แดน เบิร์น ประวัติ
แดน เบิร์น ประวัติ Daniel เป็นนักฟุตบอลชาวอังกฤษ เล่นในตำแหน่งกองหลัง ปัจจุบันสวมเสื้อหมายเลข 33 เล่นให้กับสโมสร นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ทีมจากศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ แต่น่าเสียดายที่เจ้าตัวไม่มีชื่อที่ทีมชาติเลยสักครั้ง

จนในปี 2025 เบิร์นได้รับเรียกตัวให้ติด ทีมชาติอังกฤษชุดแรกของโทมัส ทูเคิล ผู้จัดการ ทีมคนใหม่สำหรับการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก กับแอลเบเนียและลัตเวีย มีสไตล์การเล่นลูกกลางอากาศได้อย่างยอดเยี่ยมมาก ๆ จนปัจจุบันนี้กลายเป็นกองหลังที่ไว้ใจได้อย่างมากของสโมสร นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด และเบิร์นในวัยถึง 32 ปี ถือว่ารักษาร่างกายได้ดีมาก ๆ และรักษามาตรฐานในการเล่นได้อย่างต่อเนื่อง

โรเจอร์ เฟอร์นานเดส รู้จักอีกหนึ่ง วิงแบ็กดาวรุ่งพุ่งแรง ที่แมนยูกำลังสนใจ  

แดน เบิร์น ประวัติ Daniel ยักษ์ใหญ่ปราการหลังสุดแกร่ง ของนิวคาสเซิล

แด น เบิร์ น ประ วัติ Daniel Burn มีชื่อเต็มว่า แดเนียล จอห์นสัน เบิร์น Daniel Johnson Burn เกิดวันที่ 9 พฤษภาคม ค.ศ. 1992 เป็นผู้เล่นที่มีรูปร่างที่ใหญ่มากๆกับส่วนสูงถึง 198 เซนติเมตร

เส้นทางการเล่นฟุตบอลของแดน เบิร์น ตั้งแต่แดนเบิร์นได้เริ่มเล่นฟุตบอลนั้นเขาก็ได้เข้าสู่สโมสร นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด เป็นสโมสรแรก ซึ่งต้องบอกว่าเป็นเด็กอีกหนึ่งคนที่ผ่านการเล่นในอคาเดมี่มามากมาย ไม่ว่าจะเป็นสโมสร นิว ฮาร์ทลี่ย์ บลายธ์ ทาวน์ และ บลายท์สปาร์ตัน

สุดท้ายเจ้าตัวได้มาจบที่สโมสร ดาร์ลิงตัน พร้อมกับการได้กล่าวขึ้นเล่นฟุตบอลอาชีพกับสโมสรนี้ และแดน เบิร์น ได้เซ็นสโมสรอาชีพกับสโมสร ดาร์ลิงตัน ในปี 2009 จนถึงปี 2011 ด้วยความที่เจ้าตัวยังเป็นเด็กดาวรุ่งอยู่ที่เก้าขึ้นมาสู่ทีมชุดใหญ่จึงไม่ค่อยได้รับโอกาสในการลงสนามสักเท่าไหร่ ได้รับโอกาสลงสนามไปเพียง 14 เกมเท่านั้น ก่อนที่เจ้าตัวจะถูกปล่อยไปให้กับสโมสร ฟูแล่ม ในปี 2011

ในปี 2011 แดน เบิร์น ได้เซ็นสัญญากับสโมสร ฟูแล่ม แต่หลังจากที่เซ็นสัญญาเจ้าตัวถูกส่งไปเก็บประสบการณ์กับสโมสร เยโอวิล ทาวน์ ทีมสำรองของฟูแล่ม เจ้าตัวสามารถทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมทำไปถึง 2 ประตูกับการลงสนาม 34 เกมก่อนที่ฤดูกาลต่อมาจะออกไปเก็บประสบการณ์อีกครั้งกับสโมสรเบอร์มิงแฮม ซิตี้ ทีมในลีกแชมเปี้ยนชิพ ประสบการณ์ทำผลงานได้ดีอย่างต่อเนื่องจนทำให้ต้นสังกัดต้องดึงตัวกลับมาร่วมทัพในปี 2014

