โรนัลด์ อาเราโฆ
โรนัลด์ อาเราโฆ ย้ายมาเล่นให้กับสโมสรฟุตบอล บาร์เซโลน่า (Barcelona) ในปี 2018 ด้วยค่าตัว 4.7ล้านยูโร หรือ 186,032,020.79 บาท ซึ่งมีสัญญากับสโมสรฟุตบอล บาร์เซโลน่า ถึงปี 2026 โดยอาเราโฆเล่นในตำแหน่งกองหลังชาวอุรุกวัย เล่นในตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็ค (CB) เป็นหลัก แต่ก็สามารถขยับไปเล่นในตำแหน่งแบ็คขวา(RB)ได้ด้วย เขาเป็นกองหลังที่ครบเครื่อง มีวิสัยทัศน์ที่ดีและสามารถอ่านเกมได้อย่างเฉียบคม เขาสามารถคาดเดาการเคลื่อนที่ของคู่แข่งและสกัดกั้นการโจมตีได้ล่วงหน้า และอาเราโฆในวัย 25 ปี ยังถือได้ว่าหนทางยังอีกยาวไกล ด้วยร่างกายที่แข็งแกร่ง มีความเร็ว และยังมีการเล่นลูกกลางอากาศได้ดี มีทักษะในการเล่นเกมรับที่ดี จ่ายบอลแม่นยำ และความมุ่งมั่นในการลงเล่นฟุตบอลอยู่เสมอ ดาวเตะจากอุรุกวัยคนนี้ถือได้ว่าเล่นได้เกินอายุอย่างมาก แถมยืนได้แข็งแกร่งชนิดที่ช่วยให้เพื่อนร่วมทีมทำเกมบุกได้เพลิน ๆ แม้ฝั่งตรงข้ามจะหลุดมากี่รอบก็ชิลล์ เพราะมีอาเราโฆเก็บให้หมดทุกเม็ด พร้อมปะทะแนวรุกคู่ต่อสู้จนได้รับฉายานักเตะว่า “ควายป่า”

ประวัติ ดาเมียน มาร์ติเนซ โกลแชมป์โลก ที่ฟอร์มฮอต แรง ฉุดไม่อยู่ไปแล้ว 

โรนัลด์ อาเราโฆ เส้นทางสู่ปราการหลังของบาร์ซาโลนา

โร นัลด์ อา เราโฆ เกิดที่เมืองริเวรา เขตการปกครองริเวรา เขาเป็นลูกครึ่งที่มีพ่อเป็นอุรุกวัยและแม่เป็นบราซิล แถมเป็นลูกชายคนโตของตระกูล โดยอาเราโฆเองก็ถือได้ว่ามีความสามารถทางด้านการเรียนที่ไม่น้อยหน้าใครเมื่อได้มีชีวิตที่อิสระมากขึ้นกลับไปตกหลุมรักกีฬาชนิดหนึ่งที่มีชื่อว่า ฟุตบอล เรียกได้ว่าจากเด็กที่มีความมุ่งมั่นตั้งใจทางการศึกษาก็ออกลาย คลาสเรียนก็ไม่เข้า โดดเรียนประจำ เพราะจะได้ออกไปเตะฟุตบอลกับสหาย เท่านั้นยังไม่พอเขายังติดเกมอย่างหนัก โดยเฉพาะบรรดาเกมฟุตบอลไม่ว่าจะเป็น FIFA หรือ PES เขาก็เล่นแบบไม่รู้เดือนรู้ตะวัน และสุดท้ายได้อคาเดมีของสโมสรอูราคาน ทีมละแวกบ้านเกิดที่สนามซ้อมห่างจากบ้านไม่มาก

