หวย เป็นการแทงเดิมพันที่หลายคนชื่นชอบเป็นอย่างมากเนื่องจากเป็นการเดิมพันประเภทตัวเลขที่มีให้เลือการเดิมพันมากมายหลายรูปแบบด้วยกัน ทั้งการแทงเดิมพันแบบ 3 ตัวตรง 3 ตัวโต๊ด , สองตัวบนล่าง และเลขวิ่ง ซึ่งหวยบางประเภทก็สามารถแทงเดิมพันได้ตลอดเวลา 24 ชั่วโมง ด้วยระบบการเล่นเดิมพันที่ง่าย ทำให้หวยหุ้น , หวยไทย , หวยลาว , หวยฮานอย , หวยเวียดนามและหวยประเภทอื่นได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในปัจจุบัน ซึ่งสามารถเล่นได้ผ่านโทรศัพท์มือถือ สมาร์ทโฟน Android IOS และคอมพิวเตอร์ โดยไม่เสี่ยงต่อกฎหมายและไม่มีหลักฐาน หวยหุ้น คืออะไร เป็นอีกหนึ่งหวยที่ได้รับความนิยมในการเล่นเป็นจำนวนมากซึ่งหวยหุ้นนั้นในระบบการแทงหวยออนไลน์ของผู้ให้บริการประกอบไปด้วยหวยในรูปแบบต่างๆ เช่น หวยหุ้นไทย , หวยหุ้นนิเคอิ , หวยหุ้นดาวน์โจน และอื่นๆอีกมากมาย ซึ่งภายในประเทศไทยหวยหุ้นไทยได้รับความนิยมมากที่สุด
หวยหุ้นต่างประเทศ หวย รัสเซีย เยอรมัน อังกฤษ ออกกี่โมง จ่ายเท่าไร ที่นี่มีคำตอบ
หวยหุ้น คืออะไร ? คือการแทงตัวเลขโดยทายผลจากตัวเลขอ้างอิงของรางวัลจากตลาดหลักทรัพย์ของประเทศไทย ซึ่ง หวยหุ้นไทยนั้นมีให้ผู้เล่นได้เล่น 5 วันต่อสัปดาห์ คือ จันทร์ – ศุกร์ (เสาร์และอาทิตย์ ตลาดหุ้นปิดตัว) ซึ่งหวยหุ้นไทยจะออกรางวัลตามเวลาทำการของตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งออกวันละ 4 รอบ คือ
- เปิดตลาดหุ้นรอบเช้า ออกรางวัล เวลา 10.00 น.
- ปิดตลาดหุ้นตอนเที่ยง ออกรางวัล เวลา 12.30 น.
- เปิดตลาดหุ้นรอบบ่าย ออกรางวัล เวลา 14.30 น.
- ปิดตลาดหุ้นตอนเย็น ออกรางวัล เวลา 16.45 น.
ผู้เล่นแทงหวยหุ้นสามารถตรวจสอบเลขที่ออกรางวัลได้จากช่อง 9 และ ช่องทางของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งตัวเลขรางวัลที่นำมาอ้างอิงผลนั้นจะอยู่ล่างขวาขอจอภาพ SET และ SET 50 ตัวอย่าง SET 1654.98 ^ 2.53 และ ตัวอย่าง SET50 1104.68 ^0.69
ผลการออกรางวัลเท่ากับ
- 2 ตัวบน 98 ใช้ทศนิยมของเลขหลักแรก ( 1654.98) เป็นตัวออกรางวัล
- 2 ตัวล่าง 53 ใช้ทศนิยมของเลขหลักที่ 2 ( 2.53 ) ในการออกรางวัล
- 3 ตัวบน 853 ใช้หน่วยสุดท้ายของ (1104.68) ทศนิยมจาก SET50
นำเลขที่ไหนมาวางเดิมพันกับหวยหุ้น ? สำหรับการแทงหวยนั้นผู้เล่นสามารถนำเลขเด็ด , เลขตามสูตรการเล่น , เลขตามสถิติ ซึ่งสามารถนำมาวางเดิมพันได้หมด เช่นเดียวกันกับหวยประเภทอื่นๆ ทั้งนี้ในการแทงหวยหุ้นนั้นผู้เล่นสามารถใช้เทคนิคในการแทงแบบกระจายความเสี่ยงได้ โดยที่ไม่ต้องแทงเลขเต็งเลขเดียว การแทงแบบกระจายความเสี่ยงเช่น แทง 30 ตัวเลข จาก 100 ตัวเลข ซึ่งการแทงเลขประเภทนี้ 1 ตัวเลข เท่ากับ 1% ที่จะชนะการเดิมพัน