จิตแพทย์ คืออะไร

ช่วงนี้สถานการณ์และสภาพแวดล้อมหลายอย่างอาจจะทำให้หลายคนคิดมาก และมีความเครียดมากขึ้นกว่าเดิม ทำให้ร่างกายไม่ค่อยคึกคัก กระชุ่มกระชวย สมองไม่ค่อยสดใสเหมือนแต่ก่อน ด้วยความทุกข์ใจและความเศร้าที่ถาโถมเข้ามา ในช่วงนี้นั่นเอง และด้วยความเครียดนี้อาจจะทำให้หลายคนเริ่มรู้สึกไม่ไหวกับความคิดของตัวเอง อยากจะไปพบจิตแพทย์มากขึ้น แต่สุดท้ายแล้วก็ไม่ได้ไปเพราะไม่กล้า กลัวคนอื่นจะเข้าใจผิดคิดว่าตัวเองเป็นบ้า แต่จริงๆ แล้วการพบจิตแพทย์นั้นไม่ได้หมายความว่าเราผิดปกติเพียงแค่อย่างเดียวนะ อาจจะเป็นเพราะเราไม่สามารถจัดการความคิดของเราได้ วันนี้ถึงจะพาทุกคนไขข้อข้องใจให้กระจ่าง จิตแพทย์ คืออะไร สร้างความเข้าใจกันใหม่ว่าการพบจิตแพทย์ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดจะมีอะไรบ้างมาดูกันเลย

จิตแพทย์ คืออะไร ความหมายที่แท้จริงที่หลายๆคนเข้าใจผิด

1.จิตแพทย์ไม่ได้มีไว้สำหรับคนป่วยเท่านั้น    

การที่เราคิดว่าจิตแพทย์มีไว้สำหรับคนที่ป่วยหนักเท่านั้น ถือว่าเราเข้าใจผิดมากๆ เลย เพราะการไม่สบายใจเพียงเล็กน้อยที่คนอื่นคิดว่าไม่หนัก อาจจะเป็นสัญญาณเตือนสู่โรคที่เราต้องเข้ารับการรักษาก็ได้ และอาการนี้อาจจะหนักขึ้นในระยะเวลาอันสั้นได้เช่นกัน เพราะฉะนั้นหากใครที่มีความวิตกกังวลไม่สบายใจแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ควรที่จะตัดสินใจแล้วเข้าไปพบคุณหมอได้แล้วนะ ก่อนที่จะสายเกินแก้

2.จิตแพทย์สามารถช่วยคุณได้

หลายคนมักจะมีความคิดว่าสุดท้ายเราก็คงต้องหายเอง หมอไม่ได้ช่วยอะไรเราหรอก แต่จริงๆ แล้วความคิดนี้อาจจะถูกเพียงแค่ครึ่งเดียว เพราะสุดท้ายแล้วความเศร้าภายในสมองและจิตใจจะดีขึ้นได้ด้วยตัวเรา แต่มันก็ไม่ทั้งหมด เพราะมีหลายคนที่มีความคิดเหล่านี้ ทำให้ไม่สามารถหายดีและหายขาดได้ เวลาไม่สบายใจก็จะทำให้ยิ่งรุนแรงขึ้นไปเรื่อยๆ จริงอยู่ที่อาการเหล่านี้บางครั้งก็สามารถหายเองได้ แต่หากเราฝากจิตใจให้คุณหมอดูแลนั้นต้องดีกว่าอย่างแน่นอน เพราะจิตแพทย์จะรับฟังปัญหาความคิดของเรา และสามารถวินิจฉัยโรคได้อย่างถูกต้อง และคุณหมอยังสามารถจ่ายยาที่จำเป็นต่อการรักษาให้เราหายขาดได้อีกด้วย

3.พบจิตแพทย์นั้นไม่เสียเงินและเวลามากเกินไปหรอกนะ

การพบจิตแพทย์นั้นไม่ได้ทำให้คุณเสียเงินค่ารักษาที่แสนจะแพงหรือเสียเวลามากเกินไปหรอก ความจริงแล้วการเข้ารักษากับจิตแพทย์นั้นมีหลากหลายรูปแบบ และแบ่งได้ตามระดับอาการซึ่งหากใครที่อาการเบารักษาง่ายค่าใช้จ่ายย่อมถูกกว่า และระยะเวลาที่ใช้ในการรักษาก็เร็วกว่าเคสที่มีอาการหนักอย่างแน่นอน ในเรื่องของการจองคิวนั้นไม่ต้องใช้เวลานานหรอก จริงๆ แล้วก็ขึ้นอยู่กับคุณหมอและขึ้นอยู่กับโรงพยาบาลด้วย ซึ่งโรงพยาบาลที่ดีและรวดเร็วนั้นก็มีมากมายหลายแห่ง ลองศึกษาและอ่านข้อมูลก่อนได้เลยนะ

4.จองคิวจิตแพทย์ง่ายนิดเดียว          

การจองคิวจิตแพทย์นั้นไม่เสียเวลาและไม่ยุ่งยากเลย เพียงแค่เราโทรไปโรงพยาบาลที่เราสนใจ แจ้งว่าอยากนัดพบจิตแพทย์เจ้าหน้าที่ก็จะประสานงานบันทึกชื่อคนไข้และข้อมูลต่างๆ พร้อมทั้งนัดเวลาให้กับเรา หลังจากนั้นเราก็แค่รอการโทรมายืนยันเพื่อพบคุณหมอเมื่อใกล้วันนัดแค่นั้นเอง ซึ่งการจองนี้ไม่เสียค่าใช้จ่าย หากวันจริงไม่สามารถพบหมอก็สามารถยกเลิกและเลื่อนวันจองคิวได้เช่นกันไม่ต้องกลัวเลยว่าจะต้องเสียเงินในขั้นตอนนี้

5.อาการที่ควรพบจิตแพทย์

-นอนไม่หลับ เบื่ออาหาร มีความเครียด

-ย้ำคิดย้ำทำอยู่เสมอ

-ไม่สบายใจ วิตกกังวล

-อาการคล้ายชักกระตุก คล้ายอัมพาต หรือเหมือนผีเข้า

-อยากฆ่าตัวตาย เมื่อเศร้าโศก เสียใจ

-อ่อนเพลียไม่มีแรงทั้งกายและใจ

-เหนื่อย ท้อแท้

-หูแว่ว เห็นภาพแปลก ระแวง ฟุ้งซ่าน คลั่ง

-แยกตัวเองออกจากคนอื่น ไม่พูดคุย ซึมเศร้า

-ติดสุรา สารเสพติด

-มีปัญหาด้านความจำหลงลืม


สามารถรับข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ : คลิกที่นี่

อ้างอิง : คลิกที่นี่

 

เป็นกำลังใจช่วยแชร์หน่อยค่ะ



ball