ศุกร์ 13 คืออะไร
ศุกร์ 13 หรือFriday 13th ตำนานอาถรรพ์ที่สร้างความเชื่อฝังรากลึกไปทั้วทุกมุมโลก จากหลายเหตุการณ์ที่ตอกย้ำถึงความอาถรรพ์อยู่เรื่อย ๆ โดยตามความเชื่อ 13 ถือเป็นเลขแห่งความโชคร้ายและอัปมงคลตามความเชื่อของชาวตะวันตก

โดยมีที่มาจากหลายๆ ตำนานในศาสนาคริสต์ เช่น ตำนานอาหารมื้อสุดท้ายของพระเยซูคริสต์ที่ชื่อว่า เดอะลาสต์ซัปเปอร์ The Last Supper มีผู้ร่วมโต๊ะพร้อมหน้ากับพระองค์รวม 13 คนและจูดาร์ซึ่งเป็นศิษย์ทรยศก็นั่งในตำแหน่งที่ 13 ทำให้หมายเลขนี้กลายเป็นอาถรรพณ์ที่ชาวตะวันตกเกลียดกลัว และนำไปตีความถอดรหัสมากมาย

เช่น โรงแรมส่วนใหญ่มักไม่มีห้องหมายเลข 13 หลายเมืองมักไม่มีถนนหมายเลขที่ 13 วงการรถแข่งไม่เคยปรากฏรถหมายเลขที่ 13 แต่ที่หลุดโลกที่สุด เห็นจะเป็นในประเทศตุรกี ที่ถึงขนาดตัดเลข 13 ออกจากสารบบของตัวเลขเลยทีเดียว สำหรับ ศุกร์ 13 คืออะไร เรื่องจริงหรือแค่เรื่องบังเอิญ ลองมาทำความรู้จักพร้อมทำความเข้าใจกับเรื่องตำนานอาถรรพ์ ศุกร์ 13 ที่เกิดขึ้นจริงในประวัติศาสตร์ และเรื่องเล่าในอดีต

woke คืออะไร ทำความเข้าใจ ความหมาย ของศัพท์ที่พูดถึงมากที่สุดในทศวรรษนี้ 

ศุกร์ 13 คืออะไร ตำนานอาถรรพ์ที่มีทั่วทุกมุมโลก

ศุก ร์ 13 คือ อะไร สำหรับคนที่ไม่ใช่คริสเตียนอาจจะทราบคร่าวๆ ว่า เลข 13 ชาวคริสต์เขาถือว่าเป็น เลขโชคร้าย แต่สำหรับรายละเอียดที่มานั้น มีที่มายังไง มาจากไหน เรื่องราวของวันศุกร์ 13 ที่ตอกย้ำความเชื่อในเรื่องของความโชคร้ายนั้นมีอะไรบ้าง

  • จุดเริ่มต้น ความเชื่อเรื่องศุกร์ 13

จุดเริ่มต้นความเชื่อเรื่องศุกร์ 13 นั้น เชื่อมโยงกับความเชื่อที่ว่ามีคน 13 คนร่วมทานอาหารมื้อสุดท้ายกับพระเยซู (The Last Supper) ก่อนที่พระองค์จะถูกนำตัวไปตรึงบนไม้กางเขนในวันศุกร์ประเสริฐ (Good Friday) ถึงอย่างนั้นก็ยังไม่มีหลักฐานใดที่บ่งชี้ว่า ประชาชนถือเอาว่าวันศุกร์ที่ 13 เป็นวันโชคร้ายจนเมื่อมาถึงศตวรรษที่ 19 อย่างไรก็ตาม หมายเลข 13 มีประวัติว่ามีความเกี่ยวข้องกับเรื่องโชคร้ายมายาวนาน เนื่องจาก ตามปฏิทินจันทรสุริยคติแล้ว ในบางปีต้องมีเดือน 13 เดือน ขณะที่ตามปฏิทินเกรกอเรียนและปฏิทินของศาสนาอิสลามจะมี 12 เดือนเสมอ

  • ที่มาวันศุกร์ 13 ตัวเลขแห่งความโชคร้าย

หมายเลข 13 ถือเป็นตัวเลขที่โชคร้าย มานานกว่าหลายศตวรรษแล้ว กฏหมายฮัมมูราบีของชาวบาบิลอนในสมัยโบราณไม่แสดงเลข 13 ดังนั้น ความเชื่อเกี่ยวกับเลข 13 อาจจะโยงไปได้ไกลถึง 1700 ก่อนคริสตกาลเลยทีเดียว ส่วนชาวอียิปต์โบราณถือว่าเลข 13 เป็นสัญลักษณ์แห่งความตาย และวันศุกร์ ก็ถือว่าเป็นวันโชคร้ายของชาวคริสเตียนเช่นกัน บางคนเชื่อว่า พระเยซูถูกตรึงกางเขนในวันศุกร์ บางความเชื่อก็ว่า วันศุกร์เป็นวันที่ อีฟชักจูงให้อดัมกินผลไม้ต้องห้ามในสวนอีเดน ชาวคริสเตียนเชื่อว่าเลข 13 เป็นตัวเลขแห่งความโชคร้าย เพราะลข 13 ไปคล้องกับจำนวนคน 13 คนที่รับประทานอาหารมื้อสุดท้ายกับพระเยซู ความเชื่อดังกล่าว ผูกความเชื่อของความโชคร้ายของทั้งวันศุกร์และวันที่ 13 เข้าด้วยกันนั่นเอง

