การแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2028 ที่นครลอสแอนเจลิส ในอีก 4 ปีข้างหน้า จะมีคริกเก็ตเป็นหนึ่งกีฬาในการแข่งขันด้วย ซึ่งคริกเก็ตเคยจัดแข่งขันในโอลิมปิกเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1900 ในลอสแอนเจลิส เราคาดว่าจะได้เห็นการแข่งขันในรูปแบบ T20 ซึ่งเป็นรูปแบบที่สั้นลง โดยทั้งสองทีมจะจำกัดการโยนและตีไม่เกิน 20 โอเวอร์ต่อทีม สหราชอาณาจักรมีลุ้นคว้าเหรียญรางวัล เนื่องจากมีนักคริกเก็ตชั้นนำของโลกหลายคน แม้กีฬาคริกเก็ตจะไม่ค่อยคุ้นหูคนไทยเท่าไร แต่ในต่างประเทศโดยเฉพาะอินเดีย บอกเลยว่าฮิตสุด ๆ เรามาลองทำความรู้จักกีฬาคริกเก็ต ทั้งเรื่องกติกา วิธีเล่นคริกเก็ต อุปกรณ์กีฬา จำนวนผู้เล่น ช่วงเวลาแข่งขัน และเรื่องน่ารู้ของกีฬาชนิดนี้กันให้มากขึ้น
วิธีเล่นรักบี้ กติการักบี้ฟุตบอล อีกหนึ่งกีฬายอดฮิต ที่คนนิยมเดิมพัน
วิธีเล่นคริกเก็ต ให้สนุกอย่างถูกต้อง ตามกฎสากล
คริกเก็ต (Cricket) เป็นกีฬาชนิดหนึ่ง ถึงแม้จะยังไม่เป็นที่นิยมมากนักในไทยมากนัก แต่เมื่อเทียบกับกีฬาอื่น ๆ แต่ในต่างประเทศกลับได้รับความนิยมเป็นอย่างมากโดยเฉพาะอินเดีย ที่เรียกว่าเล่นจริงจังจนมีการจัดการแข่งขันยิ่งใหญ่ในระดับโลกอยากชวนทุกคนมาทำความรู้จักกีฬาคริกเก็ต และ วิธีเล่น คริกเก็ต รวมถึงเรื่องน่ารู้ของกีฬาชนิดนี้ และเชื่อว่าถ้าได้ลองติดตามดูสักครั้งจะติดใจและสนุกสนานมากเลยทีเดียว
1.สนามคริกเก็ต
มีลักษณะเป็นรูปวงรีเกือบกลม พื้นสนามเป็นหญ้าคล้ายสนามฟุตบอล ตรงกลางสนามมีกรอบสี่เหลี่ยมผืนผ้าไว้สำหรับขว้างและตีลูก ซึ่งเรียกว่า Pitch ความยาวประมาณ 20.12 เมตร ความกว้างประมาณ 3.05 เมตร โดยจะมีเส้นที่เรียกว่าเส้นปลอดภัยอยู่ภายในกรอบทั้ง 2 ฝั่ง อยู่ห่างกันประมาณ 17.68 เมตร และในลาน Pitch จะมีเสาไม้ 3 เสา วางเชื่อมกันด้วยตัวหนอน 2 ตัว เรียกว่า วิกเก็ต (Wicket)
2.อุปกรณ์คริกเก็ต
- ไม้ตี
- ลูกบอล
- ถุงมือ
- หมวก
- เครื่องป้องกันสีข้าง
- เครื่องป้องกันหน้าแข้ง
- กระจับ
- ถุงมือคีปเปอร์
3.เวลาการแข่งขัน
การเล่นคริกเก็ต 1 เกม จะแบ่งการเล่นเป็น 2 ช่วง (Innings) แข่งกัน 2 ทีม โดยกัปตันทีมจะเสี่ยงทายหัว-ก้อย เพื่อเลือกว่าทีมใดจะเป็นฝ่ายเล่นก่อน โดยสามารถเลือกได้ว่าจะเป็น “ทีมรับ” หรือ “ทีมตี” ก็ได้
4.ผู้เล่นคริกเก็ตมีผู้เล่นทีมละ 11 คน แบ่งเป็นทีมรับและทีมตี
- ทีมตี – เลือกผู้เล่น 2 คนลงสนาม
- ผู้ตี (Batter) คนที่ 1 ยืนอยู่หน้าเส้นวิกเก็ตหรือเส้นปลอดภัย
- ผู้ตี (Batter) คนที่ 2 ยืนอยู่หลังเส้นปลอดภัย ฝั่งตรงข้ามของผู้ตีคนที่ 1 ด้านซ้ายหรือขวาก็ได้
- ทีมรับ – ผู้เล่นทั้ง 11 คนลงสนามทั้งหมด
