อาการแฮงค์ หรือ อาการเมาค้าง ที่เกิดหลังจากดื่มแอลกอฮอล์จำนวนมากเข้าไป หลังจากนั้นร่างกายก็จะแสดงปฏิกิริยาต่อต้านแอลกอฮอล์ขึ้นมา ซึ่งมีระดับความรุนแรงแตกต่างกันไป แต่อาการส่วนใหญ่ที่มักพบเจอ คือ อาการขาดน้ำ ปวดหัว หงุดหงิด คลื่นไส้ อาเจียน อ่อนเพลีย บางคนนอนไม่หลับ ลิ้นขาดรสสัมผัส ขมปากขมคอ มีไข้ ส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจ ทำให้เกิดอาการซึมเศร้า และวิตกกังวลตามมารวมทั้งมีอาการอ่อนเพลียตามมาอีกด้วย แต่ในวันนี้เราได้รวม วิธีแก้สร่างเมา มาให้กับสายดื่มที่ต้องการหายจากอาการเมาค้าง โดยการันตีว่าเป็นวิธีที่ใช้ได้จริง จะมีวิธีแก้สร่างเมาแบบไหนบ้างไปดูพร้อมกันได้เลย
วิธีแก้ฝันร้าย นอนไม่หลับ แนะนำ 4 เคล็ดลับ ทำทุกวัน หลับฝันดีแน่นอน
วิธีแก้สร่างเมา สร่างเมาอย่างรวดเร็ว
1.วิธีแก้สร่างเมาด้วยกาแฟ
คาเฟอีนอาจทำให้คุณ รู้สึก กระปรี้กระเปร่ามากขึ้น แต่ไม่ได้ช่วยให้คุณสร่างเมา. เมื่อคุณดื่มแอลกอฮอล์ มันจะซึมเข้าสู่กระแสเลือดและทำให้คุณรู้สึกมึนเมา แต่การดื่มกาแฟไม่ได้ช่วยลดปริมาณแอลกอฮอล์ในกระแสเลือด เพราะฉะนั้นมันจึงไม่ได้ช่วยให้คุณเมาน้อยลง คุณอาจจะรู้สึกตื่นตัวมากขึ้นหลังจากดื่มกาแฟเข้าไป แต่คุณไม่ได้มึนเมาน้อยลงหรือมีสติมากขึ้น
การดื่มกาแฟหรือเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนหลังดื่มแอลกอฮอล์ไม่ได้เพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่แม้ว่าคุณจะรู้สึกเมาน้อยลงก็ตาม
2.การรับประทานอาหารหลังดื่มจะช่วยให้คุณสร่างเมามากขึ้น
เมื่อแอลกอฮอล์เข้าสู่กระแสเลือดแล้ว การรับประทานอาหารไม่ได้มีผลอะไร. จริงอยู่ว่าการรับประทานอาหารก่อนหรือระหว่างดื่มแอลกอฮอล์ช่วยลดปริมาณแอลกอฮอล์ที่ร่างกายดูดซึมเข้าไปได้และทำให้คุณเมาน้อยลง แต่น่าเสียดายที่การรับประทานอาหารหลังจากที่แอลกอฮอล์ซึมเข้าสู่กระแสเลือดแล้วนั้นกลับไม่ได้ช่วยให้คุณสร่างเมาเร็วขึ้น อาหารไม่ได้ช่วยให้ร่างกายย่อยสลายแอลกอฮอล์ที่ดูดซึมเข้าไปแล้ว
- การดื่มตอนท้องว่างอาจทำให้คุณเมาเร็วขึ้น เพราะฉะนั้นคุณควรรับประทานอาหารสักมื้อก่อนหรือระหว่างดื่ม
3.การอาบน้ำเย็นช่วยให้สร่างเมา
การอาบน้ำเย็นไม่มีผลต่อระดับความมึนเมา. บางคนแนะนำให้อาบน้ำเย็นเวลาเมาเพื่อให้สร่างเมา แต่การอาบน้ำเย็นไม่ได้ช่วยลดปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกาย มันอาจจะทำให้คุณรู้สึกกระปรี้กระเปร่าขึ้นได้ชั่วคราว แต่คุณก็ยังไม่ได้กลับมามีสติเท่าเดิม
