ไพ่รัมมี่ คืออะไร

ไพ่รัมมี่ คืออะไร เกมไพ่ต่าง ๆ ในประเทศไทย มีอยู่หลายรูปแบบ หลายสไตล์ให้เลือกเล่นเป็นจำนวนมาก แต่สำหรับคอเกมไพ่ ใครที่อยากจะเล่นเกมไพ่สนุก ๆ ไม่ต้องพึ่งดวงในการเอาชนะเพียงอย่างเดียว บทความนี่เรามีเกมพาน่าสนใจ ที่ต้องใช้สมอง ความรู้ความเข้าใจในการเล่น มากฝากกัน เกมนั้นคือ ไพ่รัมมี่ หรือ ที่บ้านเรารู้จักกันในชื่อชอง ดัมมี่ รัมมี่ นั่นเอง

สมัครเว็บพนัน

ไพ่รัมมี่ คืออะไร

ไพ่รัมมี่ (rummy) เป็นเกมไพ่จับคู่ ในการเล่นอาศัยการอ่านใจและอ่านไพ่บนมือคู่ต่อสู้ มากกว่าดวง นักคณิตศาสตร์หรือนักสถิติจะได้เปรียบในการแข่งรัมมี่ (หรือแม้แต่เกม โปเกอร์) การเล่นรัมมี่จะใช้เวลาค่อนข้างนาน แล้วแต่จำนวนผู้เล่น ดังนั้น ในความเป็นจริง นักพนันทั่วไปจึงไม่นิยมเล่นเกมนี้ เพราะได้เสียกันช้ากว่าเกมอื่นเช่น ป๊อกเด้ง ที่มีรอบการได้เสียหมุนเร็ว สิ่งที่สนุกในเกมไพ่รัมมี่ นอกจากการแข่งขันในเกมปกติคือ การกินมืด หรือ น็อกมืด ซึ่งสิ่งนี้มีผลทางจิตวิทยาในแข่งอีกด้วย

เกมรัมมี่มีหลายแบบ แบบที่นิยมในประเทศไทยคือดัมมี่ รัมมี่ หรือคนไทยเรียกว่า ดัมมี่ นั่นเอง

 แล้วไพ่รัมมี่ หรือ ดัมมี่ เล่นอย่างไร?

  • การแจกไพ่

ผู้เล่น 2 คนแจกคนละ 11 ใบ ผู้เล่น 3 คนแจกคนละ 9 ใบ ผู้เล่น 4 คนแจกคนละ 7 ใบ (ในบางกติกา สำหรับผู้เล่น 2 คน หลังจากแจกไพ่แล้ว จะคัดไพ่ 5 ใบจากก้นกองออกแยกไว้ เพื่อให้เป็นการยากแก่การนับไพ่ทำให้เกมท้าทายยิ่งขึ้น)

  • กติกา

หลังจากแจกไพ่แล้ว ไพ่ที่เหลือคือกองจั่ว ผู้แจกเปิดไพ่ใบบนสุดและวางไว้ข้าง ๆ กองจั่ว ไพ่ใบนั้นถือเป็นกองกลางสำหรับทิ้งไพ่ผู้เล่นคนแรกเริ่มโดยการจั่วไพ่หนึ่งใบจากกองจั่ว หรือเก็บไพ่จากกองกลางก็ได้ (อ่านเรื่อง “การเก็บไพ่” ด้านล่าง) หลังจากนั้นจึงทิ้งไพ่ลงมาหนึ่งใบโดยวางเรียงต่อจากไพ่กองกลางสำหรับผู้เล่นคนถัดมาเมื่อถึงตาผู้เล่นคนถัดมา ผู้เล่นเลือกว่าจะจั่วจากกองจั่วหรือเก็บไพ่จากกองกลางจากนั้นจึงทิ้งไพ่หนึ่งใบโดยวางเรียงต่อจากไพ่กองกลางสำหรับผู้เล่นคนถัดมา และวนไปจนกระทั่งผู้เล่นคนหนึ่งคนใด “น็อค” หรือจบเกม

เป้าหมายคือ ผู้เล่นแต่ละคนจะพยายามเรียงไพ่เป็นชุด ๆ ชุดละอย่างน้อยสามใบ คือ จัดตอง (เช่น 7♣ 7♦ 7♥ หรือ J♥ J♦ J♠ J♣) หรือเรียงไพ่ในดอกเดียวกัน (เช่น 4♦ 5♦ 6♦ หรือ 10♥ J♥ Q♥ K♥) ในเกมรัมมี่นี้ลำดับไพ่คือ 2 3 4 5 6 7 8 9 10 J Q K A เวลาทิ้งไพ่ลงบนกองกลาง ให้จัดเรียงเป็นแถวเพื่อให้สามารถเห็นไพ่แต่ละใบที่ทิ้งลงมาตามลำดับ

