เลียม ดีแลป 
เลียม ดีแลป แข้งรากหญ้าที่ปั้นลูกชายให้เป็นดาวรุ่งตัวท็อปอังกฤษ หน้าที่หลักของกองหน้าคือ ‘ยิงประตู’ อย่างไรก็ตาม ‘ทีมเวิร์ค’ คืออีกหนึ่งคุณสมบัติสำคัญของกองหน้าเช่นกัน เลียมมีคุณสมบัติสองข้อนี้

โดยสถิติได้บ่งบอกเอาไว้ เขาลงเล่นในทีม U18 และทีม EDS ของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ไปทั้งหมด 27 นัด มีส่วนร่วมกับ 28 ประตู, จำแนกเป็นยิง 18 ประตู และแอสซิสต์อีก 10 ครั้ง โดยเขาลงเล่นไปแล้ว 12 แมตช์จนถึงตอนนี้กับทีมอะคาเดมี่ รวมถึงทีมชุดใหญ่

โดยรายการหลักที่ลงเล่นคือ ‘พรีเมียลีก 2’ ซึ่งเขายิงไป 6 ประตูใน 8 เกม โดยเป็นการยิงใส่ทีมดาร์บี้, อาร์เซน่อล, เชลซี, ลิเวอร์พูล และไบร์ทตัน และคุณพ่อของเขาลงเล่นไปทั้งหมด 11 นัดกับทีมชาติไอร์แลนด์ และเป็นปกติที่เขาคาดหวังจะให้เจ้าลูกชายลงเล่นตามรอยของเขาให้กับทีม ‘ยักษ์เขียว’ แต่เลียม กำลังลงเล่นให้กับทีมชาติอังกฤษชุดเยาวชนจนถึงตอนนี้ ไล่มาตั้งแต่. U15, U16, U17 และแน่นอนว่าในทีมชาติชุดใหญ่ เขายังมีโอกาสที่จะตัดสินใจเลือกทีมชาติได้อีกครั้งในอนาคต

และกำลังเป็นหนึ่งในนักเตะที่ถูกมองว่าจะเป็นตัวแทนของ แฮร์รี่ เคน ในอนาคต ช่วงเวลาการไต่ระดับของเขาเริ่มขึ้นอีกครั้ง และจากสิ่งที่เขาแสดงออกมากับ อิปสวิช ในเวลานี้ ไม่แน่ว่าถิ่น พอร์ทเมน โร้ด อาจจะเล็กเกินไปสำหรับดาวรุ่งจอมห้าวอย่างเขาก็เป็นได้

ประวัติ เดนิส ลอว์ ดาวดับแสง ตำนานบัลลังดอร์ ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

เลียม ดีแลป แข้งรากหญ้าที่พ่อปั้นลูกชายสู่ดาวรุ่งตัวท็อปอังกฤษ ทั้งพ่อ-ลูก ตระกูลดีแลป

เรื่องราวของ เลีย ม ดี แลป เริ่มต้นจากคุณพ่อที่เป็นตำนานจอมทุ่มไกลแห่ง สโต๊ก ซิตี้ อย่าง รอรี่ ดีแลป และ เลียม โตทันได้เห็นวันที่พ่อของเขาดังสุด ๆ จนถึงวันที่พ่อของเขาเป็นนักเตะระดับลีกล่าง ๆ ที่ไม่ค่อยมีโอกาสได้ลงสนาม ซึ่งประสบการณ์ครั้งนั้น

ได้สอนเขาอย่างมาก และทำให้เขามาถึงจุดนี้ได้ และพวกเขาเข้ามาที่อังกฤษและขายแรงงานเลี้ยงชีพตั้งแต่ยุคทวด จนกระทั่ง รอรี่ รุ่นที่ 3 ของตระกูล เกิดมาและพบว่าตัวเองไม่อยากจะทำงานใช้แรงเหมือนกับปู่และพ่อ โดยเขามีความฝันที่แตกต่าง เพราะอยากจะเป็นนักฟุตบอล

รอรี่ ทำได้ดีระดับหนึ่ง ด้วยการสามารถคัดตัวเข้าทีม คาร์ไลส์ ยูไนเต็ด ทีมในลีกรอง ๆ ตั้งแต่อายุ 16 ปี และได้เงินเบี้ยเลี้ยงสัปดาห์ละ 90 ปอนด์ โดยใช้เวลา 2 ปี ก็ก้าวขึ้นมาอยู่กับทีมชุดใหญ่ได้ในปี 1994 ซึ่งกว่าจะก้าวผ่านตรงนั้นได้ก็แทบรากเลือด

เพราะสโมสรมีพิธีรับน้องสำหรับนักเตะที่ขึ้นทีมชุดใหญ่ได้ โดย รอรี่ เจอการ “ซ่อม” เหมือนกับทหาร ซึ่งทำให้เขาเกือบถอดใจเลิกเล่นเลยทีเดียว และรอรี่ ดีแลป โตมากับฟุตบอลแบบนั้น ฟุตบอลที่อ่วมตั้งแต่ก่อนลงสนาม และเขาพยายามพัฒนาตัวเองขึ้นมาจากการเล่นในลีกรอง