  • การเริ่มต้นเส้นทางในการค้าแข้ง

แต่ชีวิตไม่ได้มีอะไรง่าย ในตอนที่เริ่มต้นในอคาเดมี เขาต้องประสบกับปัญหาเล่นไม่คลิกกับทีมหรือกับแผนการเล่นใด ๆ ต่อให้ทีมจะคว้าโทรฟี่มาสารพัดแต่ตัวเขากลับเป็นเหมือนการลงไปยืน ๆ ให้ครบ 11 คนมากกว่าที่จะฉายแววความฉกาจฉกรรจ์อย่างที่วาดหวังไว้ทำให้ในที่สุดโค้ชจึงตัดสินใจเปลี่ยนตำแหน่งให้เขาไปยืนเซ็นเตอร์แบ็กแทน เนื่องจากความเร็วที่เขาเคยเล่นในแดนหน้าถือว่ามีมากกว่ากองหลังโดยทั่วไปที่มักจะเชื่องช้า แถมการเข้าสกัดบอลของเขาก็ยังทำได้ดีเยี่ยม ดีกว่าต้องไปสร้างสรรค์เกมและครองบอลนาน ๆ คิดเยอะ ๆ ให้เสียเวลา เมื่อบอลหลุดมา ไม่เข้าสกัดก็จ่ายออกปีกหรือแดนหน้าให้ไปทำเกมเลย เขาเพียงแค่รอเก็บตกจังหวะสองเป็นพอ

ซึ่งการเปลี่ยนตำแหน่งนี้เองที่ทำให้เขาได้ขยับระดับของตนเองให้ก้าวไกลมากขึ้น โดยเขาผ่านการคัดเลือกเข้าสู่อคาเดมีของ เรนติสตาส์ ในเมืองหลวงของประเทศ แม้จะมีเรื่องช้ำใจจากการไม่ผ่านการคัดเลือกเข้าสู่ เปนญารอล สโมสรระดับยักษ์ใหญ่ของประเทศมา นานวันเข้าเขาก็กลายเป็นกองหลังที่ถือได้ว่าครบเครื่อง แถมมาด้วยความแข็งแกร่งตามวัยที่เติบโต และได้เรื่องของความเก๋าในการอ่านเกมเพิ่มเข้ามา ในที่สุด 24 กันยายน 2016 ด้วยวัย 17 ปี เขาได้ลงสนามในฟุตบอลอาชีพในเกมที่พบกับ ทากัวเร็มโบ ในเซกุนด้า เบ ลีกรองของประเทศอุรุกวัย

  • บาร์เซโลน่าเริ่มสนใจในตัวของอาเราโฆ

ก่อนที่ในฤดูกาลต่อมา บอสตัน ริเวอร์ สโมสรระดับชั้นนำบนลีกสูงสุดของประเทศ ได้คว้าตัวเขาไปร่วมทัพ พร้อมกับแสดงเจตจำนงอย่างชัดเจนว่า “ไอ้หนุ่ม! เดี๋ยวพี่ให้ลงเป็น 11 ตัวจริงเลย” และก็เป็นเช่นนั้น 27 แมตช์ที่ลงสนาม ไอ้หนุ่มจากริเวราก็โชว์ฟอร์มเกินวัย 18 ปีไปมาก  โดยเฉพาะวิธีการเล่นแบบ “บุกเลยพี่ ตรงนี้ผมเคลียร์ให้” เพราะไม่ว่าบอสตัน ริเวอร์ จะบุกแบบหลังลอย บุกวันเวย์ หรือบุกโดยไม่สนเกมรับขนาดไหน แต่ในทุก ๆ พื้นที่ที่คู่ต่อสู้โจมตีเข้ามาก็จะมีอาเราโฆโผล่ไปสกัด แท็กเคิล หรือตัดฟาล์วได้ทัน ชนิดที่เรียกว่าคนเดียวเอาอยู่แบบไม่เคอะเขิน โดยทีมของเขาจบอันดับที่ 5 ของตารางคะแนนตั้งแต่ปีแรกที่ย้ายเข้ามาเลยทีเดียว

ตรงนี้นับว่าเป็นที่ถูกอกถูกใจของแมวมอง “บาร์เซโลน่า” อย่างมาก ขนาดที่ว่าต้องเบนเข็มจากการเฝ้าดูฟอร์มกองหลังดาวรุ่งอีกคนหนึ่งของสโมสร โบคา จูเนียร์ส มาดูฟอร์มอาเราโฆ และแน่นอนว่า 1.7 ล้านยูโรคือราคาที่ระบุไว้ในสัญญา พร้อมออปชัน 3.5 ล้านยูโรสำหรับอนาคต เพื่อกระชากตัวอาเราโฆไปอยู่ที่ ลา มาเซีย เมื่ออายุครบ 20 ปี (ปล่อยให้ต้นสังกัดเดิมใช้งานต่อไปอีกฤดูกาล)