  • การเก็บไพ่

ผู้เล่นจะเก็บไพ่จากกองกลางได้ก็ต่อเมื่อสามารถนำไพ่จากกองกลางนั้นมาจัดเข้าชุดได้ทันทีเท่านั้น และผู้เล่นจะต้องมีไพ่อยู่ในมือแล้วอย่างน้อยหนึ่งใบที่จะนำมารวมให้เข้าชุดกับใบที่เก็บได้ ผู้เล่นเก็บโดยเริ่มจากใบที่จะนำมาจัดเข้าชุดและรวบลงมาจนถึงใบสุดท้าย และจะต้องวางไพ่ชุดนั้นหงายขึ้นบนโต๊ะทันที ชุดอื่น ๆ ที่สามารถจัดได้หรือใบฝาก (อ่านเรื่อง “การฝาก” ด้านล่าง) ที่เก็บมาได้นั้นผู้เล่นจะวางลงด้วย หรือจะเก็บไว้ในมือต่อไปก็ได้

  • การเกิด

เมื่อผู้เล่นคนใดเก็บไพ่จากกองกลางเป็นครั้งแรกและเปิดไพ่ชุดนั้นลงบนโต๊ะ ถือว่าผู้เล่นผู้นั้น “เกิด” แล้ว ผู้เล่นที่เกิดแล้วจะสามารถวางไพ่ที่จัดเข้าชุดแล้วในมือ หรือวางใบฝาก (อ่านเรื่อง “การฝาก” ด้านล่าง) ลงบนโต๊ะได้ทั้งในตานั้นและในตาถัด ๆ มา การเกิดมีประโยชน์คือ ผู้เล่นจะไม่ “ตกตึก” (อ่านเรื่อง “การตกตึก” ด้านล่าง) และชุดไพ่และใบฝากที่วางลงแล้วจะไม่ต้องถูกหักลบแต้มเมื่อจบเกม

  • การฝาก

การฝากคือการต่อไพ่อย่างน้อยหนึ่งใบ (ใบฝาก) จากชุดที่วางออกบนโต๊ะแล้ว ไม่ว่าจะเป็นชุดของผู้เล่นคนอื่น หรือของตัวเองก็ตาม เช่น ถ้าผู้เล่น ก. วางไพ่ชุด 8♣ 9♣ 10♣ J♣ ลงบนโต๊ะ ผู้เล่น ข. มีสิทธิฝาก Q♣ (หรือ 6♣ 7♣ ด้วยก็ได้) โดยการวางไพ่เหล่านั้นลงเมื่อถึงตาของผู้เล่น ข. ซึ่งหากผู้เล่น ข. ฝากด้วยการวาง 7♣ ลง ผู้เล่นคนอื่น ๆ ก็จะสามารถฝาก 6♣ ต่อได้เช่นกัน แต่หากเมื่อใดก็ตามที่เกิดไพ่ Q K A จะไม่สามารถฝากไพ่ต่อได้ เช่นนาย ก. วางไพ่ชุด Q K A ลงบนโต๊ะ เล่น ข. จะไม่มีสิทธิฝาก 2 หรือ 3 ได้ หากผู้เล่น ก. วางชุดตอง 9 9 9 ลงบนโต๊ะ ผู้เล่นใดที่มีเบอร์ 9 ใบที่เหลือก็สามารถฝากได้เช่นกันเมื่อถึงตาของตน การฝากนั้นจะวางไพ่ลงได้ก็ต่อเมื่อเป็นตาของผู้เล่นที่มีใบฝากและหากผู้เล่นได้ “เกิด” แล้ว หรือจะถือใบฝากไว้ในมือจนกระทั่งจบเกมก็ได้ การเล่นนั้นจะไม่สามารถฝากไพ่ได้เกิน 2 ใบต่อ 1 เกมๆนั้น

  • วิธีจบเกม หรือ น๊อก

   เมื่อไรที่ผู้เล่นคนหนึ่งคนใดได้จั่วไพ่ หรือเก็บไพ่จากกองกลางแล้ว และจัดเข้าชุดหรือ “ฝาก” ได้ครบหมด และเหลือไพ่อีกเพียงใบเดียว ถือว่าผู้เล่นผู้นั้น “น็อค” โดยผู้เล่นจะวางไพ่ในมือลงทั้งหมด และคว่ำไพ่ใบสุดท้ายนั้นลง หากไม่มีผู้เล่นคนใดสามารถน็อคได้เลย จนกระทั่งไพ่หมดจากกองจั่วแล้ว คือผู้เล่นจั่วไพ่ใบสุดท้าย และทิ้งไพ่ใบหนึ่งลงบนกองกลาง และผู้เล่นคนถัดมาไม่ สามารถเก็บไพ่จากกองกลางเพื่อน็อคได้ ให้ผู้เล่นแต่ละคนนับแต้มจากชุดที่วางลงแล้ว และหักลบคะแนนจากไพ่ที่ถืออยู่ในมือ ในเกมถัดมา ผู้เล่นที่น็อคจะได้เป็นคนเริ่มเกม