จนเขาสามารถก้าวพ้นจากความเป็นดาวรุ่งได้ ด้วยการถูก ดาร์บี้ เคาน์ตี้ ในลีกสูงสุดซื้อตัวไปร่วมทีมด้วยราคา 2 แสนปอนด์ ในปี 1998 และจากนั้นเขาถีบตัวเองเป็นนักเตะระดับพรีเมียร์ลีก ซึ่งนอกจากจะเป็นความสำเร็จในแง่ของฟุตบอลแล้ว เขาก็กลายเป็นคนที่ทำให้การเงินในครอบครัวดีขึ้น และดีดตัวขึ้นมาจากชนชั้นแรงงาน ขึ้นมาเป็นชนชั้นกลางอย่างเต็มตัว

  • สอนลูกชายให้สู้ด้วยตัวเอง

รอรี่ ดีแลป กลายเป็นนักเตะระดับพรีเมียร์ลีก และลงเล่นกับหลากหลายสโมสร จนกระทั่งลูกชายของเขา เลียม ลืมตาดูโลกในเดือนกุมภาพันธ์ 2003 ซึ่งตอนนั้น รอรี่ ลงเล่นให้กับ เซาธ์แฮมป์ตัน ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่เขามีชื่อเสียงมากที่สุดช่วงหนึ่ง และรอรี่ ดีแลป พยายามเลี้ยงลูกของเขาให้ดีที่สุด

และเขาก็มั่นใจว่าด้วยเงินที่หาได้สัปดาห์ละหมื่นปอนด์ กับค่าเงินในยุคนั้น เขาสามารถสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้ลูกชายของเขาได้ โดย เลียม ก็เป็นเด็กที่ชอบฟุตบอล ตามพ่อไปที่สโมสรด้วยเป็นประจำ และช่วงที่เขาจำความได้ดีที่สุด และอยากจะเป็นนักฟุตบอลมากที่สุด ก็เป็นช่วงเวลาที่ รอรี่ พ่อของเขาเป็นข่าวหน้าหนึ่งในแทบทุกสัปดาห์

ในช่วงกลางต่อปลายยุค 2000s รอรี่ ดีแลป ดังมากในเรื่องของการทุ่มไกล โทนี่ พูลิส ที่คว้าตัว รอรี่ มาร่วมทีมในปี 2006 ดึงศักยภาพของเขาที่เคยเป็นนักพุ่งแหลนระดับแชมป์ภูมิภาคให้เป็นประโยชน์ในการทุ่มลูกฟุตบอลที่อันตรายที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอลอังกฤษ

และบอลของเขาพุ่งแรง และโค้งได้เหมือนกับลูกเตะมุม ยิ่งมาผนวกกับกลุ่มนักเตะของสโต๊คที่เป็นพวกยักษ์ใหญ่ สูง 190 เซนติเมตรกันครึ่งค่อนทีม ลูกทุ่มของ ดีแลป จึงเป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมที่สุดที่พวกเขารอคอย เรียกได้ว่าการทุ่มของเขานั้น แม่นยำถึงขนาดเป็นอาวุธหลักที่ทำให้สโต๊กไม่เพียงเลื่อนชั้นจาก แชมเปี้ยนชิพ สู่ พรีเมียร์ลีก

ยังอยู่รอดในพรีเมียร์ลีกได้ตลอดช่วงที่ดีแลปอยู่กับสโมสรเลยทีเดียว ช่วงเวลาเดียวกันนั้น เลียม เล่าว่า เขาอายุได้ราว ๆ 8 ขวบ และจำความรู้สึกในเวลานั้นได้ และเขารู้ว่าพ่อของเขาฝึกหนักแค่ไหน ในการทำให้ลูกทุ่มกลายเป็นลูกหากินระดับพลิกชีวิต ที่ใคร ๆ ก็ต้องนึกถึงจนกระทั่งทุกวันนี้

  • ก้าวออกมา อย่ากลัวใคร

เลียม พยายามสู้อย่างมากในช่วงเวลากับ แมนฯ ซิตี้ เป้าหมายของเขาคือการเล่นให้ทีมชุดใหญ่ของสโมสรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของอังกฤษ เพียงแต่ว่า แมนฯ ซิตี้ มีนักเตะระดับโลกเข้ามาเป็นกองหน้าในแทบทุกซีซั่น หมดจากยุค เซร์คิโอ กุน อเกวโร่ ก็มาถึงยุค เออร์ลิ่ง ฮาลันด์

