วิธีอุ่นซูชิ
ซูชิ หลากหลายประเภทจนยากที่จะบอกจำนวนที่แน่ชัดได้ เพราะมีวิธีการปรุงซูชิที่แตกต่างกันมากมาย และยังมีซูชิระดับภูมิภาคทั่วประเทศที่ใช้อาหารพื้นเมืองมาใส่ประกอบกันด้วย เช่น อาหารทะเลบางชนิดที่มีอยู่แค่ในบางพื้นที่ จึงเป็นที่ชื่นชอบหลาย ๆ คน อาจจะเพราะด้วยซูชิทั้งอร่อย กินง่าย ได้ทั้งคาร์โบไฮเดรตและโปรตีนแบบจัดเต็ม แถมรสชาติยังถูกปาก

แต่ถ้าการที่เราซื้อซูชิมาแล้วกินไม่หมด หลายคนมักจะนำแช่ตู้เย็น หรือไปทิ้งแต่ก็เสียดาย พอเข้าตู้เย็นนำออกมาก็แข็งเป็นก้อน แล้วจะทำยังไงให้กลับอร่อยและให้ข้าวมานิ่มเหมือนเดิมเหมือนที่ซื้อมาในวันแรก วันนี้เรามาแชร์ วิธีอุ่นซูชิ แบบง่าย ๆ มาฝาก มีแค่ไมโครเวฟ หรือหม้อหุงข้าวเครื่องเดียวสามารถเป็นตัวช่วยที่จะทำให้ซูชิ อร่อยเหมือเดิม ถ้าอยากรู้ว่าทำอย่างไรตามมาดูกัน

ishowspeed คือใคร ทำความรู้จัก เกรียนทูปเปอร์ ผู้สร้างตำนานด้วยความมั่ว

วิธีอุ่นซูชิ ทำกันอย่างไร ให้อร่อยเหมือนพึ่งซื้อมา

ซูชิ (Sushi) เป็นอาหารญี่ปุ่น ส่วนผสมหลัก ๆ จะมีข้าวผสมน้ำส้มสายชูหมัก และมีส่วนผสมอื่น ๆ เช่น ไข่ ปลา ผัก เห็ด หรือวัตถุดิบอื่น ๆ โดยเป็นข้าวปั้นก้อนเล็ก ๆ มีวัตถุดิบไปวางบนก้อนข้าว หรือสอดเป็นไส้ในก้อนข้าว เสิร์ฟพร้อมซอสและเครื่องเคียง

ซึ่งซูชิสามารถเก็บค้างคืนได้ โดยเก็บซูชิใส่กล่องหรือภาชนะมีฝาปิด จากนั้นใส่ลงในถุงพลาสติกอีกชั้นหรือใช้ฟิล์มถนอมอาหารคลุมซูชิไว้ เพื่อไม่ให้อากาศเข้าไปได้ จากนั้นนำไปแช่ในช่องแช่ผัก-ผลไม้ เพื่อไม่ให้ข้าวแห้งเกินไป และยังนำกลับมาอุ่นให้เหมือนตอนที่ซื้อมาใหม่ได้โดยมี วิธีอุ่นซูชิ ดังนี้

  • วิธีอุ่นด้วยไมโครเวฟ

แยกข้าวซูชิกับท็อปปิ้งออกจากกัน เสร็จแล้วนำข้าวมารวมกันแล้วนำไปอุ่นด้วยกำลังไฟ 500 วัตต์ ประมาณ 30 วินาที หรือจนข้าวนิ่ม สำหรับท็อปปิ้งถ้าไม่ต้องการกินแบบเย็น ๆ สามารถนำไปอุ่นด้วยไมโครเวฟให้ร้อนได้เช่นกัน

  • วิธีอุ่นด้วยหม้อหุงข้าว

แยกข้าวซูชิกับท็อปปิ้งออกจากกัน เสร็จแล้วนำข้าวซูชิมารวมกันแล้วนำไปตั้งบนหม้อหุงข้าวที่เด้งแล้ว ประมาณ 2-3 นาที หรือจนข้าวซูชินิ่ม
คราวนี้สามารถซื้อซูชิตุนไว้โดยไม่ต้องกลัวว่าจะกินไม่หมดแล้ว ถ้าทำตามวิธีอุ่น ซูชิที่เราแนะนำ ไม่ว่าจะอุ่นด้วยไมโครเวฟหรือหม้อหุงข้าวก็นุ่มจ้า
เกร็ดน่ารู้ที่เกียวกับซูชิ

1.ซูชิไม่ได้มีต้นกำเนิดในประเทศญี่ปุ่นตั้งแต่แรก

อ่านแล้วก็ได้แต่ขมวดคิ้วเพราะเราเข้าใจมาว่าเสมอว่าซูชินั้นเป็นเมนูที่มีต้นกำเนิดมาจากประเทศญี่ปุ่นอย่างแน่นอน แต่ความจริงแล้วนั้นว่ากันว่าเมนูซูชิได้แรงบันดาลใจมาจากการถนอมปลาด้วยการหมักปลาของผู้คนในแถบลุ่มแม่น้ำโขง โดยใช้เนื้อปลาหมักผสมกับข้าวสวยและเกลือเพื่อลดการเติบโตของจุลินทรีย์ ทำให้ได้เนื้อปลาที่มีรสเปรี้ยวสามารถเก็บไว้กินได้นาน ต่อมาจึงได้มีการต่อยอดเอาหลักการนี้ไปปรับใช้ที่ประเทศญี่ปุ่นจนได้เป็นเมนูนาเระซูชิ (Narezushi) ด้วยการเอาข้าวมาหมักกับเนื้อปลาในวัสดุที่ปิดสนิทโดยจะใช้เวลาในการหมักนานมากถึง 6-36 เดือนก่อนจะนำแค่เพียงส่วนของเนื้อปลามากิน

