ประวัติ อินจัน

หากเราพูดกันถึงเรื่องของ “ฝาแฝด”  ชื่อของ อินจัน แฝดสยาม ( Siamese Twins ) เป็นชื่อที่มักถูกพูดถึงอันดับแรก ๆ ไม่ใช่มีชื่อเสียงแค่ในประเทศไทย แต่เป็นในระดับโลก กันเลยทีเดียว เพราะท่านทั้ง 2 คนนี้ เป็นฝาแฝดคู่แรก ที่สามารถใช้ชีวิตเหมือนคนปกติธรรมดาได้ แถมยังอาศัยอยู่ใน สหรัฐอเมริกา มีทายาทสืบต่อมากว่า 1500 คน อีกด้วย บทความนี้เลยอยากพาเพื่อน ๆ มาเปิดตำนานเล่า ประวัติ อินจัน แฝดสยาม บันลือโลก ให้เพื่อน ๆ ได้รู้ความเป็นมา ต้นกำเนิด และ บทบาทของ อินจัน ต่อประเทศไทย และ ต่อโลก เพื่อรำลึกถึงเขาทั้ง 2 กันสักหน่อย

ประวัติ อินจัน

ประวัติ อินจัน แฝดสยาม ( Siamese Twin )

ฝาแฝด อินจัน เกิดเมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2354 สมัยรัชกาลที่ 2 อินจัน มาจากครอบครัวคนไทยเชื้อสายจีนในจังหวัดสมุทรสงคราม เป็นบุตรของ นายที ชาวจีน และนางนาก ชาวไทย อินจัน เป็นฝาแฝดที่เกิดมาโดยมีหน้าอกติดกันและใช้ตับร่วมกัน มีท่อนเนื้อยาวขนาด 6 นิ้ว เชื่อมกันระหว่างอก ในบันทึกของชาวตะวันตกบอกว่า เนื้อที่เชื่อมกันนั้นสามารถยืดได้จนทั้งคู่สามารถหันหลังชนกันได้

อินจัน ถือว่าเป็นฝาแฝดคู่แรกของโลก ที่สามารถใช้ชีวิตปกติธรรมดา อย่างคนทั่วไปได้ ซึ่งผิดจากฝาแฝดคู่อื่น ๆ ที่เกิดมาในลักษณะเดียวกัน มักจะเสียชีวิตหลังคลอดไม่นาน ทว่าในสมัยนั้น อินจัน เกือบจะถูกประหารไปแล้วเหมือนกัน เนื่องจากมีความเชื่อที่ว่าเป็นตัวกาลกิณี แต่เคราะห์ยังดี ที่ถูกยกเลิกไป เพราะจริง ๆ แล้วไม่ได้มีเหตุร้านอันใดเกิดขึ้นอย่างที่หวาดกลัว

ประวัติ อินจัน

เมื่อทั้งคู่อายุได้แค่ 2 ขวบ พ่อก็เสียชีวิตลง ภาระจึงตกอยู่ที่แม่แต่เพียงผู้เดียว แฝดทั้งคู่จึงช่วยเหลือผู้เป็นแม่เท่าที่เด็กในวัยเดียวกันจะทำได้ จนในปี พ.ศ. 2367 ความพิเศษของเด็กทั้งคู่ทราบไปถึงพระกรรณของพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 จึงพระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้นางนากและ อินจัน เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท จากนั้นในปี พ.ศ. 2370 ก็มีพระบรมราชานุญาตให้ อินจัน เดินทางร่วมไปกับคณะทูตเพื่อเจริญสัมพันธไมตรีกับประเทศเวียดนาม ( สมั้ยนั้นเรียกว่า โคชินไชน่า )

ประวัติ อินจัน

ในปี พ.ศ. 2367 มีพ่อค้าชาวต่างชาติ ชื่อ นายโรเบิร์ต ฮันเตอร์ ได้นั่งเรือผ่านแม่น้ำแม่กลอง และได้พบแฝดคู่นี้กำลังว่ายน้ำเล่นอยู่ ด้วยความประหลาดและสนใจ นายฮันเตอร์จึงคิดที่จะนำฝาแฝดคู่นี้ไปแสดงโชว์ตัวที่สหรัฐอเมริกา จึงเข้ามาทำความสนิทสนมกับครอบครัวของ อินจัน อยู่นานนับปี จนในที่สุดปี พ.ศ. 2372 นางนากก็ยอมให้ลูกชายทั้งสองไปประเทศสหรัฐอเมริกา