ดังนั้นเด็กท้องถิ่นอย่าง เลียม จึงยากที่สอดแทรกนักเตะเหล่านี้ได้ และโชคดีที่เขาถูกสอนให้หาตัวตนของตัวเองให้เจอตั้งแต่ยังเด็ก ไม่มีอะไรจะพัฒนานักเตะดาวรุ่งได้ดีกว่าลงเล่นในเกมจริง ๆ ของทีมชุดใหญ่ เลียม อายุ 21 ปี แล้วและแทบไม่มีบทบาทในทีมชุดใหญ่มากนัก ในฤดูกาล 2024-25 เขาจึงเลือกที่จะสร้างเส้นทางใหม่ของตัวเอง ด้วยการย้ายไปอยู่กับทีมน้องใหม่ พรีเมียร์ลีก อย่าง อิปสวิช ทาวน์ หลังก่อนหน้านี้ลงเล่นแบบยืมตัวกับหลายสโมสรใน แชมเปี้ยนชิพ

พ่อของเขาทำให้ชีวิตของเขาสุขสบาย และได้โอกาสมากมายในชีวิต แต่ เลียม ก็มีฝันของตัวเอง การได้เห็นพ่อของเขาสู้ผ่านช่วงชีวิตของการเป็นนักเตะอาชีพ ไม่ว่าจะเป็นตอนรุ่ง ๆ ทำเงินได้มาก หรือแม้กระทั่งช่วงปลายอาชีพที่บาดเจ็บจนเล่นไม่ได้จนต้องประกาศแขวนสตั๊ดกับ เบอร์ตัน อัลเบี้ยน ใน ลีกทู เมื่อปลายปี 2013

ทำให้ เลียม ได้เห็นสิ่งที่นักเตะดาวรุ่งหลายคนไม่เคยได้เห็นและสัมผัสมันอย่างใกล้ชิดเหมือนกับที่เขาได้สัมผัสจากประสบการณ์ของพ่อ และเมื่อเขารู้ว่าอาชีพนักฟุตบอลนั้นแสนนั้น และการหยุดพัฒนาก็คือการฆ่าตัวเองช้า ๆ เลียม จึงเป็นนักเตะในแบบที่เราเห็น พัฒนาตัวเองอย่างรวดเร็ว ไม่กลัวการออกไปอยู่กับทีมเล็ก ๆ เพื่อพิสูจน์ตัวเอง

และพร้อมวิ่งชนกองหลังทุกคน คู่แข่งทุกทีม แม้ว่าตัวของเขาจะอายุแค่ 21 ปี และทีมของเขาก็เป็นแค่ทีมเล็ก ๆ ที่ 2 ปีก่อนยังเล่นใน ลีกวัน อยู่เลยด้วยซ้ำ

สรุป เลียม ดีแลป ลงประเดิมสนามนัดแรกกับทีมชุดใหญ่ในเกมกับบอร์นมัธ รายการคาราบาว คัพเมื่อวันที่ 24 กันยายน 2020 ในเกมนั้น เขาถูกเลือกให้เป็นตัวจริงและไม่ทำให้ของบอสเป๊ป กวาดิโอล่าผิดหวัง เลียมยิงประตูแรกได้ทันทีและช่วยให้ทีมผ่านเข้าสู่รอบต่อไป

นอกเหนือจากนั้น, เขาได้ประเดิมลงเล่นในพรีเมียร์ลีกเป็นที่เรียบร้อย ในเกมกับเลสเตอร์​ซิตี้ โดยถูกเปลี่ยนตัวลงมาแทนที่ของแฟร์นันดินโญ่ในนาทีที่ 51 และถ้าหากเอ่ยชื่อ รอรี่ ดีแลปนี้แฟน ๆ พรีเมียร์ลีกหลายคนต้องรู้จักดีอย่างแน่นอน, อดีตดาวเตะพรีเมียร์ลีกผู้มีลูกทีเด็ดคือการ “ทุ่มไกล” รอรี่ คือพ่อของ เลียม, และตอนนี้ ลูกชายของเขากำลังดำเนินรอยตามพ่อ ขึ้นมาโลดเล่นอยู่ในลีกที่ดีที่สุดในโลกอย่างพรีเมียร์ลีก แตกต่างกันตรงที่คุณพ่อของเขาเล่นในตำแหน่งตัวรับ แต่เจ้าลูกชายเล่นเป็นกองหน้า

แน่นอนว่า, ในช่วงเวลาที่รอรี่กำลังทุ่มไกลอยู่ในพรีเมียร์ลีกนั้น เลียมอายุเพียงแค่ 10 ขวบ และตอนนี้เด็กหนุ่มเติบโตขึ้นมา ในวัย 17 ปีเขาพร้อมแล้วที่จะสร้างตำนานของตัวเองให้แฟน ๆ พรีเมียร์ลีกได้จดจำ ว่าเขาคือ ‘ดีแลป’ อีกคนที่เก่งไม่แพ้กัน


ขอบคุณเนื้อหาจาก : wikipedia

เป็นกำลังใจช่วยแชร์หน่อยค่ะ



ball