- ผู้ขว้าง (Bowler) จะยืนหลังวิกเก็ต โดยอยู่หลังกรรมการคนที่ 1 ทำหน้าที่ขว้างลูกให้ไปโดนแท่งไม้ที่ตั้งไว้บนสนาม 3 แท่ง ซึ่งเรียกว่า Wickets
- ผู้รักษาวิกเก็ต (Wicket Keeper) จะยืนหลังวิกเก็ตฝั่งเดียวกับผู้ตีคนที่ 1
- ผู้รับ (Fielders) อีก 9 คน จะยืนในสนามตำแหน่งใดก็ได้แต่ต้องอยู่นอกลาน Pitch
5.กติกาการเล่นคริกเก็ต
ทีมตี
- ผู้ตี (Batter) คนที่ 1 จะมีหน้าที่ตีบอลที่ถูกขว้างมา (ทิศทางใดก็ได้ 360 องศา) ถ้าตีโดนจะต้องรีบวิ่งให้เข้ามาในเส้นปลอดภัยของอีกฝั่ง ก่อนที่ผู้รับจะรับลูกบอลได้แล้วโยนลูกบอลกลับมาทำลายวิกเก็ต
- โดยผู้ตีทั้งสองจะวิ่งสวนกันกี่รอบก็ได้เพื่อเก็บคะแนน ขึ้นอยู่กับการคาดการณ์ของผู้ตีที่จะสามารถเข้ามาในเส้นปลอดภัยของอีกฝั่งได้ก่อนที่วิกเก็ตจะถูกทำลาย
- ซึ่งหากวิกเก็ตถูกทำลาย ผู้ตีฝั่งวิกเก็ตนั้นจะต้องออกจากการแข่งขัน (Run Out) และไม่สามารถกลับมาตีได้อีก ทีมตีจะต้องส่งผู้ตีคนใหม่มาแทน
ทีมรับ
- ผู้ขว้าง (Bowler) จะมีหน้าที่ขว้างบอลเพื่อทำลายวิกเก็ต ซึ่งจะส่งผลให้ผู้เล่นทีมตีต้องออกไป โดยบอลที่ขว้างต้องกระทบบนลาน Pitch 1 ครั้ง ก่อนที่บอลจะลอยไปถึงเป้าหมาย หากขว้างเสียจะทำให้อีกฝ่ายได้คะแนน
- ลูกที่ขว้างเสีย 1 ลูก จะได้ 1 คะแนน
- เมื่อขว้างลูก 6 ครั้ง จะเรียกว่า 1 โอเวอร์ (Over) โดยแต่ละเกมจะมีการกำหนดไว้ว่าจะเล่นกี่โอเวอร์ ส่วนใหญ่จะกำหนดไว้ที่ 10 โอเวอร์, 20 โอเวอร์ หรือมากสุดที่ 50 โอเวอร์
- ยกเว้นแต่ทีมนั้นจะมีผู้ตีออกจากสนามครบ 10 คน ก่อนจะเล่นครบโอเวอร์
- เมื่อจบโอเวอร์หนึ่งแล้ว ฝ่ายสนามสามารถเปลี่ยนผู้ขว้างได้
- ผู้รักษาวิกเก็ต (Wicket keeper) จะมีหน้าที่คอยรับหรือหยุดบอลจากผู้ขว้างหากผู้ตีตีลูกพลาด นอกจากนี้ยังคอยรับลูกที่ถูกตีโดยไม่ให้ลูกกระทบพื้นก่อนด้วย
6.วิธีที่ทีมรับจะทำให้ทีมผู้ตีออกจากการแข่งขัน ได้แก่
- ขว้างโดนวิกเก็ต
- รับบอลที่ถูกตีได้ก่อนจะตกพื้น
- ผู้รับเก็บบอลได้และใช้ลูกบอลทำลายวิกเก็ตก่อนที่ผู้ตีจะวิ่งถึงเขตปลอดภัย
7.การทำแต้ม
โดยเป้าหมายของฝ่ายลงสนามคือการทำให้ฝ่ายตีออกจากสนามให้ครบ 10 คนให้ได้นั่นเอง
- ทีมตี
- ตีลูกและวิ่งไปยังไม้วิกเก็ตอีกฝั่งหนึ่งก่อนที่ฝ่ายสนามจะโยนลูกไปโดนไม้วิกเก็ตฝั่งใดฝั่งหนึ่ง เมื่อมือตีทั้ง 2 คนวิ่งไปสุดทางวิ่งแล้วจึงนับเป็น 1 คะแนน
- แต่ผู้ตีสามารถตัดสินใจได้ว่าจะไม่วิ่งออกไปก็ได้ถ้าเห็นว่าลูกนั้นเสี่ยงถูกทำให้ออกจากสนาม หรือจะวิ่งมากกว่า 1 คะแนนก็ได้ถ้าเห็นว่าฝ่ายสนามไม่สามารถโยนบอลเข้ามาได้ทัน
- ตีลูกให้ออกจากสนามโดยที่ลูกกระดอนหรือสัมผัสพื้น นับเป็น 4 คะแนน
- ตีลูกให้ออกจากสนามโดยที่ลูกลอยออกหรือไม่สัมผัสพื้นเลย นับเป็น 6 คะแนน