4.การอาเจียนช่วยกำจัดแอลกอฮอล์ออกจากร่างกาย
การอาเจียนออกมาไม่ได้ช่วยลดปริมาณแอลกอฮอล์ที่ดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดไปแล้ว. เมื่อคุณเริ่มรู้สึกถึงฤทธิ์ที่เกิดจากการดื่ม นั่นหมายความว่าแอลกอฮอล์ได้ซึมเข้าสู่กระแสเลือดไปแล้ว เพราะฉะนั้นการอาเจียนจึงเป็นแค่การเอาสิ่งที่อยู่ในท้องออกมา แต่ไม่ใช่สิ่งที่ร่างกายดูดซึมเข้าไปแล้ว
5.การออกกำลังกายช่วยให้แอลกอฮอล์ “ไหลออกมาตามเหงื่อ”
แอลกอฮอล์อยู่ในเลือด ไม่ใช่ในเหงื่อ. การเข้าฟิตเนส ออกไปวิ่ง หรือเดินนานๆ ไม่ได้ลดปริมาณแอลกอฮอล์ในกระแสเลือด แถมการออกกำลังกายยังอันตรายด้วยหากคุณไม่ได้สติและอาจทำให้คุณยิ่งขาดน้ำ
6.เวลาเท่านั้นที่ช่วยให้สร่างเมา
ร่างกายใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงย่อยสลายแอลกอฮอล์ 1 ดริงค์. การให้เวลาร่างกายย่อยสลายแอลกอฮอล์ที่ดื่มเข้าไปเป็นวิธีเดียวที่จะช่วยให้คุณเมาน้อยลงและมีสติมากขึ้น ให้เวลาร่างกายได้สร่างเมา
- การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอหรือแค่รอให้ฤทธิ์แอลกอฮอล์หมดไปเองคือวิธีที่ดีที่สุด แต่ถ้าคุณกังวลว่าตัวเองหรือคนรู้จักอาจเกิดภาวะสุราเป็นพิษ (อาการได้แก่ อาเจียน ชัก มึนงง หายใจช้าลงและไม่สม่ำเสมอ ภาวะตัวเย็นเกิน และ/หรือผิวหนังม่วงและซีด) อย่ารอหรือนอนรอให้อาการหายไป เรียกหน่วยบริการฉุกเฉินทันที
- ระหว่างนั้นก็ดื่มน้ำเพื่อรักษาระดับน้ำในร่างกาย การดื่มน้ำไม่ได้ช่วยให้สร่างเมาเร็วขึ้น แต่จะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดภาวะขาดน้ำจากแอลกอฮอล์
- ถ้าวันต่อมายังมีอาการเมาค้าง ให้รับประทานยาแก้ปวดที่หาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไป เช่น แอสไพริน ไอบูโพรเฟน หรือกลุ่มยาต้านอักเสบชนิดไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAID) หลีกเลี่ยงกลุ่มยาอะซิตามิโนเฟน เช่น ไทลินอล เพราะมันอาจไปทำลายตับถ้ายังมีแอลกอฮอล์หลงเหลือในร่างกาย
สรุป วิธีแก้สร่างเมา ที่เราแนะนำไปสามารถใช้ได้จริง ที่สามารถแก้อาการเมาค้างได้ โดยมีหลากหลายวิธีให้คุณเลือก แต่หากมีอาการ ปวดศีรษะ คลื่นไส้ หรือท้องเสีย ไม่หยุดภายใน 1 วัน ควรรีบไปพบแพทย์ เพราะภาวะร่างกายขาดน้ำอาจส่งผลอันตรายกว่าที่คุณคิด
ขอบคุณข้อมูลจาก : wikipedia