ใน ค.ศ. 1881 มีองค์กรที่ชื่อว่า Thirteen Club พยายามที่จะแก้ไขชื่อเสียให้เลข 13 ในการประชุมครั้งแรกของพวกเขา สมาชิกทั้ง 13 คน ได้เดินผ่านใต้บันไดเพื่อเข้าไปยังห้องทีมีเกลือโปรยปรายไปทั่ว กลุ่มนี้มีอายุยืนยาวอยู่หลายปีและมีสมาชิกเพิ่มถึง 400 คน รวมทั้งสมาชิกที่เป็นประธานาธิบดีถึงห้าคน ได้แก่ Chester Arthur, Grover Cleveland, Benjamin Harrison, William McKinley และ Heodore Roosevelt ถึงแม้ว่าองค์กรนี้จะพยายามเท่าไร แต่โรค triskaidekaphobia (โรคกลัวเลข 13) ก็ยังคงอยู่ ในปัจจุบันนี้ ตึกสูงๆ ส่วนใหญ่ก็ยังไม่มีชั้น 13 อยู่ดี

  • เลข 13 เกี่ยวข้องยังไงกับ วันศุกร์

ส่วนเรื่องที่เลข 13 เกี่ยวข้องกับวันศุกร์นั้น เกิดในช่วงศตรวรรษที่ 20 ใน ค.ศ.1907 นักค้าหุ้นแห่งบอสตัน ชื่อ Thomas Lawson ได้ตีพิมพ์หนังสือที่ชื่อว่า Friday the Thirteenth ซึ่งเป็นเรื่องราวของนักธุรกิจที่ชั่วร้ายที่พยายามจะล้มตลาดหุ้นในวันที่โชคร้ายที่สุดของเดือน และต้องขอบคุณการโฆษณาที่ทำให้หนังสือเล่มนี้ขายดี สัปดาห์แรกก็ขายได้ถึง 28,000 เล่ม ใน ค.ศ. 1916 หนังสือเรื่องนี้ก็ถูกทำเป็นหนังเงียบ ตลาดหุ้นที่วอลสตรีทยังคงถือเรื่อง วันศุกร์ที่ 13 จนกระทั่งปี 1925 หนังสือพิมพ์ New York Times บอกไว้ว่า ผู้คนจะไม่ซื้อหรือขายหุ้นในวันศุกร์ที่ 13

  • ตำนานเทพนอร์ส ชาวไวกิ้ง

บางตำราเชื่อว่าอาถรรพ์ศุกร์ 13 มาจากตำนานของ เทพนอร์ส ที่อาศัยอยู่ในแถบสแกนดิเนเวีย เป็นเรื่องของเทพ 12 องค์ มารวมจัดงานเลี้ยงในห้องโถงเอกีร์ (เทพแห่งมหาสมุทร) แล้ว เทพแห่งไฟ โลกิ ซึ่งไม่ได้รับเชิญมาร่วมงาน จึงพังประตูรั้วเข้ามาในฐานะแขกคนที่ 13 และให้เทพฮอด (เทพแห่งความมืดมิด เพราะตาบอด) โยนกิ่งพืชกาฝากใส่บาลเดอร์ (เทพแห่งความสุขความยินดี) จนบาลเดอร์เสียชีวิตในที่สุด

  • อาถรรพ์ ศุกร์ 13

เลข 13 ถือเป็นเลขแห่งความโชคร้าย ใครที่เกี่ยวข้องกับเลขนี้ก็เชื่อกันว่าจะมีแต่ความวิบัติในชีวิต ถือเป็นเลขที่สร้างความหวาดกลัวอย่างมาก จนมีคนคิดบัญญัติศัพท์เลยทีเดียว โดยเรียกคนที่หวาดกลัวอาถรรพ์ศุกร์ 13 ว่า Paraskevidekatriaphobia มาจากภาษากรีก 3 คำคือ วันศุกร์ (Paraskevi) สิบสาม (dekatreis) และความหวาดกลัว (Phobos)  ดร.โดนัลด์ ดอสซีย์ นักจิตวิทยาบำบัดที่ชำนาญด้านการรักษาอาการกลัวบอกว่า เฉพาะในสหรัฐฯ ประเทศเดียวมีคนเป็นโรคผวาศุกร์ที่ 13 เป็นจำนวนมากถึง 21 ล้านคน และในวันศุกร์ที่ 13 อเมริกาต้องสูญเสียทางเศรษฐกิจเป็นเงินเกือบพันล้านดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากประชาชนจำนวนหนึ่งไม่กล้าเดินทางไปไหน ไม่กล้าทำอะไรไม่กล้าแม้แต่จะไปทำงาน

