สวัสดีครับ สำหรับใครที่เป็นคอหนังแนวอาชกรรมวันนี้เรามีภาพยนต์เรื่อง The Killer (นักฆ่า) มาให้ทุกคนได้ลองดูกัน โดยภาพยนต์เรื่องนี้ได้ผู้กำกับอย่าง David Fincher (เดวิด ฟินเชอร์) มากำกับภาพยนต์ โดย David Fincher เป็นผู้กำกับมากฝีมือ ที่นำเสนอเนื้อเรื่องของหนังได้อย่างดีเยี่ยม โดย The Killer ได้ดัดแปลงมาจากนิยายภาพฝรั่งเศสชื่อเดียวกันของ Alexis ‘Matz’ Nolent วาดภาพโดย Luc Jacamon และตีพิมพ์ครั้งแรกในปี 1998 ซึ่งเนื้อเรื่องนั้นจะเกี่ยวกับอาชกรรมอย่างไร สำหรับใครที่เป็นสายอ่านรีวิวและเรื่องย่อก่อนจะรับชมภาพยนต์ วันนี้เราจะพาทุกคนมาอ่าน The Killer รีวิว ไปพร้อม ๆ กัน
Moon in the Day เรื่องย่อ ซีรีส์แฟนตาซีดราม่า แค้นช้ามพบ จบที่รัก
The Killer รีวิว หนังอาชญากรรมที่เต็มไปด้วยลีลาและสไตล์
The Killer เป็นเรื่องราวของชายผู้โดดเดี่ยวและแสนเย็นชา ที่มีระเบียบวินัยเป็นอุปนิสัยหลักและไม่ยึดติดภาระผูกพันใด ๆ จากเศร้าโศกและไร้ศีลธรรม เขาเป็นนักฆ่าที่มักจะแอบซ่อนอยู่ในเงามืด เฝ้าดูเป้าหมายต่อไปของตัวเอง แต่ยิ่งเขารอนานมากขึ้นเท่าไหร่ เขาก็คิดว่าตัวเองกำลังจะเสียสติมากยิ่งขึ้นเท่านั้น และมันเกิดเป็นความผิดพลาด ดังนั้นมันจึงมาถึงจุดแตกหักที่ทำให้เขาเปิดศึกกับผู้ว่าจ้าง พร้อมกับยืนกรานว่ามันไม่ใช่ความแค้นส่วนตัวแต่อย่างใด
The Killer อาจจะไม่ใช่หนังนักฆ่าที่คอหนังทั่วไปปรารถนาและคาดหวังที่จะได้ชม เพราะตัวหนังไม่ได้ยัดฉากบู๊ต่าง ๆ เข้ามาอย่างขวนขวาย แต่เลือกที่จะนำเสนอออกมาอย่างมีชั้นเชิง แสนคมคาย และสอดแทรกประเด็นที่ทำให้คนดูชวนคิดวิเคราะห์ตามอยู่ตลอดเวลา ผ่านมุมมองของตัวละครหลักที่เป็นนักฆ่า แม้จะเย็นชาแต่มีเลือดเนื้อและจิตใจ
แน่นอนว่านี่คือหนังบู๊ที่เต็มไปด้วยคำพูดมากกว่าฉากบู๊ แต่เมื่อนำเอา 2 องค์ประกอบเข้ามารวมกันก็กลั่นกรองออกมาเป็นเต็มไปด้วยอรรถรสและสไตล์ที่เจ๋งชะมัด การแสดงของ “ไมเคิล ฟาสเบนเดอร์” คือเอาอยู่ทั้งเรื่อง ตั้งแต่ฉากแรกจนไปถึงฉากสุดท้าย เนี่ยแหละทักษะอันแสนดีงามของดาราที่เข้ามีชื่อเข้าชิงออสการ์มาถึง 2 ครั้ง 2 คราแล้ว
ไมเคิล ฟาสเบนเดอร์ กับแอคติ้งที่เรียบเชียบ เหมาะกับคาแรกเตอร์นักฆ่าที่เต็มไปด้วยความเย็นชาและความเหงาเป็นอย่างดี นี่อาจจะไม่ใช่บทบาทที่ยากเย็นอะไรสักเท่าไหร่สำหรับเขา และเขาก็สามารถทำมันออกมาได้อย่างน่าพอใจ แม้ว่าเขาจะเป็นตัวยืนโรงเป็นหลักของหนังเรื่องนี้ แต่หนังก็ยังมีตัวละครสมทบที่น่าตื่นตา โผล่ออกมาให้ได้ประทับใจเรื่อย ๆ ตลอดความยาว 2 ชั่วโมงของหนังเรื่องนี้
สรุป The Killer หนังมีสไตล์เฉพาะตัว และอาจดูเอื่อยมากในบางช่วง แต่ถ้าจับจุดได้จะสนุกกับมันมาก โดยบอกเล่ากระบวนการทำงานทุกอย่างของนักฆ่าทุกมิติ โดยแทบไม่มีบทพูดจากตัวละครเลย ทั้งเรื่องมีแต่เสียงบรรยายบอกเล่าอารมณ์ต่างๆ ออกมา ซึ่งมันดูแปลก มีความกดดันจากความนิ่งเงียบ แต่ก็ทำให้มีช่วงเวลาที่น่าเบื่อและก็ไม่ได้ทำให้เรื่องดูสมจริง และหนังที่รวมความเทพจากทีมงานและนักแสดงชั้นนำระดับโลก ที่ได้ปล่อยของอย่างอิสระด้วยแรงหนุนของสตรีมมิงระดับโลก และการเล่าเรื่องนักฆ่าที่มีรายละเอียดสนุกแตกต่างจากเรื่องอื่น
ขอบคุณเนื้อหาจาก : wikipedia