เสือเขี้ยวดาบ ทำความรู้จัก เสือโบราณ สุดยอดนักล่าหลังยุคไดโนเสาร์

เสือเขี้ยวดาบ (saber-toothed tiger) เสือนักล่าสัตว์โบราณหลังยุคไดโนเสาร์ ที่เรามักจะเห็นโลกภาพยนตร์ การ์ตูน หรือสื่อต่าง ๆ ที่มักจะนำเสนอในรูปลักษณ์คล้ายแมวใหญ่ เสือ หรือสิงโต ถึงแม้จะมีแบบจำลองในพิพิธภัณฑ์ ในศิลปะโบราณที่น่าทึ่ง และโลดเล่นในภาพยนตร์เกี่ยวกับยุคน้ำแข็ง

แต่รูปลักษณ์จริง ๆ ของ ‘เจ้าเขี้ยวดาบ’ เหล่านี้ยังคงเป็นปริศนา จากกระแสฮือฮาบนโลกออนไลน์ที่มีการค้นพบมัมมี่ลูกเสือเขี้ยว ดาบสมบูรณ์ครั้งแรกเป็นครั้งแรกของโลก โดยนักวิทยาศาสตร์พบมัมมี่ลูกเสือเขี้ยว ดาบในชั้นดินเยือกแข็งหรือเพอร์มาฟรอสต์ (permafrost) ใกล้กับแม่น้ำบาเดียรีคา (Badyarikha) ของไซบีเรียก็ทำให้โลกได้เห็นเขี้ยวดาบที่เคยเดินแต่ไปทั่วซีกโลกเหนือเมื่อประมาณ 32,000 ปีก่อนชัดเจนขึ้น

พาเดล คืออะไร รู้จักกีฬา Padel ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่นักบอล 

เสือเขี้ยวดาบ (saber-toothed tiger) สัตว์นักล่าหลังยุคไดโนเสาร์ 

เสือเขี้ยว ดาบ (saber-toothed tiger) หรือ สไมโลดอน (Smilodon) จัดอยู่ในเผ่า Smilodontini ในวงศ์ย่อย Machairodontinae ของวงศ์เสือและแมว (Felidae) เสือเขี้ยว ดาบเป็นสัตว์ตระกูลแมวที่มีเขี้ยวยาวที่สุดในโลก เมื่อกัดเข้าไปที่คอเหยื่อ จะทำให้เหยื่อมีโอกาสตายสูง แต่อย่างไรก็ตามเสือเขี้ยว ดาบก็ยังมีขนาดที่เล็กกว่านักล่าตระกูลแมวใหญ่ทั่วไปเนื่องจากมันมีขนาดเท่ากันกับแมวในปัจจุบัน แต่ขนาดที่เล็กก็ยังทำให้มันวิ่งได้เร็วและคล่องแคล่วว่องไวเหมือนกับสิงโตอเมริกา (Panthera atrox)

หลังจากการสูญพันธุ์ของไดโนเสาร์และโลกเข้าสู่ยุคของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ก็ได้มีสัตว์นักล่าสายพันธุ์ต่าง ๆ ปรากฏขึ้นมามากมาย โดยเสือเขี้ยว ดาบถือเป็นหนึ่งในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมนักล่าที่โดดเด่นและอันตรายที่สุดชนิดหนึ่งที่เคยอยู่บนโลกใบนี้ และมีลักษณะเด่นเป็นเขี้ยวคู่บนที่งอกยาวออกจนพ้นริมฝีปากจะยื่นยาวและแบนเรียบโค้งไปทางด้านหลังคล้ายกับใบกริช เขี้ยวที่ยาวนี้ช่วยให้พวกมันสามารถจัดการกับสัตว์กินพืชหนังหนาในตระกูลเดียวกับแรดและหมู ซึ่งเริ่มกระจายพันธุ์กว้างขวางในสมัยไมโอซีน