2.พัฒนาการของซูชิ

จากที่บอกไปในข้อแรกว่านาเระซูชินั้นต้องใช้เวลาหมักนานถึง 36 เดือน การจะรอให้เนื้อปลาหมักแบบนี้นั้นมันก็ช่างเสียเวลา จึงได้มีความคิดที่จะย่นเวลาในการทำซูชิให้สั้นลงและได้รสอร่อย จุดสำคัญคือการเอาข้าวที่ใช้หมักมาเป็นส่วนหนึ่งของซูชิไปด้วยเลยจึงได้มีการคลุกข้าวสวยเข้ากับน้ำส้มสายชูเพื่อช่วยเพิ่มรสเปรี้ยวก่อนที่จะท้อปปิ้งด้านบนด้วยเนื้อปลาชนิดต่างๆ จึงกลายมาเป็นซูชิที่ใช้เวลาในการทำสั้นลงมากๆ และกลายเป็นเมนูอาหารยอดนิยมในชาวญี่ปุ่นในท้ายที่สุด

3.ซูชิแต่ละแบบนั้นมีชื่อเรียกเฉพาะด้วยล่ะ

พอเราพูดว่าซูชิก็พาลจะเข้าใจว่าทุกชิ้นมีชื่อเดียวกันไปหมดแต่ความจริงแล้วลักษณะของการปั้นข้าวที่แตกต่างกันก็ทำให้ชื่อเรียกของซูชิไม่เหมือนกันไปด้วย อย่างซูชิที่ปั้นข้าวเป็นรูปทรงรีแล้วโปะด้วยด้านบนเนื้อปลา ไข่หวาน เนื้อสัตว์ต่างๆ ตามที่เราเห็นวางขายกันบ่อยๆ ตามร้านซูชิจะมีชื่อเรียกว่านิงิริซูชิ (Nigiri Sushi) ซูชิห่อสาหร่ายรูปกรวยมีชื่อเรียกว่าเทมากิ (Temaki) ซูชิโรลด้านนอกพันด้วยสาหร่ายและมีไส้ตรงกลาง หั่นเป็นแว่นๆ ขนาดพอดีคำมีชื่อเรียกว่ามากิซูชิ (Maki Sushi) ซูชิทรงรีที่ห่อรอบๆ ด้วยสาหร่ายและท้อปปิ้งด้วยไข่กุ้ง ไข่ปลาแซลมอนเรียก กุงกังมากิ (Gunkan Maki) หรือซูชิห่อใบพลับที่มีชื่อเรียกว่า คาคิโนะฮะซูชิ (Kakinohazushi)

4.วาซาบิ ความอร่อยที่มาพร้อมกับสารพัดประโยชน์

เวลาที่เรากินซูชิหรือพวกเมนูเนื้อปลาสด ซาชิมิ ก็มักจะมีการเสิร์ฟวาซาบิเคียงมาด้วยเสมอ ในแง่ของรสชาติคือวาซาบิจะช่วยเพิ่มรสเผ็ดซ่าอย่างรุนแรงหลายๆ คนจึงชอบกินซูชิมากๆ แต่ในด้านของสุขอนามัยแล้วนั้นวาซาบิที่มีรสฉุนสามารถช่วยลดความคาวของเนื้อปลาดิบทั้งยังช่วยด้านเชื้อแบคทีเรียในเนื้อปลา ทำให้เรากินเนื้อปลาดิบได้โดยไม่ต้องกลัวว่าจะได้รับเชื้อโรคเข้าไปด้วยหรือเปล่า โดยวิธีการกินวาซาบิคู่กับซูชินั้นคือการแต้มวาซาบิลงบนส่วนเนื้อแค่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น

5.แคลิฟอร์เนียโรล เมนูลูกผสมของซูชิ

ตอนแรกที่เห็นเมนูนี้เรางงมากว่าทำไมมีชื่อภาษาอังกฤษในซูชิด้วยล่ะ? พอลองสั่งมากินเมนูแคลิฟอร์เนียโรลก็อร่อยเข้าท่ามากๆ ด้วยแฮะ ด้านนนอกเป็นข้าวชุบด้วยไข่ปลาตัวไส้ด้านในมีทั้งแตงกวา อะโวคาโด ไข่หวาน ปูอัดและมายองเนส ที่มาของเมนูแคลิฟอร์เนียโรล หรือเรียกอีกชื่อว่าแคลิฟอร์เนียมากิเกิดขึ้นในช่วงปี ค.ศ. 1970 โดยเชฟร้านอาหารญี่ปุ่นในเมืองลอสแองเจลิสได้คิดค้นเมนูนี้ขึ้นมาเพื่อปรับเปลี่ยนซูชิให้ถูกปากชาวตะวันออกมากขึ้นจนเมนูแคลิฟอร์เนียโรลกลายเป็นที่รู้จักและเป็นเมนูที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก

สรุป เป็นอย่างไรกันบ้างกับ วิธีอุ่นซูชิ ที่นำมาแชร์กัน สำหรับการแก้ปัญหา เมื่อซูชิแข็งเป็นก้อนจากการนำไปแช่ตู้เย็น สามารถนำเอาเคล็ดลับอุ่นข้าวซูชิค้างคืนให้อร่อยนุ่มเหมือนพึ่งซื้อมาเหมือนใหม่ที่เราแชร์ไปใช้ได้ ยังไงเราก็อยากให้เมนูซูชิแสนอร่อย กลับมากินได้เหมือนเดิม สามารถนำไปลองทำกันได้เลย


ขอบคุณเนื้อหาจาก : wikipedia

เป็นกำลังใจช่วยแชร์หน่อยค่ะ



ball