รวมเรื่องร้ายที่เกิดขึ้นจริงในประวัติศาสตร์ ในวันที่ ศุกร์ 13

  • วันศุกร์ ที่ 13 ตุลาคม 1307 พระเจ้าฟิลิปที่ 4 แห่งฝรั่งเศสจับกุมตัวบรรดาอัศวินเทมพลาร์หลายร้อยคนไปทรมานและสังหาร เพื่อนำทรัพย์สินของพวกเขามาเป็นของฝรั่งเศส
  • วันศุกร์ ที่ 13 ปี ค.ศ. 1869 เกิดวิกฤติเศรษฐกิจครั้งใหญ่ในอเมริกา
  • วันศุกร์ ที่ 13 ปี ค.ศ.1929 ตลาดหุ้นอเมริกาล่ม
  • วันศุกร์ ที่ 13 ปี ค.ศ.1939 เกิดไฟไหม้ครั้งใหญ่ในออสเตรเลีย
  • วันศุกร์ ที่ 13 ปี ค.ศ.1945 เกิดสงครามทางอากาศครั้งสำคัญในนอร์เวย์
  • วันศุกร์ที่ 13 ปี ค.ศ. 1970 เกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติ พายุกระหน่ำมายังประเทศบังคลาเทศมีผู้เสียชีวิตและทรัพย์สินจำนวนมาก
  • วันศุกร์ ที่ 13 ปี ค.ศ. 1978 เกิดการสังหารหมู่ในอิหร่าน 13 ศพ
  • วันศุกร์ ที่ 13 ปี ค.ศ. 1982 อาร์เจนติน่ายกกองกำลังยึดเกาะฟอร์คแลนด์ซึ่งเป็นอาณานิคมของอังกฤษ
  • วันศุกร์ ที่ 13 ปี ค.ศ. 1989 บริษัทคอมพิวเตอร์ IBM เสียหายอย่างหนักเพราะโดยไวรัสคอมพิวเตอร์โจมตีระบบ
  • วันศุกร์ ที่ 13 ตุลาคม ค.ศ. 2006 พายุหิมะชื่อ “Aphid” พัดถล่มเมืองบัฟฟาโล่ รัฐนิวยอร์ค
  • วันศุกร์ ที่ 13 เมษายน ค.ศ. 2007 เกิดทอร์นาโดหลายลูกพร้อมกันในทางเหนือของเท็กซัส
  • อุบัติเหตุที่ในประเทศเนเธอร์แลนด์ ซึ่งมีการทำสถิติเกี่ยวกับอัตราการเกิดอุบัติเหตุไว้ในแต่ละวันศุกร์ ซึ่งวันศุกร์ที่ 13 นั้นจะมีอัตราการเกิดอุบัติเหตุมากกว่าวันอื่นๆ ถึง 52%

สรุป ศุกร์ 13 คืออะไร เป็นวันลางร้ายตามความเชื่อของชาวคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก และชาวคริสต์ก็ไม่นิยมจัดเป็นวันมงคล วันแต่งงาน หรืองานสังสรรค์ใด ๆ ตามความเชื่อบอกไว้ว่า ถ้าเดือนใดก็ตามที่เริ่มต้นวันแรกเป็นวันอาทิตย์ เดือนนั้นจะมีวันศุกร์ที่ 13 เกิดขึ้น แต่ทั้งนี้ในแต่ละปีจะเกิดขึ้นไม่เกิน 3 ครั้ง ในขณะที่เมืองไทยก็ไม่น้อยหน้า หลายโรงแรมและตึกหลายแห่งก็ไม่มีชั้นที่ 13  เนื่องจากกลัวความอาถรรพ์ กระทั่งตัวลิฟต์หลายสำนักงานก็จะไม่มีปุ่มกดชั้นที่ 13 เช่นกัน ทั้งนี้ เรื่องที่กล่าวมาทั้งหมดก็มีทั้งความเชื่อที่ปะปนอยู่กับความจริงจนแยกออกได้ยาก และหลายครั้ง  แต่อย่างไรก็ตามเป็นความเชื่อส่วนบุคคลต้องใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจว่าเป็นเรื่องจริง หรือเรื่องแต่งเพื่อความบัเทิงด้วย


ขอบคุณเนื้อหาจาก : wikipedia

เป็นกำลังใจช่วยแชร์หน่อยค่ะ



ball