วิธีปลูกกะหล่ำปลี

 

เมื่อพูดถึงกะหล่ำปลีหลายคนคงรู้จักเต้าผักชนิดนี้เป็นอย่างดีและอาจจะเป็นเมนูโปรดของใครอีกหลายคน เพราะกะหล่ำปลีนั้นสามารถเอามาทำเป็นกับข้าวได้หลากหลาย และบ้านเราก็นิยมกินกะหล่ำปลีมาก ๆ เสียด้วย วันนี้จะพาทุกคนมารู้จักกับ วิธีปลูกกะหล่ำปลี ง่าย ๆ ที่บ้าน

ต้นกะหล่ำปลี เดิมแล้วมีถิ่นกำเนิดอยู่แถบเมดิเตอเรเนียน และภายหลังได้แพร่กระจายทั่วไป โดยกะหล่ำปลีจะแบ่งออกเป็น 3 ชนิด คือ กะหล่ำปลีธรรมดา (พันธุ์โกลเดนเอเคอร์, พันธุ์โคเปนเฮเกนมาร์เก็ต), กะหล่ำปลีแดง (ใบเป็นสีแดงทับทิม ขึ้นดีในที่อากาศหนาวเย็น), กะหล่ำปลีใบย่น (ขึ้นได้ในที่ที่มีอากาศหนาวเย็นเป็นพิเศษ)

กะหล่ำปลีดิบ มีวิตามินซีสูง การนำไปปรุงอาหารควรใช้วิธีการนึ่ง จะช่วยคงคุณค่าของสารอาหารไว้ได้ดีที่สุด หรือจะรับประทานเป็นผักสลัดก็ได้ ทั้งนี้ไม่ควรนำไปนึ่ง ต้ม ผัดนานจนเกินไป

ผักกะหล่ำปลี นั้นมีสารพิษที่เรียกว่า กอยโตรเจน (Goitrogen) ซึ่งเป็นตัวขัดขวางการดูดซึมของไอโอดีน ผลที่ตามมาก็คืออาจทำให้เป็นคอหอยพอกได้ แต่สารพิษที่ว่านี้จะถูกทำลายด้วยวิธีการนำไปต้ม ดังนั้นจึงควรรับประทานกะหล่ำปลีที่ผ่านการปรุงสุกแล้วจะดีกว่า แม้ว่าวิตามินจะหายไปบ้างก็ตาม แต่ก็มีคำแนะนำว่าการเกิดปัญหาจากสารพิษชนิดนี้ไม่ใช่จะเกิดขึ้นได้ง่าย ๆ เพราะถ้าจะรับประทานกะหล่ำปลีจนถึงขนาดได้รับสารกอยโตรเจน ต้องเป็นการรับประทานอย่างต่อเนื่องเป็นประจำและในปริมาณมาก ดังนั้นจึงไม่ต้องตกใจและกังวล เล็ก ๆน้อย ๆ นาน ๆ รับประทานทีไม่มีอันตราย กะหล่ำปลีดิบควรรับประทานแต่พอเหมาะ เนื่องจากการรับประทานมากเกินไปอาจจะทำให้มีปัญหาเรื่องต่อมไทรอยด์ได้ และที่สำคัญควรระมัดระวังเรื่องยาฆ่าแมลงให้มาก เพราะกะหล่ำปลีนั้นติดอับดับ 1 ใน 5 ผักที่มีสารปนเปื้อนมากที่สุด การบริโภคเข้าไปในปริมาณมากอาจจะทำให้ร่างกายอ่อนเพลีย ปวดศีรษะ มึนงง หายใจลำบาก คลื่นไส้อาเจียน มีอาการชักหรือหมดสติได้ ก่อนการนำมารับประทานก็ควรล้างให้สะอาดก่อน ด้วยวิธีการลอกหรือปอกเปลือกออกแล้วแช่น้ำสะอาดประมาณ 10 นาที หลังจากนั้นล้างด้วยน้ำสะอาดอีกครั้งเช่น แช่น้ำปูนใส, การใช้ความร้อน, แช่น้ำด่างทับทิม, ล้างด้วยน้ำไหลจากก๊อก, แช่น้ำซาวข้าว, แช่น้ำส้มสายชูหรือเกลือป่น, แช่น้ำยาล้างผัก เป็นต้น

อุปกรณ์
1.ดินสำหรับปลูกต้นไม้
2.ปุ๋ยคอก
3.เมล็ดกะหล่ำปลี
4.ตะกร้าสำหรับเพาะเมล็ดกะหล่ำ
5.กระถางสำหรับปลูกกะหล่ำ

วิธีปลูกกะหล่ำปลี
1.นำดินที่เราซื้อมาสำหรับปลูกต้นไม้เอาไปตากแดดประมาณ 1 สัปดาห์ หลังจากนั้นค่อยนำดินมาผสมกับปุ๋ยหมักที่เตรียมเอาไว้
2.นำเมล็ดกำหล่ำปลีที่เตรียมไว้แช่น้ำไว้ 1 คืน หลังจากนั้นนำเมล็ดมาเพาะในตะกร้าที่เตรียมเอาไว้
3.พอเข้าช่วง 4-6 สัปดาห์ เมื่อต้นกะหล่ำปลีที่เราปลูกไว้เริ่มเป็นต้นกล้า นำต้นกะหล่ำปลีนั้นย้ายลงในกระถาง
4.หลังจากนั้นรอเวลาในการเก็บต้นกะหล่ำปลี (ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ สายพันธุ์เบา 50-60 วัน แต่หากเป็นสายพันธุ์หนัก 90-120 วัน) หรือดูตามความเหมาะสมของผักที่เราปลูก

*รดน้ำวันละ 1-2 ครั้ง อย่างสม่ำเสมอ แต่ต้องระมัดระวังอย่าให้ดินชื้นจนเกินไป เพราะอาจจะเป็นทำให้รากเน่าได้ และหมั่นใส่ปุ่ยให้ต้นกะหล่ำปลีเป็นระยะๆ นอกจากนี้ควรดูแล หมั่นพรวนดินและกำจัดพวกวัชพืชเพื่อการเจริญเติบโตที่ดีของต้นกะหล่ำปลี

วิธีปลูกกะหล่ำปลี นั้นไม่ยุ่งยากเลยจริงไหม นอกจากจะได้กะหล่ำปลีที่ปลูกเองปลอดสารพิษและยังสามารถทำแป็นรายได้เสริมได้อีกด้วย

สามารถรับข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ : คลิกที่นี่

อ้างอิง : คลิกที่นี่

เป็นกำลังใจช่วยแชร์หน่อยค่ะ



Tagged:
ball