเป็นการครอบครองแทนทายาททุกคน ต้องมีการบอกกล่าวต่อทายาทอื่น ๆ ก่อนว่าเจตนายึดถือเพื่อตนจึงจะเริ่มนับว่าเป็นการครอบครองปรปักษ์ได้ (ตามนัยคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2760/2548)
5.3การครอบครองที่ดินโดยเจ้าของที่ดินอนุญาตให้อยู่อาศัยไม่ได้กรรมสิทธิ์โดยการครอบครองปรปักษ์ (ตามนัยคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5352/2539)
5.4เจ้าของรวมคนหนึ่งครอบครองที่ดินถือว่าครอบครองแทนเจ้าของรวมคนอื่น ๆ (ตามนัยคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 945/2537)
6.ถ้ามีการโอนกรรมสิทธิ์ในระหว่างที่ครอบครองปรปักษ์ยังไม่ครบ 10 ปี และผู้รับโอนได้กรรมสิทธิ์มาโดยสุจริตและเสียค่าตอบแทน มีผลทำให้การครอบครองปรปักษ์ก่อนหน้านี้สิ้นผลไป ต้องเริ่มนับระยะเวลาครอบครองใหม่ (ตามนัยคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5801/2544, 8700/2550)
7.ต้องเป็นการครอบครองโดยสงบ เช่น ไม่ได้ถูกฟ้องคดี และต้องเปิดเผย คือ ไม่ได้หลบ ๆ ซ่อน ๆ แต่แสดงออกต่อบุคคลทั่วไปโดยเปิดเผย
สรุป การครอบครองปรปักษ์ คืออะไร เป็นการแย่งกรรมสิทธิ์โดยการครอบครอง มีได้ทั้งอสังหาริมทรัพย์ และสังหาริมทรัพย์ สำหรับการครอบครองปรปักษ์อสังหาริมทรัพย์มีหลักเกณฑ์ตามที่กำหนดไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1382 ซึ่งครอบครองอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นของผู้อื่น โดยสงบและเปิดเผย ด้วยเจตนาเป็นเจ้าของ และได้ครอบครองติดต่อกันเป็นระยะเวลา 10 ปี (5 ปี สำหรับสังหาริมทรัพย์) *สังหาริมทรัพย์ เป็นสินทรัพย์ที่ไม่ติดอยู่กับที่ สามารถนำติดตัวไปไหนมาไหนได้ เช่น โบราณวัตถุ ,เพชร ,ทอง , รถยนต์ , และเครื่องประดับ เป็นต้น
ขอบคุณเนื้อหาจาก : wikipedia