บางครั้งเราจะได้ดอกไม้ในโอกาสสำคัญ ๆ บ้าง และช่างเป็นความทรงจำที่ดีจนอยากจะเก็บไว้นาน ๆ แต่ดอกไม้พอถึงเวลาก็ต้องเหี่ยวเฉาลงไปเหมือนกัน วันนี้จะพาทุกคนมารู้จักกับวิธีการเก็บรักษาดอกไม้ให้อยู่นานขึ้น นั่นก็คือ วิธีดอกไม้แห้ง โดยที่ดอกไม้ยังสวยเหมือนเดิม
4 วิธีทำดอกไม้แห้ง แบบง่าย ๆ
1 . ตากดอกไม้ แบบคว่ำหัวลง
นำดอกไม้มามัดกับเชือกแล้วคว่ำหัวดอกไม้ลงโดยหาห้องที่มีอากาศถ่ายเทได้อย่างสะดวกเนื่องจากห้องที่มีอากาศถ่ายเทสะดวกจะลดโอกาสการเกิดเชื้อราที่กลีบดอกได้ และตรกดอกไม้ไว้ประมาณ 2-3 สัปดาห์ ดอกไม้ที่เคยสดก็จะแห้งสนิท และก้านของดอกก็จะตั้งตรง ไม่หักงอ ทริคนี้เหมาะกับดอกไม้ที่มีกลีบที่ค่อนข้างหนา เพราะหากเป็นดอกไม้ที่มีกลีบบางอาจจะเหี่ยวย่นและยับได้นั่นเอง
2 . ทำดอกไม้แห้งด้วยการ แช่สารดูดความชื้น
สารดูดความชื้นหรือซิลิก้าเจล สามารถช่วยป้องกันสิ่งของเช่น กระเป๋า รองเท้า หรือขนมบางชนิดให้รอดพ้นจากความชื้น ซึ่งเราสามารถเอาสารดูดความชื้นมาใช้ประโยชน์สำหรับการทำดอกไม้แห้งได้อีกด้วย โดยวิธีการทำดอกไม้แห้งจากสารดูดความชื้นนั้น ทำได้โดยเริ่มจากนำสารดูดความชื้น หรือ ซิลิก้าเจล ใส่ในภาชนะทรงสูง จากนั้นตั้งดอกไม้ให้ตรง และอยู่ในทรงที่เราต้องการ จากนั้นเริ่มเทสารดูดความชื้น หรือ ซิลิก้าเจล ให้สูงเพียงพอที่จะกลบดอกไม้จนมิด จากนั้นปิดฝาภาชนะ ให้ดอกไม้อยู่กับซิลิก้าเจลต่อไปอีกประมาณ 3 – 7 วัน เพียงเท่านี้ ก็จะได้ดอกไม้แห้งแบบสมบูรณ์ ที่ไม่มีความชื้นหลงเหลืออยู่ หรือถ้าอยากจะเก็บเฉพาะตัวดอก ก็สามารถตัดก้านออก แล้วใส่ในภาชนะที่ไม่ต้องสูงมาก แค่สามารถแช่ดอกไม้ในสารดูดความชื้น ก็ได้เช่นกันนะ
3 . ทำดอกไม้แห้งจาก ไมโครเวฟ และ สารดูดความ
วิธีการทำดอกไม้แห้งวิธีนี้ เหมาะกับคนที่เร่งรีบและถือว่าเป็นวิธีลัดเลยก็ว่าได้ เพียงแค่หาภาชนะที่สามารถเข้าไมโครเวฟได้ จากนั้นเทสารดูดความชื้นลงไป วางดอกไม้ที่ตัดก้านแล้ว ให้เหลือความยาวประมาณ 2 นิ้วก็พอ แล้วนำเข้าไมโครเวฟประมาณ 1 – 2 นาที เพียงเท่านี้ก็จะได้ดอกไม้แห้งแบบรวดเร็วแล้ว ในส่วนของภาชนะไม่ควรนำมาใส่อาหารรับประทานอีกแล้วเพื่อความปลอดภัยของร่างกายเรานั่นเอง
4 . ทำดอกไม้แห้ง ด้วยวิธีเบสิคด้วยการทับดอก
วิธีนี้เป็นวิธีการยอดฮิตเลยก็ว่าได้ เพียงแค่นำดอกไม้ที่เราได้มาจัดให้สวยและวางทิชชู หรือกระดาษแห้งๆ ไม่เงาหรือมันหลังจากนั้นก็นำดอกไม้สอดไว้ในหนังสือเล่มหนาอีกครั้ง อาจจะเป็นไม้หรือกล่องหนักๆ ก็ได้เช่นกัน
สามารถรับข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ : คลิกที่นี่
อ้างอิง : คลิกที่นี่