ถึงแม้ว่าเขาจะมีชื่อเสียงคับประเทศอุรุกวัย แต่การบินข้ามน้ำข้ามทะเลมาอยู่คาตาโลเนียสำหรับเขาถือว่าโนเนมอย่างมาก และที่สำคัญ ณ ขณะนั้นในแผงเกมรับในตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็กของเจ้าบุญทุ่มถูกจับจองโดย ซามูเอล อุมติตี้ และ เคลมองต์ ล็องเลต์ นั่นทำให้อาเราโฆได้แต่ฝึกซ้อมไปเรื่อย ๆ อยู่กับบาร์เซโลน่า เบ ทีมสำรองของบาร์เซโลน่าแบบไม่เห็นอนาคตว่า ท้ายที่สุดเขาจะได้มีโอกาสไปสัมผัสกับคำว่าฟุตบอลอาชีพเต็มตัว แต่วิถีสุดเด็ดเดี่ยวในสนามกับการฉายเดี่ยวสกัดยังคงมีความต่อเนื่องจากอุรุกวัย ถึงขนาดที่สโมสรต้องตั้งค่าฉีกสัญญาระดับ 100 ล้านยูโรกันท่าทีมอื่นที่อยากคว้าตัวก่อน แม้ในความเป็นจริงทีมจะเลือกหยิบกองหลังที่โชว์ฟอร์มได้ไม่โหดเท่าเขาอย่าง ฌ็อง-แกร์ก โทดิโบ หรือ แยร์สัน มูริลโญ ไปแทน

นั่นเป็นคำกล่าวของเขาเมื่อย้อนกลับไปถึงวันที่ต้องนั่งทำอะไรวนลูปมาตลอด และก็ได้รับโอกาสลงสนามครั้งแรกในเกมที่พบกับ เซบีญ่า เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2018 โดยมีหน้าที่ตามประกบ ฮาเวียร์ “ชิชาริโต้” เอร์นานเดซ อดีตกองหน้าแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ใน 10 กว่านาทีที่เหลือของเกม แต่โอกาสแรกที่เขาได้เปิดหัวกับบาร์ซ่ากลับไม่สวยงามเท่าไร เพราะไม่กี่นาทีเขากลับโดนใบแดงไล่ออกจากสนามไปเสียอย่างนั้น และหลังจากนั้นเขาก็ถือได้ว่าหมดอนาคตกับทีมไปเลยเกือบ 2 ฤดูกาล จนกระทั่งการมาถึงของชายที่ชื่อว่า โรนัลด์ คูมัน

  • การมาของโรนัลด์ คูมัน

คูมันเมื่อครั้งเข้ามารับจ๊อบคุมทัพเจ้าบุญทุ่ม เมื่อฤดูกาล 2020-21 เพื่อยืนยันว่าเขาจะปั้นอาเราโฆแบบเต็มสูบ เห็นได้จากการมอบหมายเลข 4 ให้ไปสวมใส่ อันเป็นเครื่องการันตีว่าเขาจะอยู่ใน 25 ขุนพลชุดใหญ่ของทีม ซึ่งเหมือนปาฏิหาริย์หรือเพราะที่เขาอัดอั้นจากการโดนดองมาไม่ต่ำกว่า 2 ปีก็ไม่อาจทราบได้ แต่การลงสนามของเขายกระดับแผงกองหลังที่เริ่มจะปวกเปียกลง ทั้งจากวัยที่เพิ่มมากขึ้นหรือระดับมาตรฐานที่ลดลงของเกรดนักเตะที่บาร์โตเมวถลุงเงินไปซื้อมาแต่ไม่เข้าระบบกับทีมได้อย่างเหลือเชื่อ

เมื่อค้นพบว่าอาเราโฆสามารถยืนเป็นหลักได้จึงปล่อยให้ได้ยืนไปยาว ๆ และทีมก็ค่อย ๆ ฟอร์มดีขึ้นอย่างมาก สไตล์การเล่นแบบนี้ทำให้แฟนบอลหลายคนคิดถึง เคราร์ด ปีเก้ ตำนานของทีมในสมัยหนุ่ม ๆ หากแต่อาเราโฆมีความดุดันและมีภาระหน้าที่ที่หลักกว่ามาก เพราะตอนแรกเริ่มปีเก้มีปูโยลคอยขนาบข้าง แต่อาเราโฆต้องมาคอยขนาบคนที่มีอาวุโสมากกว่าทั้งที่ยังไม่พ้นวัยเยาวชน และที่ตลกร้ายก็คือต้องมาขนาบให้ปีเก้ในวัยชรา ที่ใจมีแต่ร่างกายจะไปแหล่ไม่ไปแหล่ ซ้ำยังตลกร้ายไปกว่านั้น เพราะอาเราโฆมีปีเก้เป็นไอดอล

