ไดจิ คามาดะ
ไดจิ คามาดะ ผู้ที่ได้ฉายาว่า เมซุส โอซิล แห่งแดนอาทิตย์อุทัย ด้วยผลงานที่น่าจับตามองจากการจบฤดูกาล 2023/24 ที่ผ่านมา ส่วนผลงานกับ ลาซิโอ ลงเล่นไปทั้งหมดรวมทุกรายการ 38 นัด ยิง 2 ประตู กับ 2 แอสซิสต์ โดยอยู่กับทีมแค่ปีเดียวเท่านั้น ทำให้ไม่ใช่เรื่องแปลกที่หลายทีมยักษ์ใหญ่จะให้ความสนใจในตัวเขาในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านพ้นไป แต่ในที่สุดแล้วเขาเลือกที่จะปักหลักค้าแข้งอยู่กับทีมต่ออีกหนึ่งฤดูกาล ต้องมาลุ้นกันว่าเขาจะสามารถยกระดับฝีเท้าขึ้นมาจนติดท็อปนักเตะเอเชียแถวหน้าของยุโรปได้หรือไม่ ซึ่งผลงานของต้นสังกัดในปีนี้ดูจะเริ่มต้นได้ไม่ดีนัก แถมหัวหอกตัวเก่งอย่าง อังเดร ซิลวา เพิ่งจะย้ายหนีไปซบ แอร์เบ ไลป์ซิก เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมาอีกด้วย อย่างไรก็ตามหากเขาทำได้สำเร็จ ไม่แน่ว่าเราอาจจะได้เห็นเขาย้ายมาเล่นใน พรีเมียร์ลีกอังกฤษ เร็ว ๆ และพร้อมโชว์ผลงานให้แฟน ๆ บอลได้ชมก็เป็นไปได้

ริคคาร์โด้ คาลาฟิออรี ประวัติ กองหลังอิตาลี ผู้เฉิดฉายสุด ๆ ในยูโร 2024 

ไดจิ คามาดะ มิดฟิลด์ทีมชาติญี่ปุ่นร่วมทีมคริสตัล พาเลซ

ไดจิ คา มาดะ เกิดเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม ปี 1996 (ปัจจุบันอายุ 25 ปี) ที่จังหวัดเอฮิเมะ ประเทศญีปุ่น โดยเขาเป็นคนที่คลั่งใคล้กีฬาฟุตบอลมาตั้งแต่เด็ก โดยเริ่มเล่นกับ เอฟซี ซีบรา คิดส์ สโมสรเยาวชนชื่อดังในประเทศก่อนจะพาทีมคว้าแชมป์รายการ ทีวี เอฮิเมะ คัพ ในรุ่นอายุไม่เกิน 12 ปี ซึ่งหลังจากนั้นเขาถูกสโมสรดัง กัมบะ โอซาก้า ทาบทามให้เข้าสู่ทีมเยาวชน แต่น่าเสียดายที่อาการบาดเจ็บทำให้เขาไม่ได้ไปต่อ จนต้องย้ายไปศึกษาต่อที่ ฮิงาชิยามะ ไฮสคูล ซึ่งที่นั้นเขาฉายแววโดดเด่นในการเล่นลีกระดับไฮสคูลจนในปี 2015 สโมสรชื่อดังอย่าง ซางัน โทสุ จัดการเซ็นสัญญาคว้าตัวไปร่วมทีมในที่สุด

  • เริ่มต้นเส้นทางสายอาชีพ

ในวัย 19 ปี คามาดะ ประเดิมประตูแรกในเกม เจลีก นัดเดบิวพา ซางัน โทสุ เฉือนเอาชนะ อัลบิเรกซ์ นิงาตะ 1-0 หลังจากนั้นเขาก็มีบทบาทกับทีมมากขึ้นเรื่อย ๆ และจบฤดูกาล 2015 ด้วยผลงาน 3 ประตูกับ 3 แอสซิสต์ โดยในฤดูกาลต่อมาเขาสามารถยึดตัวหลักในทีมได้อย่างต่อเนื่อง จนทำไปได้ 8 ประตูกับ 6 แอสซิสต์ ด้วยผลงานที่ดีวันดีคืนนั้นเองทำให้เจ้าตัวถูกเรียกไปติดทีมชาติญี่ปุ่นรุ่นอายุไม่เกิน 21 ปีเป็นครั้งแรก

  • ปีแรกสุดหินใน บุนเดสลีกาเยอรมัน

ต่อมาในปี 2017 เรียกได้ว่าเป็นจุดเปลี่ยนในอาชีพการค้าแข้งของเขาก็ว่าหลังจากฟอร์มของเขาไปเตะตาแมวมองของ ไอน์ทรัค แฟรงค์เฟิร์ต เข้าอย่างจังจนในเดือนมิถุนายนเจ้าตัวเซ็นสัญญาเป็นเวลา 4 ปีและย้ายไปเล่นในเยอรมนีด้วยค่าตัว 2.5 ล้านยูโร อย่างไรก็ตามการย้ายมาเล่นยังต่างแดนในปีแรกย่อมไม่ใช่เรื่องง่ายทั้งในการปรับตัว รวมถึงโอกาสในการพิสูจน์ตัวเอง โดยในฤดูกาล 2017/18 นั้นเขาได้ลงสนามไปเพียง 4 เกมเท่านั้นรวมทุกรายการและแทบไม่มีส่วนร่วมกับความสำเร็จที่ทีมสามารถคว้าแชมป์เยอรมันคัพมาครองได้ได้อย่างยิ่งใหญ่ในปีนั้น