  • การนับแต้ม

ผู้เล่นแต่ละคนจะนับแต้มของตนเมื่อมีการจบเกมหรือ “น็อค” เบอร์ 2 3 4 5 6 7 8 9 ใบละ 5 แต้ม เบอร์ 10, J, Q, K ใบละ 10 แต้ม A ใบละ 15 แต้ม ไพ่สเปโตคือไพ่พิเศษซึ่งมีคะแนน 50 แต้มคือ 2♣ และ Q ♠ ไพ่ใบที่ใช้ “น็อค” ก็ถือว่ามีคะแนน 50 แต้มเช่นกัน ผู้เล่นจะได้แต้มเฉพาะจากไพ่ที่ได้วางหงายขึ้นบนโต๊แล้วเท่านั้น ไพ่ที่เหลืออยู่ในมือ ไม่ว่าจะเข้าชุดแล้วหรือเป็นใบฝากหรือไม่ก็ตาม จะต้องถูกติดลบ ผู้เล่นผู้ใดที่สะสมคะแนนได้ถึง 500 แต้มก่อนเป็นผู้ชนะ

  • การน๊อกมืด

หากผู้เล่นคนใดสามารถ “น็อค” ได้โดยมิได้ “เกิด” เลย คือจั่วจากกองจั่วเท่านั้น หรือเก็บไพ่จากกองกลางแล้วก็ “น็อค” ทันทีโดยที่ไม่ได้ “เกิด” มาก่อน ถือว่าผู้เล่นคนนั้น “น็อคมืด” ซึ่งแต้มของผู้น็อคมืดในเกมนั้นจะได้เป็นสองเท่า ซึงบอกเลยว่าเสี่ยงแต่คุ้ม

  • การตกตึก

หากผู้เล่นคนใดยังไม่ได้ “เกิด” (ไม่ได้เก็บไพ่จากกองกลางเลย) แล้วผู้เล่นคนอื่น “น็อค” ถือว่าผู้เล่นคนนั้นตกตึก แต้มที่ถืออยู่ในมือทั้งหมดจะถูกติดลบเป็นสองเท่า

  • การโง่ (โครตเจ็บ)

หากผู้เล่นคนใดทิ้งไพ่ลง และผู้เล่นคนถัดมาเก็บไพ่ใบนั้น ๆ เพียงใบเดียวแล้วน็อค ผู้เล่นที่ทิ้งไพ่จะถูกหักอีก 50 แต้ม หรือ “โง่” และเกมถัดมาให้แจกไพ่วนย้อนกลับ

 

 

ไพ่รัมมี่ คืออะไร

เกมนี้เหมาะกับใคร

สำหรับเกมไพ่ ดัมมี่รัมมี่นั้นก็จะเป็นเกมพนันที่เหมาะกับนักพนันที่มีประสบการณ์ระดับหนึ่ง เนื่องจากรูปแบบของการเดิมพันจะต้องใช้เทคนิคในการเล่นเพื่อให้สามารถเอาชนะการเดิมพันได้ แต่จริง ๆ แล้วเกมไพ่ประเภทนี้นักพนันทั่วไปที่อยากจะลองเล่นก็สามารถเข้ามาเล่นได้ อาจจะค่อย ๆ เป็น ค่อย ๆ ไป เพื่อหาประสบการณ์ในการเดิมพันที่ดีนั่นเอง

ทำไมเกมดัมมี่จึงเป็นที่นิยม

เราจะเห็นว่าเกมไพ่ประเภทนี้เป็นเกมเดิมพันที่มีความน่าสนใจอย่างมาก ทั้งวิธีการเล่น รูปแบบการเดิมพันที่ไม่เหมือนใคร และนี่ก็คือเหตุผลที่ทำให้นักพนันเลือกเดิมพันเกมไพ่ประเภทนี้อย่างต่อเนื่อง

  1. เป็นเกมฝึกสมอง นอกจากการเดิมพันเกมไพ่ประเภทนี้จะสนุกและได้กำไรเยอะแล้ว ยังเป็นเกมที่ช่วยให้ผู้เล่นได้ฝึกการใช้สมองอีกด้วย ทำให้ผู้เล่นมีทักษะในการเดิมพันที่ดี และสามารถนำสิ่งที่ได้จากการเดิมพันไปใช้ในชีวิตประจำวันเพื่อแก้ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว
  2. สนุก ได้ลุ้นตลอดเวลา เพราะเป็นเกมไพ่ที่ใช้เวลาในการเดิมพันพอสมควร จึงทำให้นักพนันได้ลุ้นไปกับการเดิมพันอยู่ตลอดเวลา จนรู้สึกเพลิดเพลินไปกับการเดิมพันอย่างไม่น่าเบื่อ

เป็นอย่างไรบ้างกับ การทำความรู้จักกับ ไพ่รัมมี่ ที่เราเอามาฝากกันในบทความนี้ ก็หวังว่าเพื่อน ๆ ที่ชมชอบเกมไพ่ จะสามารถเล่น รัมมี่ ได้อย่างสนุกมากขึ้นนะ

สมัครเว็บพนัน


เซ็กซี่บาคาร่า คืออะไร มีจุดเด่นตรงไหน ทำไมนักพนันถึงชอบเล่นกัน

อ่านบทความเกี่ยวกับเกมพนันอื่น ๆ : คลิกที่นี่

อ้างอิง : คลิกที่นี่

เป็นกำลังใจช่วยแชร์หน่อยค่ะ



ball