วิธีแก้กลิ่นเหม็นในห้องครัว

บางครั้งกลิ่นเหม็นอับในห้องครัวก็ส่งกลิ่นเหม็นรบกวนในบ้าน ทำให้บรรยากาศในบ้านไม่ค่อยน่าอยู่อาศัยเท่าไหร่นัก วันนี้จะมี วิธีแก้กลิ่นเหม็นในห้องครัว แบบง่าย ๆ ลองตามมาดูกันเลย

9 เคล็ดลับ วิธีแก้กลิ่นเหม็นในห้องครัว

1.ถังขยะ
          มุมไหนที่มีถังขยะจะต้องมีกลิ่นแน่นอนเลย เพราะเศษอาหารและขยะที่ทิ้งลงถังจะมีกลิ่นบูดอย่างแน่นอน ซึ่งเป็นต้นเหตุทำให้เกิดกลิ่นอับมากกว่าเดิม เราจึงควรใช้สารที่ช่วยดูดกลิ่นอับและความชื้นอย่างเบกกิ้งโซดามาเทลงไปที่ก้นถังหรือในถุงขยะก่อนสวมทับลงไปเพื่อลดกลิ่นในระหว่างวัน และหากใช้งานเสร็จก็อาจนำไปล้างทำความสะอาดด้วยน้ำส้มสายชูที่เจือจางด้วยน้ำหลังขั้นตอนการล้างแบบปกติเพิ่มได้เช่นกัน

2.ท่ออ่างล้างจาน
ท่ออ่างล้างเจานก็เป็นสาเหตุของกลิ่นไม่พึงประสงค์ เพราะจะมีหลิ่นโชยมาอยู่ตลอด สามารถแก้ปัญหานี้โดยการโรยเบกกิ้งโซดาใส่ลงไปในท่อพอประมาณ ตามด้วยการราดน้ำส้มสายชูลงไปให้เกิดฟอง จากนั้นปล่อยทิ้งไว้สักพักจึงค่อยราดน้ำร้อนตามลงไปเป็นการทำความสะอาดในขั้นตอนสุดท้าย

3.ตู้กับข้าว
ตู้เก็บอาหารสำเร็จรูปหรือตู้กับข้าวก็เกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้เช่นกัน เพราะต้องเก็บอาหารสารพัดเลยล่ะ ซึ่งนอกจากการหมั่นเช็ดทำความสะอาดและเปิดให้ตู้ได้ระบายอากาศได้บ้างแล้ว ก็อาจหาตัวช่วยหลาย ๆ อย่างมาวางไว้ในตู้ระหว่างใช้งานได้ค่ะ ไม่ว่าจะเป็นถ่านไม้สัก 4-5 ก้อน น้ำส้มสายชูหรือปูนขาวใส่ในถ้วยเล็ก ๆ ซึ่งวัตถุดิบเหล่านี้จะช่วยลดกลิ่นได้เป็นอย่างดีเลย

4.ตู้เย็น
อีกมุมกลิ่นอับของห้องครัวก็คือตู้เย็นเพราะเก็บเกือบจะทุกอย่าง ทั้งของสด กับข้าว และตู้เย็นก็มีกลิ่นและความชื้นอยู่ตลอด ดังนั้นต้องหมั่นดูแลและทำความสะอาดอยู่เสมอ ส่วนวัตถุดิบที่สามารถช่วยดูดความชื้นและลดกลิ่นในตู้เย็นได้นั้นก็จะมีใบชา ถ่านไม้ และเบกกิ้งโซดา โดยหาภาชนะอย่างถ้วยใบเล็ก ๆ หรือกล่องที่เจาะรูได้มาใส่วัตถุดิบเหล่านี้ก็พร้อมนำไปวางใช้งานได้ทันที

5.การกำจัดกลิ่นอาหารคลุ้งในครัว
บางครั้งหลังจากทำอาหารและทำความสะอาดคราบต่าง ๆ จนสะอาดแล้วได้ความสะอาดมาและกลิ่นยังคงอยู่ ถ้าหากต้องการกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ให้หมดไปก็ต้องใช้กลิ่นหอม ๆ นั่นเอง วิธีอันแสนรวดเร็วที่จะทำให้ห้องครัวมีกลิ่นหอมก็คือการต้มน้ำใส่วัตถุดิบต่าง ๆ อย่างน้ำส้มสายชู มะนาว เปลือกส้มหรือกลิ่นวานิลลาให้เดือดสักพักจนกลิ่นหอมเริ่มกระจายออกไป จึงค่อยปิดไฟและนำน้ำที่ต้มได้ไปตั้งไว้ในครัวต่ออีกสักพักเท่านี้ก็ใช้ได้แล้ว

