ลา มาเซีย ประวัติ
ฟุตบอลถือเป็นกีฬาระดับโลกซึ่งในแต่ละประเทศจะมีอคาเดมี่ฟุตบอลมากมาย แต่เราจะมาพูดถึง ลา มาเซีย ประวัติ ความเป็นมา ซึ่ง ลา มาเซีย (La Masia) ยังถูกยกย่องว่าเป็นอคาเดมี่ฟุตบอลที่ดีที่สุดในโลกอีกด้วย โดย ลา มาเซีย (La Masia) เป็นศูนย์ฝึกฟุตบอลที่มีการวางกฎระเบียบเคร่งครัด และเป็นแบบแผนอย่างมาก ซึ่งเป็นธุรกิจที่มีการแข่งขันสูงใน ลาลีกา (LaLiga) ก็เป็นลีกใหญ่ในสเปนที่มีบาร์เซโลนาเป็นหนึ่งในทีมตัวเต็งที่ชาวกาตาลันต่างคาดหวังไว้สูง มีโอกาสต่อยอดเป็นนักเตะระดับโลกได้อย่าง  ลิโอเนล เมสซี (Lionel Messi) เซสก์ ฟาเบรกาส (Cesc Fàbregas) อันเดรส อิเนียสตา (Andrés Iniesta) และอื่นๆ อีกมากมาย

ประวัติ จอร์จ เบสต์ พิษร้ายจากความสำเร็จ จากดาราลูกหนัง สู่คนล้มละลาย

ลา มาเซีย ประวัติ อคาเดมี่ฟุตบอลที่ว่ากันว่าดีที่สุดในโลก ที่ปั้นนักเตะแข้งดังมากมาย

ลามา เซีย ประ วัติ  คำว่า ‘masia’ ในภาษาคาตาลันมักจะแปลว่า ‘บ้านไร่ หรือ กระท่อม'(Farmhouse) ซึ่งก็ไม่ผิดไปจากความหมายมากนัก คำอธิบายโดยเกิดขึ้นในอดีตที่สโมสรนี้อยู่ในชนบททางตะวันออกของสเปน รวมถึงแคว้นคาตาลันด้วย กาารเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญคือเมื่อมีการสร้างสนามเหย้า คัมป์ นู ในช่วงปลายทศวรรษปี 1950 สถาปนิกที่ทำงานในสนามใหม่ของบาร์เซโลนาได้เปลี่ยนกระท่อมเก่าแก่แบบดั้งเดิมที่อยู่ใกล้ ๆ ให้กลายเป็นพื้นที่ทำงานที่สะดวกสบาย

กระท่อมหรือบ้านไร่หลังนี้สร้างขึ้นในปี 1702 เมื่อคัมป์นูสร้างเสร็จ บาร์ซ่าก็ตัดสินใจย้ายสำนักงานไปที่นั่น ในปี 1979 ที่นี่ได้กลายเป็นบ้านของสถาบันเยาวชน โดยมีการเรียกชื่อว่า “La Masia” (ลา มาเซีย) ตามลักษณะเดิมของสิ่งปลูกสร้าง โดย ลา มาเซีย จะเปิดรับเด็กๆ ที่มาจากที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ หลักมาจากแคว้นคาตาลันมาอยู่รวมกัน เด็กที่มาอยู่ที่นักมักจะเป็นเด็ก ๆ ที่ครอบครัวอยู่ไกลจากมาก ๆ จึงต้องฝากสโมสรดูแลเหมือนโรงเรียนกินนอน

ตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมา มีนักเตะระดับตำนานของบาร์ซ่าหลายสิบคนผ่านมา รวมถึงเป๊ป กวาร์ดิโอลา, การ์เลส ปูโยล, วิกเตอร์ บัลเดส และอันเดรส อิเนียสตา อะคาเดมีของบาร์ซ่ายังเป็นที่กำเนิดของชาบีและลิโอเนล เมสซี่ด้วย แต่พวกเขาไม่ได้อยู่ที่ลา มาเซีย (แม้ว่าพวกเขาจะไปทานอาหารที่นั่นกับเพื่อนร่วมทีมทุกวันหลังเลิกเรียนก็ตาม)

ในปี 2011 บาร์ซ่าได้ย้ายอะคาเดมีของพวกเขาไปยังอาคารใหม่ชานเมือง ซึ่งปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของคอมเพล็กซ์ Ciutat Esportiva Joan Gamper ในซานต์โจน เดสปี ซึ่งอยู่ห่างจากคัมป์นูไปทางตะวันตกประมาณ 8 กิโลเมตร (5 เมตร) แต่ทุกคนยังคงเรียกที่นี่ว่า “ลา มาเซีย” เหมือนเช่นเดิม

สรุป ลา มาเซีย ประวัติ สำหรับคำว่า ลา มาเซีย แปลว่า โรงนา ในภาษากาตาลัน เพราะศูนย์ฝึกในยุคนั้นมีลักษณะเป็นตึกหินยุคโบราณที่สร้างมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 18 ก่อนที่จะได้รับขนานนามว่าเป็นศูนย์ฝึกกีฬาระดับโลก เป็นต้นแบบด้านแผนการเงิน และการคืนผลประโยชน์ทางสังคมให้กับเด็กในท้องถิ่นผ่านการศึกษาอย่างทุกวันนี้ ที่นี่ก็ไม่ได้โดดเด่นนัก ระบบฟุตบอลเยาวชนที่มีก็ไม่ได้ฉายแววจะเป็นศูนย์บ่มเพาะระดับโลกได้ จนกระทั่งบาร์เซโลนาได้ลิ้มรสชัยชนะจากศึกประวัติศาสตร์ที่ชนะถ้วยยูโรเปียนคัพที่เวมบลีในปี 1992

โดยลา มาเซีย (La Masia) เรียกได้ว่าเป็นศูนย์ที่บ่มเพาะนักเตะชื่อดังมากมายให้กับบาร์เซโลนา รวมถึงนักเตะบางคนที่ไม่สามารถสอดแทรกก้าวขึ้นมาเล่นในทีมชุดใหญ่ของบาร์ซาได้ ก็จะถูกส่งออกไปสร้างชื่อให้กับบรรดาทีมต่างๆในยุโรปมากมายหลายต่อหลายคน ในปัจจุบันทีมบาร์เซโลนา ยุคชาบี เอร์นานเดซ ก็มีเด็กปั้นจาก “ลา มาเซีย” ก้าวขึ้นมาเป็นตัวหลักอยู่หลายคนไม่ว่าจะเป็นกาบี, เปดรี และล่าสุดก็คือ ลามีน ยามาล นั้นเอง


ขอบคุณเนื้อหาจาก : wikipedia

เป็นกำลังใจช่วยแชร์หน่อยค่ะ



ball