  • จุดเปลี่ยนในลีกเบลเยียม

แต่แล้วใน ซีซั่น 2018/19 คามาดะ ตัดสินใจย้ายออกไปหาโอกาสลงสนามกับ เซงต์ ทรุยดอง ในลีกสูงสุดของเบลเยียม ซึ่งที่นั้นให้โอกาสเขาได้ลงวาดลวดลายอย่างเต็มที่ แถมยังถูกดันไปเล่นเป็นศูนย์หน้าตัวต่ำซึ่งตำแหน่งนั้นเข้าระเบิดฟอร์มเก่งซัดไปถึง 16 ประตูกับ 9 แอสซิสต์ ให้กับทีมจนต้นสังกัดที่แท้จริงอย่าง แฟรงค์เฟิร์ต ไม่รอช้ารีบดึงตัวกลับมาใช้งานทันที่ในซีซั่นถัดมา

ในฤดูกาล 2019/20 นี่เองที่ชื่อของเขาเริ่มเป็นที่รู้จักในเยอรมนี ด้วยสไตล์การเล่นที่เน้นใช้สมอง บวกการเทคนิคการจ่ายบอลแบบเหลือร้ายคล้ายคลึงกับ เมซุต เออซิล จนสื่อเริ่มตั้งฉายาให้กับเขาว่าเป็น “เออซิล เจแปน” ด้วยผลงาน 10 ประตูกับ 8 แอสซิสต์ พาต้นสังกัดเข้าถึงรอบ 16 ทีมสุดท้ายใน ยูโรปาลีก รวมถึงเข้ารอบ 4 ทีมสุดท้าย เดเอฟเบโพคาล น่าเสียดายที่ไปพ่ายต่อ บาเยิร์น มิวนิค อย่างหวุดหวิด 2-1 ซึ่งไฮไลท์ที่ถูกพูดถึงมากที่สุดเกิดขึ้นในเกมลีกที่พวกเขาบุกเอาชนะ แฮร์ธา เบอร์ลิน 1-4 จากจังหวะที่ คามาดะ ลากเดี่ยวเข้าเขตโทษหลบ 3 แผงหลังของเจ้าถิ่นก่อนหลอกจ่ายต่อให้ อังเดร ซิลวา ไขว้ยิงเข้าประตูไปอย่างสุดสวย และนั่นคือใบเบิกทางให้เขาติดทีมชาติชุดใหญ่พร้อมยึดตัวหลักมาได้อย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะในเกมฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกโซนเอเชียที่กำลังฟาดแข้งกันอยู่ในปัจจุบัน

  • ผลงานในปัจจุบัน

กระทั่งในปีที่ผ่านมา 2020/21 เขาสามารถระเบิดฟอร์มเก่งยิงไป 5 ประตูกับ 15 แอสซิสต์ใน บุนเดสลีกา และเป็นผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของทีมด้วยการเกือบจะพาต้นสังกัดไปเล่น ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก แต่น่าเสียดายที่มาพลาดในช่วงท้ายจนจบอันดับที่ 5 ในที่สุด แต่หากพูดถึงผลงานส่วนตัวแล้วเกือบครึ่งของ 45 ประตูที่ อังเดร ซิลวา หัวหอกตัวเก่งของทีมทำได้ตลอดสองซีซั่นที่ผ่านมาล้วนมาจากการจ่ายของ คามาดะ คนนี้ทั้งสิ้น

สรุป ไดจิ คามาดะ เคยผ่านการค้าแข้งมาแล้วกับ ซางัน โทสุ , ไอน์ทรัค แฟร้งค์เฟิร์ต (เยอรมัน) , แซงต์ ทรุยด็อง (เบลเยียม) และ ลาซิโอ (อิตาลี) ส่วนในนามทีมชาติ ติดทีมชาติญี่ปุ่น ชุดใหญ่ ตั้งแต่ปี 2019 ลงเล่นไปแล้ว 33 นัด ยิง 7 ประตู

และล่าสุดคริสตัล พาเลซ เปิดตัว ไดจิ เป็นมิดฟิลด์ทีมชาติญี่ปุ่นร่วมทีม ดาวเตะวัย 27 ปี ส่วนสูง 184 ซม. ย้ายจากทัพ “อินทรีฟ้า-ขาว” ซบ “ปราสาทเรือนแก้ว” แบบไม่มีค่าตัว หลังหมดสัญญากับทีมจบฤดูกาล 2023/24 ที่ผ่านมา ส่วนผลงานกับ ลาซิโอ ลงเล่นไปทั้งหมดรวมทุกรายการ 38 นัด ยิง 2 ประตู กับ 2 แอสซิสต์ โดยอยู่กับทีมแค่ปีเดียวเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ไดจิ จะได้ร่วมงานกับกุนซือ โอลิเวอร์ กลาสเนอร์ อีกครั้งที่ คริสตัล พาเลซ หลังเคยร่วมงานกันมาแล้วในสมัยค้าแข้งกับ ไอน์ทรัค แฟร้งค์เฟิร์ต ชุดคว้าแชมป์ยูฟ่า ยูโรปา ลีก 2021/22


ขอบคุณเนื้อหาจาก : wikipedia

เป็นกำลังใจช่วยแชร์หน่อยค่ะ



ball