6.เขียง
เขียงเป็นอุปกรณ์ครัวที่มักจะต้องเจอกับของสดและวัตถุดิบสารพัดชนิดโดยตรงอยู่เสมอ นั่นจึงทำให้กลิ่นต่าง ๆ ติดสะสมอยู่ที่เขียงเป็นจำนวนมาก ยิ่งถ้าหากเป็นเขียงไม้ด้วยแล้วก็ยิ่งทำให้กลิ่นฝังแน่นได้มากขึ้นไปอีก บางครั้งแค่วางไว้เฉย ๆ ก็อาจส่งกลิ่นมารบกวนในบริเวณนั้นได้ เพราะแค่การทำความสะอาดด้วยน้ำยาล้างจานอาจยังไม่พอ แต่ต้องใช้วัตถุดิบที่ช่วยกำจัดกลิ่นอย่างเบกกิ้งโซดามาช่วยอีกขั้น โดยการผสมเข้ากับน้ำให้เป็นเนื้อครีมแล้วนำมาใช้แทนน้ำยาทำความสะอาด ส่วนฟองน้ำสำหรับขัดก็จะใช้มะนาวได้เลย

7.การทำความสะอาดฟองน้ำและผ้าเช็ดจานไม่ให้มีกลิ่น
ฟองน้ำล้างจานและผ้าเช็ดจานหากมีกลิ่น กลิ่นนั้นจะติดไปทั่วทุกทีการดูแลตรงจุดนี้จึงสำคัญมาก สำหรับผ้าเช็ดจานและฟองน้ำที่ไม่มีลวดเป็นส่วนประกอบสามารถใช้วิธีการนำไปแช่ในน้ำที่ผสมกับน้ำมะนาวหรือน้ำส้มสายชู ถ้าหากจะซักล้างด้วยน้ำสะอาดตามปกติแนะนำให้แช่ไว้ข้ามคืน

8.ไมโครเวฟ
ไมโครเวฟต้องเจอกับปัญหาหลากหลายชนิด และกลิ่นไม่ซ้ำกัน บางครั้งเปิดไมโครเวฟออกมากลิ่นก็ฟุ้งกระจายไปหมด ถ้าหากปล่อยไว้และนำอาหารเข้าไปอุ่นซ้ำ ๆ ก็จะยิ่งทำให้กลิ่นติดปะปนกันและยังมีความรุนแรงมากขึ้นไปอีก สามารถทำความสะอาดโดยนำวัตถุดิบที่ให้กลิ่นหอมอย่างมะนาว เปลือกส้มหรือน้ำส้มสายชูมาใส่ลงในน้ำเปล่าและนำไปอบในไมโครเวฟจนร้อน วิธีนี้จะช่วยให้กลิ่นหอมจากวัตถุดิบที่ใช้มาแทนที่กลิ่นไม่พึ่งประสงค์

9.การทำความสะอาดมุมที่มีกลิ่นเศษอาหารติด
บางครั้งตามโต๊ะอาหารเราอาจจะเช็ดจนสะอาดแล้วแต่ก็ยังมีกลิ่นอยู่ดี สามารถแก้ปัญหานี้โดยการใช้สเปรย์กำจัดกลิ่นที่ทำเองมาช่วยได้และส่วนผสมที่จะมาช่วยกำจัดกลิ่นแบบเร่งด่วนก็คือแอลกอฮอล์นั่นเอง โดยเริ่มต้นจาการผสมน้ำเปล่า 4 ถ้วยตวง เข้ากับแอลกอฮอล์อีกครึ่งถ้วยตวงลงในขวดสเปรย์ ก็จะได้น้ำยาไว้สำหรับฉีดพ่นเพื่อเช็ดทำความสะอาดตามมุมต่าง ๆ ที่มีกลิ่นติด แต่ถ้าหากต้องการเพิ่มกลิ่นหอมเข้าไปด้วยก็อย่าลืมหยดน้ำมันหอมระเหยลงไปในนะ

สามารถรับข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ : คลิกที่นี่

อ้างอิง : คลิกที่นี่

เป็นกำลังใจช่วยแชร์หน่อยค่ะ



Tagged:
ball