ทีมรับ - ผู้ขว้าง (Bowler) ทำหน้าที่เป็นคนขว้างลูกให้มือตี (Batsman) โดยต้องทำให้ฝ่ายตีออกจากสนามให้มากที่สุด โดยมีหลายวิธีคือ
- ขว้างลูกให้โดนไม้วิกเก็ต (wickets) ที่อยู่ด้านหลังของมือตี
- ขว้างลูกให้โดนขาของมือตีที่อยู่ด้านหน้าของไม้วิกเก็ต
- รับลูกที่มือตีตีออกมาโดยที่ลูกยังไม่สัมผัสพื้นหรือออกจากสนาม
- โยน ขว้าง หรือปาลูกไปโดนไม้วิกเก็ตก่อนที่มือตีจะวิ่งมาถึงสุดเส้นของลานวิ่ง ถ้าโดนไม้วิกเก็ตฝั่งไหน มือตีที่ยืนฝั่งนั้นก่อนจะเริ่มเล่นลูกนั้นต้องออกจากสนาม
8.การจบเกมหรืออินนิ่ง
หากเล่นจนครบจำนวนโอเวอร์ที่กำหนดไว้หรือหมดผู้ตีแล้ว เมื่อจบอินนิ่งที่ 1 แล้วจะเริ่มอินนิ่งที่ 2 โดยสลับทีมกัน จากผู้ตีเป็นผู้รับ จากผู้รับเป็นผู้ตี และเมื่อจบเกมจะตัดสินจากคะแนนการแข่งขัน โดยฝ่ายใดทำคะแนนได้สูงกว่าฝ่ายนั้นจะชนะ
ประวัติความเป็นมากีฬาคริกเก็ต
- ประวัติกีฬาคริกเก็ต
คริกเก็ตมีต้นกำเนิดมาจากประเทศอังกฤษตั้งแต่ยุคสมัยล่าอาณานิคม คาดว่าน่าจะก่อนปี ค.ศ. 1550 และยังแพร่หลายในประเทศต่าง ๆ ที่อยู่ในเครือจักรภพอังกฤษ เช่น อินเดีย บังกลาเทศ ปากีสถาน ศรีลังกา และออสเตรเลีย เป็นต้น โดยเฉพาะอินเดียชื่นชอบคริกเก็ตอย่างมาก ถึงขนาดจัดการแข่งขัน “อินเดียน พรีเมียร์ลีก” (Indian Premier League: IPL) หรือลีกคริกเก็ตในประเทศอินเดีย ซึ่งคนอินเดียจะให้ความสำคัญกับผู้เล่นแต่ละคนดั่งวีรบุรุษ และได้รับค่าตัวแพงที่สุดในบรรดานักกีฬาทุกประเภทของอินเดีย แถมเงินรางวัลก็สูง และแม้แต่ดาราดังอย่าง ชาห์รุข ข่าน (Shahrukh Khan) ก็ยังหันมาตั้งทีมคริกเก็ตของตัวเองชื่อว่า โกลกาตา (Kolkata Knight Riders)
- กีฬาคริกเก็ตในประเทศไทย
คริกเก็ตได้เข้ามาในประเทศไทยครั้งแรกราว ๆ ปี ค.ศ. 1890 โดยเริ่มมีการจัดการแข่งขัน Thailand Cricket League (TCL) เรื่อยมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1971 ทั้งในกรุงเทพฯ เชียงใหม่ และจังหวัดอื่น ๆ รวมทั้งมีการจัดตั้งสมาคมคริกเก็ตแห่งประเทศไทยขึ้น มีนักกีฬาคริกเก็ตทีมชาติไทยทั้งทีมชายและหญิงร่วมแข่งขันทั้งในลีกไทยและลีกต่างประเทศอยู่เสมอ
สรุป คริกเก็ต (Cricket) เป็นกีฬาชนิดหนึ่ง มีคนเล่นทีมละ 11คน โดย วิธีเล่นคริกเก็ต จะให้ทีมตี จัดให้คนหนึ่งเป็นผู้ขว้างลูก เรียกว่า bowler ทำการขว้างลูกไปยังไม้ที่ตั้งไว้บนสนามสามอัน เรียกว่า wickets ซึ่งทีมรับ จัดคนมารักษา คนที่รักษา wickets เรียกว่า batsman และไม้ที่ถือตีลูกเรียกว่า bat ถ้าตีถูกลูกก็วิ่งวนไปเพื่อเอาแต้ม เรียกว่า runs จนกว่าพวกของทีม ก ที่อยู่ในสนาม คือ fielders จะนำลูกกลับมาได้ และคริกเกตมีการเล่นมากกว่าใน 100 ประเทศ ซึ่งนิยมเล่นในออสเตรเลีย บังคลาเทศ อังกฤษ และอินเดีย
ขอบคุณเนื้อหาจาก : wikipedia