ฟุตบอล เกมการแข่งขันระดับโลกที่มีกฎในการเล่นอันหนึ่งที่หลายคนคุ้นเคยเป็นอย่างดี คือ กฎการเล่นล้ำหน้า หรือ Offside ซึ่งเป็นกฎในการเล่นที่ตั้งขึ้นเพื่อความยุติธรรมในการเล่นของผู้เล่นทั้งฝั่งตรงข้าม ซึ่งกฎในการล้ำหน้านั้นจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อผู้เล่นฝ่ายรุกอยู่เหนือกว่าผู้เล่นฝ่ายรับตัวสุดท้าย แต่หากอยู่ในแดนของตนเองถ้าอยู่เหนือผู้เล่นฝ่ายรับจะไม่เป็นการล้ำหน้า
ฟุตบอล มีเงื่อนไขในการล้ำต่างๆ ในการเล่นคือ
เงื่อนไขในการไม่ล้ำหน้า
– หากผู้เล่นฝ่ายทีม A อยู่เหนือผู้เล่นฝ่าย B ในฝั่งของตนเอง และลูกฟุตบอลถูกเตะขึ้นหน้า ถ้าหากฝ่าย A วิ่งไปถึงบอลก่อน จะถือว่าไม่ล้ำหน้า เพราะ ออกสตาร์ทจากฝั่งของตนเอง
– ลูกเตะมุม จะถือว่าไม่เป็นการล้ำถึงแม้ว่าผู้เล่นฝ่ายรุกจะอยู่ติดกับประตูก็ตาม
– หากอยู่ในตำแหน่งล้ำหน้า และเพื่อนร่วมทีมส่งบอลให้แต่ไม่มีการวิ่งหรือเจตนาในการเล่น ปล่อยให้เพื่อนร่วมทีมคนอื่นเล่นถือว่าไม่ล้ำหน้าเช่นเดียวกัน
เงื่อนไขในการล้ำหน้า
– หากผู้เล่นฝ่ายรุก อยู่เหนือกว่าผู้เล่นฝ่ายรับตัวสุดท้าย ในฝั่งของผู้รับ เมื่อสัมผัสบอลจะถือว่าเป็นการล้ำหน้าทันที
– หากลูกฟุตบอลอยู่ในฝั่งของทีม A แต่ผู้เล่นทีม A อยู่เหนือผู้เล่นฝั่งรับ เมื่อสัมผัสบอลจะถือว่าเป็นการล้ำหน้าเช่นกัน
– จังหวะการทุ่ม หากผู้ทุ่ม ทุ่มบอลไปให้กับผู้เล่นที่วิ่งมาจากตำแหน่งล้ำหน้า ก็จะล้ำหน้าเช่นเดียวกัน
– ในกรณีของการเตะมุมซึ่งจะไม่มีการล้ำหน้า แต่เมื่อลูกฟุตบอลถูกโยนเข้ามาในกรอบเขตโทษ
– หากอยู่ในตำแหน่งล้ำหน้า และวิ่งกลับมารับบอลจากเพื่อนร่วมทีม จะถือว่า ล้ำหน้า ตัวอย่างเช่น ทีม A ได้ลูกเตะมุม แต่ทีม B สกัดบอลออกไปได้ ทำให้ผู้เล่นวิ่งออกมากข้างนอกประตู แต่ยังคงเหลือผู้เล่น A ที่ยืนตำแหน่งสูงกว่าผู้เล่น B บอลโยนจากกลางสนามมาให้ A ที่วิ่งกลับมารับบอล จะถือว่าล้ำหน้า
สำหรับอวัยวะที่ทำให้ผู้เล่นล้ำหน้าได้นั้นได้แก่ หัวไหล่ , ปลายท้าย , หัว ซึ่งหากมีการก้ำกึ่งในการล้ำหน้าหรือการล้ำหน้าที่ไม่ค่อยชัดเจนมากนักจะใช้การตัดสินจากอวัยวะดังกล่าว ซึ่งการล้ำหน้านั้นไม่มีการลงโทษผู้เล่น เพียงแต่ฝั่งที่โดนจับล้ำหน้าจะเสียฟาวล์เท่านั้น และฝั่งตรงข้ามจะได้ตั้งลูกบอลเพื่อเป็นฝ่ายเล่นแทน
สามารถรับข่าวสารฟุตบอลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.sccwiki.com/
ขอบคุณข้อมูลจาก : SCC777
อ้างอิง https://th.wikipedia.org/wiki/