หลายคนอาจจะพูดว่า ตอนนี้ยังหนุ่มยังสาวอยู่ ยังมีแรงพอที่จะทำงานมาก ๆ เก็บเงินให้ได้เยอะ ๆ พอแก่ตัวแล้วจะได้สบาย หรือเคยได้ยินว่าการงานหนักไม่เคยฆ่าใคร อาจจะเป็นที่ประโยคที่คุ้นหูสำหรับหลาย ๆ คน ในวัยเรียน หรือวัยทำงาน นั้นก็ไม่ผิดหรอกที่จะคิดเช่นนั้น แต่ต้องระวังไว้หน่อยเพราะถ้าโหมงานหนักเกินไป เงินที่เก็บไว้แทนที่จะเอาไปใช้ซื้อของ หรือท่องเที่ยว ก็อาจจะต้องควักออกมาใช้รักษาตัวแทน เพราะว่าการทำงานหนักเสี่ยงต่อการเป็น โรคคาโรชิ หรือ Karochi syndrome แต่ถ้าแปลเป็นภาษาอังกฤษจะหมายถึง Death from Overwork หรือ การเสียชีวิตจากการทำงานหนัก โดยมีความร้ายกาจของมันก็ถึงขั้นเสียชีวิตเลยก็ว่าได้ ซึ่ง โรคคาโรชิ คืออะไร มีอาการอย่างไร อะไรคือปัจจัยเสี่ยง ป้องกันได้หรือไม่
ค่า tds คืออะไร ส่งผลต่อน้ำดื่มของคุณอย่างไร รู้ไว้มีประโยชน์
โรคคาโรชิ คืออะไร ภัยร้ายที่อาจจะเกิดขึ้นกับคุณก็ได้
โรคคา โรชิ คือ อะไร สำหรับโรคนี้มีที่มาจากประเทศญี่ปุ่น เราคงเคยได้ยินข่าวว่า พนักงานชาวญี่ปุ่นเสียชีวิตโดยไม่ทราบสาเหตุบ่อยมาก บางคนนั่งรถไฟกลับบ้านอยู่ดี ๆ ก็เสียชีวิตเอาดื้อ ๆ ทางการแพทย์จึงฟันธงว่า สาเหตุการเสียชีวิตน่าจะมาจากโรคคาโรชินี่แหละ ที่เกิดจากการทำงานหนักมาก ๆ จนร่างกายทนต่อไปไม่ได้ ซึ่งหลายคนไม่รู้ตัวว่าเป็นโรคนี้แล้ว จึงยังคงทำพฤติกรรมเดิม ๆ ทำงานหนักจนเครียด พอเครียดแล้วก็ไปดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือกินอาหารคลายเครียด ทีนี้กินมาก ๆ เข้า ไขมันในเลือดสูงขึ้น โรคอื่น ๆ ก็ตามมาอีก สะสมไปเรื่อย ๆ นานวันเข้าร่างกายก็น็อก นี่แหละภัยเงียบของการบ้างาน
โรคนี้มีประวัติมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1970 หลังยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ประเทศญี่ปุ่นถูกกองทัพสหรัฐอเมริกาทิ้งระเบิด ทำให้บ้านเมืองเสียหายยับเยิน หลังจากนั้น คนญี่ปุ่นจึงต้องทำงานหนักมากขึ้นกว่าเดิมหลายสิบเท่าเพื่อฟื้นฟูประเทศ ซึ่งภายหลัง ประเทศญี่ปุ่นก็กลายเป็นประเทศที่เจริญก้าวหน้าขึ้นอย่างรวดเร็ว อาจจะบอกได้ว่า อดีตที่แสนเจ็บปวดได้ปลูกฝังให้คนญี่ปุ่นเป็นคนขยันขันแข็ง อดทน และผูกพันกับองค์กรมาก อีกทั้งการทำธุรกิจมีการแข่งขันกันสูงมาก ทำให้ชาวญี่ปุ่นทำงานหามรุ่งหามค่ำ พักผ่อนไม่เพียงพอ ไม่กลับบ้านกลับช่อง สุดท้ายเกิดความเครียด โรคต่าง ๆ ก็ถามหา ไม่ว่าจะเป็นความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ โรคมะเร็ง แม้กระทั่งอัมพาต
ไขข้องสงสัยเกี่ยวกับโรคคาโรชิ
- สัญญาณเตือนโรคคาโรชิ
อาการทั่ว ๆ ไปของคนที่ทำงานหนัก ก็คือ มักจะปวดเมื่อยตามตัว ปวดหลัง ปวดท้ายทอย ปวดไหล่ ปวดสายตา คล้ายกับโรคออฟฟิศซินโดรม แต่คนที่ทำงานหนักมาก ๆ จนถึงขั้นเรียกว่า “บ้างาน” ได้นั้น อาจมีภาวะผิดปกติทางอารมณ์เกิดขึ้นด้วย เช่น โมโหเพื่อนร่วมงาน ชอบชักสีหน้า ฉุนเฉียว มองอะไรขวางหูขวางตาไปหมด และให้ความสนใจแต่เรื่องงาน งาน งาน เท่านั้น ไม่ค่อยสนใจคนอื่น ซึ่งพฤติกรรมแบบนี้นอกจากจะกระทบความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงานแล้ว ยังอาจจะมีปัญหากับคนในครอบครัวด้วย
- โรคคาโรชิ อันตรายไหม
อย่างที่บอกไปแล้วว่า โรคคาโรชิอาจทำให้เกิดโรคร้ายหลาย ๆ โรคตามมา สืบเนื่องจากความเครียด และการพักผ่อนไม่เพียงพอ เมื่อยังไม่เลิกพฤติกรรมเดิม ๆ ห่วงแต่งาน เครียดแต่งานซ้ำ ๆ ไม่มีเวลาไปออกกำลังกาย ไม่มีเวลาผ่อนคลาย ไม่มีเวลากินข้าว เครียดมาก ๆ ก็ไปสูบบุหรี่ กินเหล้า
- มาป้องกันโรคคาโรชิกันดีกว่า
จริง ๆ เราสามารถป้องกันโรคนี้ได้ง่าย ๆ แค่คุณรู้จักจัดสรรเวลาในการทำงานให้ถูกต้อง ต้องรู้ว่าเวลาไหนที่ควรจะพักผ่อนได้แล้ว ไม่ควรตรากตรำทำงานหนักมากเกินไป ต้องรู้จักปรับเวลาการทำงาน และการพักผ่อนให้สมดุลกัน ตระหนักไว้ก่อนเลยว่า สุขภาพเราสำคัญที่สุด ถ้าเป็นอะไรขึ้นมามันไม่คุ้มกันเลยนะ
สรุป โรคคาโรชิ คืออะไร โรคจากการทำงานหนักจนถึงขั้นเสียชีวิตได้ เริ่มต้นส่งผลกระทบต่อสุขภาพ ด้วยความอ่อนเพลีย เหนื่อยล้า พักผ่อนไม่เพียงพอ ขาดสารอาหาร เครียดสะสม เป็นที่รู้จักครั้งแรกในประเทศญี่ปุ่น รวมทั้งประสบภาวะทางจิตใจ รู้สึกไร้ค่า กดดันตัวเอง หดหู่ ทำให้อัตวินิบาตกรรมลาจากโลกนี้ไปในที่สุด
ขอบคุณเนื้อหาจาก : wikipedia