ต่อมาปี พ.ศ. 2382 แฝดอินจัน อายุ 28 ปี ทั้งคู่ก็ได้ลงหลักปักฐานที่หมู่บ้านแทรปฮิลล์ เขตชานเมืองวิลส์โบโร เคาน์ตีวิลส์ ในรัฐนอร์ทแคโรไลนา โดยลงทุนซื้อที่ดิน 11 เอเคอร์ ทำอาชีพเกษตรกรรมไร่ฝ้าย พร้อมเปลี่ยนชื่อเป็น เอ็ง-ชาง บังเกอร์ (Eng and Chang Bunker) และเปลี่ยนสัญชาติเป็นอเมริกัน อีกทั้งยังได้แต่งงานกับสองสาวพี่น้องชาวอเมริกัน โดยอิน แต่งกับ Sarah Ann Yates มีลูกด้วยกัน 11 คน และจัน แต่งกับ Adelaide Yates Bunker มีลูกด้วยกัน 10 คน จนถึงทุกวันนี้ อิน-จัน บังเกอร์ มีลูกหลานสืบตระกูลถึง 1,500 คน ในสหรัฐอเมริกา

อินจัน บ้าน

กระทั่งวันที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2417 อินจัน ได้เสียชีวิตลง โดยจันเสียชีวิตไปก่อนด้วยอาการหัวใจวาย จากนั้นอีกราว 2 ชั่วโมงถัดมา อินก็ได้เสียชีวิตตามไปด้วย ซึ่งจากการชันสูตรและลงความเห็นของแพทย์สมัยใหม่ เผยว่า อินต้องสูญเสียเม็ดเลือดแดงให้แก่จันที่เสียชีวิตไปแล้ว ผ่านทางเนื้อที่เชื่อมกันที่อก

ภายหลังได้มีการสร้างอนุสรณ์สถานแฝดสยามอิน-จัน ที่ ต.ลาดใหญ่ อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม เพื่อเป็นอนุสรณ์สถานแด่ฝาแฝดสยามอิน-จัน ที่ได้สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยไปทั่วโลก ส่วนตับที่เชื่อมติดกันได้มีการเก็บรักษาไว้ที่พิพิธภัณฑ์ Mütter ในเมืองฟิลาเดลเฟีย รัฐเพนซิลเวเนีย และของใช้ส่วนตัวของ อิน-จัน ได้ถูกเก็บรักษาไว้ที่ห้องสมุดของมหาวิทยาลัยนอร์ทแคโรไลนา

เรื่องเพศสัมพันธ์ของ อินจัน กับภรรยา

มีรายงานระบุว่า เพื่อให้เป็นไปตามครรลองของประเพณีอันดีงาม และหลีกเลี่ยงคำครหาในยุคนั้น อิน-จัน ใช้วิธีขึงผ้าไว้ตรงกลางเวลาหลับนอนกับภรรยา กันไม่ให้อีกฝ่ายเห็นรายละเอียดของเพลงรัก เนื่องจากทั้งสองมีระบบประสาทที่แยกจากกัน จึงไม่น่าทำให้พลอยตื่นเต้นไปกับความรู้สึกต่าง ๆ นานาของอีกฝ่ายด้วย

ทั้งนี้ ด้วยความเป็นฝาแฝดของ อิน-จัน ส่งผลให้กรรมพันธุ์ดังกล่าวตกทอดสู่ทายาทในตระกูลของเขา โดยตระกูลบังเกอร์ให้กำเนิดทายาทฝาแฝดถึง 11 คู่ ทั้งหมดมีร่างกายปกติ และเหลนแฝดคู่แรกของตระกูลยังใช้ชื่อว่า อินจัน บังเกอร์ เหมือนบรรพบุรุษของเขา ปัจจุบันเหลนแฝดคู่นี้มีอายุ 69 ปี

เกล็ดความรู้จากบันทึก ของ อินจัน

จากบันทึกที่ได้บันทึกไว้ ระบุว่า จัน (คนน้อง) เป็นคนอารมณ์ร้อน หุนหันพลันแล่น และชอบดื่มเหล้าจนเมามาย ขณะที่ อิน (ผู้พี่) กลับมีนิสัยตรงกันข้าม คือ ใจเย็น สุขุมกว่า และไม่ดื่มเหล้า ทั้งคู่เคยทะเลาะวิวาทจนถึงขั้นชกต่อยกันเองมาแล้วด้วย


สามารถรับข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ : คลิกที่นี่

อ้างอิง : คลิกที่นี่

เป็นกำลังใจช่วยแชร์หน่อยค่ะ



ball