มีถิ่นกำเนิดจากทวีปอเมริกาเหนือและกระจายพันธุ์เข้าสู่อเมริกาใต้หลังการเกิดขึ้นของแผ่นดินที่เชื่อมสองทวีปเข้าด้วยกันในสมัยไพลสโตซีนตอนกลาง โดยเสือเขี้ยว ดาบมีช่วงขาค่อนข้างสั้น แข็งแรง เขี้ยวยาวกว่า 25 ซม. และอาจมีน้ำหนักตัวเกือบ 200 กิโลกรัม

ลักษณะโครงสร้างร่างกายที่หนาและบึกบึน บ่งบอกว่าไม่ใช่นักล่าที่รวดเร็วมากนัก นักบรรพชีวินวิทยาเชื่อว่า เสือเขี้ยว ดาบน่าจะล่าเหยื่อขนาดใหญ่ที่หนังหนาและเคลื่อนไหวช้า อย่างพวกมาสโตดอน ไบซันยักษ์ สลอธยักษ์ แมมมอธโคลอมเบีย รวมทั้งมาครอคีเนียที่ดูคล้ายอูฐผสมกับสมเสร็จ และทอคโซดอนซึ่งมีรูปร่างหน้าตาและขนาดใกล้เคียงกับฮิปโปโปเตมัส เป็นอาหาร

สายวิวัฒนาการของเสือเขี้ยว ดาบ

เสือเขี้ยว ดาบสืบเชื้อสายมาจาก โปรไอลูรัส (Proailurus) สัตว์ตระกูลแมวชนิดแรกของโลกที่มีวิวัฒนาการขึ้นเมื่อ 30 ล้านปีก่อน ในสมัยโอลิโกซีน โดยพวกเสือเขี้ยว ดาบ

ได้แยกสายวิวัฒนาการของพวกมันเมื่อราว 15 ล้านปีก่อน ในสมัยไมโอซีนตอนกลาง[5] สายพันธุ์เกี่ยวเนื่องต่าง ๆ ในอเมริกามีหลากหลายสายพันธุ์เช่น โฮโมเทอเรียม (Homotherium) สิงโตอเมริกา เสือซิคิมิต้า เสือชีตาห์อเมริกา ในปัจจุบันสายพันธุ์ที่ใกล้ชิดมากที่สุดอาจเป็นเสือลายเมฆ (Neofelis) หรือสิงโตแอฟริกา ดีเอ็นเอที่รักษาไว้อยู่ที่ระดับ 3/5 สัตว์ที่อุ้มบุญได้น่าจะเป็นสิงโต ความเหมาะสมในการอุ้มบุญ 3/5 หรือเหมาะสมพอประมาณ

สรุป เสือเขี้ยว ดาบ (saber-toothed tiger) เป็นสกุลของแมว ที่สูญพันธุ์ไปแล้ว เป็นสัตว์นักล่าเขี้ยวดาบและสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมยุคก่อนประวัติศาสตร์ที่รู้จักกันดีที่สุดชนิดหนึ่ง

โดยรวมแล้วเสือเขี้ยวดาบมีโครงสร้างที่แข็งแรงกว่าแมวตัวอื่นๆในปัจจุบันโดยมีขาหน้าที่พัฒนามาเป็นอย่างดีและเขี้ยวบนที่ยาวเป็นพิเศษขากรรไกรของมันมีช่องว่างที่ใหญ่กว่าแมวในปัจจุบัน ซึ่งล่าสุดจากกระแสออนไลน์นักวิจัยค้นพบมัมมี่ของลูกเสือเขี้ยวดาบอายุ 35,000 ปีในพื้น สาธารณรัฐซาฮา ทางตะวันออกเฉียงเหนือของรัสเซีย หรือที่เรียกว่ายาคุเตีย ในปี 2020 การศึกษาวิจัย ที่

ตีพิมพ์ ในวารสารScientific Reports เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาระบุว่ามัมมี่ดังกล่าวมีอายุเพียง 3 สัปดาห์เมื่อมันตาย แต่สาเหตุการตายของนั้นยังไม่สามารถระบุได้แน่ชัด

ขอบคุณเนื้อหาจาก : wikipedia