  • เกมรุกจะทำให้ชนะ แต่เกมรับจะทำให้เป็นแชมป์

ก่อนเริ่มฤดูกาล หากมีใครหน้าไหนทำนายว่าบาร์เซโลน่าจะเสียประตูน้อยที่สุดในลีกและแจ้งเกิดแนวรับที่แข็งแกร่งย่อมต้องมีคนหัวเราะฟันร่วงกราวแน่นอน เพราะจากการพิจารณาย้อนหลังมาในช่วง 3-4 ปี บาร์ซ่าไม่เคยสร้างกองหลังขึ้นมาทดแทนที่มีอยู่ได้ และใช้แต่ผู้เล่นเก่า ๆ มาเรื่อย ๆ แต่อาเราโฆพิสูจน์ให้เห็นแบบชัด ๆ แล้วว่า ที่ผ่านมาเป็นเพียงแค่ “ฝันร้าย” ณ ตอนนี้ บาร์ซ่าแนวใหม่ได้จุติขึ้นแล้ว

แม้ในเกมระดับทวีปจะยังคงเป็นคำถาม จากการตกรอบเดิม 2 ปีติดในแชมเปี้ยนส์ลีก และโดน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สอนบอลอย่างเหลือเชื่อในรอบเพลย์ออฟของยูโรปา ลีก แต่ผลงานในลา ลีกา นั้นถือได้ว่าสวนทางอย่างมาก เพราะไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่กองหลังเพียงแค่คนเดียวจะสามารถไล่เก็บแดนหน้าของคู่ต่อสู้ในลีกเกิน 20 แมตช์

(สาเหตุที่ตัวเลขการลงสนามน้อย เพราะเขาเจ็บโคนขาหนีบ ต้องพักราว 2 เดือน) แถมทำสถิติไม่เสียประตูยาวนานถึง 7 แมตช์ติดต่อกัน (เกือบ ๆ 700 นาที) แถมยังต้องคอยประคับประคองกองหลังที่ทีมซื้อเข้ามาใหม่ที่อายุมากกว่าตัวเขาเองอีกต่างหาก

และที่สำคัญ ในเกมแห่งฤดูกาลที่พบกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ที่ใครหลายคนบ่นนักบ่นหนาว่าโดนเจ้าบ้านสอนบอล แต่เมื่อพิจารณาในรายละเอียดกลับเป็นอาเราโฆที่โดดเด่นอยู่คนเดียว แนวรุกของเจ้าบ้านแทบจะไม่มีใครเลี้ยงผ่านเขาได้เลย แต่กับ อันเดรียส คริสเตนเซ่น กลับผ่านฉลุยได้หมด

สรุป โรนัลด์ อาเราโฆ เกิดที่เมืองริเวร่า ประเทศอุรุกวัย เริ่มเล่นกับทีมเยาวชนของสโมสรฟุตบอล ฮูราคาน เดอ ริเวรา และด้วยผลงานต่าง ๆ ทำให้อาเราโฆได้เซ็นสัญญาร่วมทีมบาร์เซโลนา เป็นเวลาห้าปี โดยมีค่าตัว 1.7 ล้านยูโร และจะได้รับเพิ่มอีก 3.5 ล้านยูโรหากทำตามเงื่อนไข

แรกเริ่มเขาได้รับมอบหมายให้เป็นนักเตะของทีมชุดสำรอง ก่อนที่จะถูกดันขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ โดยเขาได้ลงเล่นในวันที่ 6 ตุลาคม ปีเดียวกัน ในฤดูกาล 2020–21 อาราอูโฆ ได้รับการลงทะเบียนขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ โดยได้สวมเสื้อหมายเลข 4 แทนที่ของอิวัน ราคิติชที่ย้ายออกจากทีม โดยอาเราโฆมีสัญญากับสโมสรฟุตบอล บาร์เซโลน่า ถึงปี 2026


ขอบคุณเนื้อหาจาก : wikipedia

 

เป็นกำลังใจช่วยแชร์หน่อยค่ะ



ball