เจ้าตัวได้ลงสนามรับใช้ฟูแล่มไปทั้งหมด 61 เกมทำไปได้อีก 1 ประตู ก่อนที่จะโบกมือลาในปี 2016 และในปี 2016 เจ้าตัวได้เซ็นสัญญาใหม่กับสโม วีแกน แอธเลติก ด้วยสัญญา 3 ปี พร้อมกับการทำผลงานได้ดีอย่างต่อเนื่องทำไปได้อีก 6 ประตูกับการลงสนาม 87 เกมกับสโมสรวีแกน และในปี 2018 เจ้าตัวก็ต้องหาความท้าทายใหม่อีกครั้งกับสโมสร ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน

ในปี 2018 เบิร์น ได้ย้ายเข้าสู่สโมสร ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน ก่อนจะถูกปล่อยยืมไปเล่นให้กับ วีแกนแอตแลนติกในฤดูกาล 2018-19 อีกครั้ง แต่ในช่วงนั้นเจ้าตัวได้ลงสนามไปเพียง 14 เกมเท่านั้นและในฤดูกาล 2019 จนถึง 2022 จะเอาตัวก็ได้กลับมาเล่นให้ต้นสังกัดพร้อมกับการลงสนามไปมากถึง 74 เกมทำไปได้อีก 2 ประตู จนทำให้สโมสรในพรีเมียร์ลีกต้องการตัวไปร่วมทัพ

แดน เบิร์น ได้ย้ายเข้าสู่สโมสร นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ในวันที่ 31 มกราคม 2022 ซึ่งเป็นสโมสรที่เขาไปกันมาตั้งแต่เด็ก เจ้าตัวจริงตัดสินใจเซ็นสัญญากับสโมสรโดยสัญญา 2 ปีครึ่ง พร้อมกับการเปิดตัวกับสโมสรในวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2022 และเจ้าตัวก็ใช้เวลาไม่นานในการปรับตัวและก้าวขึ้นเป็นกำลังสำคัญของทีมได้ในที่สุด จนถึงปัจจุบันนี้เจ้าตัวลงสนามรับใช้สโมสรไปแล้วทั้งหมดถึง 60 เกม ทำไปอีก 2 ประตู พร้อมกับกลายเป็นกองหลังที่กุนซือไว้ใจเป็นอย่างสูง

สรุป แดน เบิร์น ประวัติ Daniel Burn เปิดตัวในฟุตบอลลีกกับ แดร์ริงตัน ในปี ค.ศ. 2009 และเข้าร่วมทีม ฟูลัม เมื่อจบฤดูกาล 2010-2011 โดยลงเล่น 19 นัดกับดาร์ลิงตัน เขาใช้เวลาในฤดูกาล 2012-13 ยืมตัวไป โยวิลทาวน์ ซึ่งเขาได้ลงเล่น 41 นัดและใช้เวลาส่วนหนึ่งของฤดูกาลถัดมาในการยืมตัวไปยัง เบอร์มิงแฮมซิตี เขาเข้าร่วมทีม วีแกนแอทเลติก เมื่อสัญญาของเขากับฟูลัมหมดลงเมื่อจบฤดูกาล 2015-16 เบิร์นเซ็นสัญญากับ ไบรตันแอนด์โฮฟอัลเบียน ก่อนฤดูกาล 2018-19 และถูกยืมตัวกลับไปวีแกนจนถึงมกราคม ค.ศ. 2019 เขาพิสูจน์ตัวเองในฐานะผู้เล่นตัวหลักของไบรตันตั้งแต่ฤดูกาล 2019-20 ก่อนที่จะเซ็นสัญญากับ นิวคาสเซิลยูไนเต็ด สโมสรในวัยเด็กของเขาในเดือนมกราคม ค.ศ. 2022


ขอบคุณเนื้อหาจาก : wikipedia

เป็นกำลังใจช่วยแชร์หน่อยค่ะ



ball