วิ่งแล้วจุก แก้อย่างไร

หากคุณเป็น นักวิ่ง หรือ ชื่นชอบในกีฬาวิ่ง คุณต้องเคยประสบปัญหาอาการบาดเจ็บระหว่างวิ่งกันมาบ้างไม่มากก็น้อย ซึ่งอาการที่เกิดขึ้นกับนักวิ่งนั้น มีมากมายหลายแบบ และ หลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเจ็บกล้ามเนื้อ เส้นเอ็น กระดูก สาเหตุก็มาจาก การวิ่ง เป็นกีฬาที่ต้องแบกน้ำหนักตัวเอง แถมยังต้านกับแรงโน้มถ่วงโลกอีกด้วย ทว่าสาเหตุจากภายนอกเหล่านี้ เราสามารถตอบได้ง่ายว่ามันเกิดจากอะไร กลับกันอาการเจ็บที่เกิดภายในร่างกายต่างหาก ที่ยากจะรับมือได้ อย่างเช่น อาการจุก ดังนั้นในบทความนี้ เราเลยจะมาว่ากันด้วยเรื่องของ วิ่งแล้วจุก แก้อย่างไร เกิดจากอะไร แล้วมีวิธีป้องกันอย่างไร

ทำไมต้องอบอุ่นร่างกาย ก่อนเล่นกีฬา มีประโยชน์อย่างไร ที่นี่มีคำตอบ

สาเหตุของอาการ วิ่งแล้วจุก แก้อย่างไร

วิ่งแล้วจุก แก้อย่างไร

นักวิ่งหลาย ๆ ท่านให้เหตุผลว่าการเว้นช่วงระยะเวลาการทานอาหารก่อนออกไปวิ่งไม่มากพอ ซึ่งควรจะเว้นช่วงประมาณ 1- 2ชั่วโมง แต่บางครั้งเราไม่ทานอะไรเลยไปวิ่งแบบท้องว่าง ๆ ก็ยังจุก นักวิ่งหลาย ๆ ท่านที่วิ่งยาว ๆ วิ่งไปทานไปแล้วไม่จุกก็มีให้เย็นอยู่เยอะ แล้วจริง ๆ สาเหตุเกิดจากอะไรกันแน่

อาการจุก มาจากการเคลื่อนที่ซ้ำ ๆ ไปมาอยู่ตลอดเวลาในขณะวิ่งนั้นจึงเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดการระคายเคืองเยื่อบุในช่องท้อง ซึ่งสามารถเกิดได้ในนักหรือการออกกำลังกานที่ใช้ลำตัวเพื่อความบาลานซ์มาก ๆ อย่างการ วิ่ง ว่ายน้ำ หรือขี่ม้า เป็นต้นส่วนปัจจัยอื่นที่ทำให้จุกขณะวิ่งก็มีเช่นกัน อย่างเช่น อายุ ท่าวิ่ง ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อบริเวณลำตัว ซึ่งก็มีวิธิป้องกันได้เช่นกัน

วิธีป้องกันป้องกันการ วิ่งแล้วจุก

  • สำหรับคนที่เกิดอาการจุกขณะวิ่งบ่อย ๆ การทานอาหารนั้นควรทานก่อนออกไปวิ่งประมาณ 2 ชั่วโมงเป็นอย่างต่ำ และควรเลือกทานอาหารที่ย่อยได้ง่ายไม่แน่นท้อง
  • บริหารกล้ามเนื้อส่วนต่าง ๆ โดยเน้นที่ ท้อง หลัง และสะโพก การทำให้บริเวณลำตัวแข็งแรงขึ้นจะช่วยป้องกัน และลดความจุกขณะวิ่งได้ จึงควรบริหารกล้ามเนื้อเหล่านี้เป็นประจำ
  • ปรับปรุงท่าวิ่งให้บาลานซ์มากขึ้น ในขณะที่วิ่งนั้นช่วงบนของหลังควรจะตั้งตรง
  • ซ้อมวิ่งให้บ่อยขึ้นเพื่อให้ร่างกายเคยชิน พร้อมกับสร้างความยืดหยุ่น ให้กับกล้ามเนื้อ

ส่วนสำหรับคนที่เกิดอาการ จุกขณะวิ่ง ไปแล้วนั้น วิธีแก้ก็ง่าย ๆ คือ ค่อย ๆ ลดความเร็วในการวิ่งลง หรือ เปลี่ยนเป็นเดินก็ได้ รอจนอาการดังกล่าวหายไป แล้วค่อยออกตัววิ่งไป แต่ถ้าหากวิ่งต่อแล้ว อาการจุกกลับมา เราแนะนำให้หยุดพักวิ่งในวันนั้น และ สำหรับใครที่มีอาการจุกเรื้อรัง คือ เป็นบ่อย ๆ ควรไปพบแพทย์ เพื่อตรวจเช็กอาการจะดีกว่านะ


สามารถรับข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ : คลิกที่นี่

อ้างอิง : คลิกที่นี่

เป็นกำลังใจช่วยแชร์หน่อยค่ะ



ball