รถน้ำท่วม ประกันจ่ายไหม
จากเหตุการณ์น้ำท่วมหลายจังหวัดในประเทศไทยอย่างรุนแรง ทำให้ประชาชนต้องประสบความสูญเสียมากมาย ไม่ว่าจะบ้านเรือน ทรัพย์สิน รวมถึงยานพาหนะ เป็นต้น หลังจากน้ำลดแล้วจะมองหาประกันรถเป็นอันดับต้น ๆ เพราะสิ่งที่น่ากังวลต่อไปคงจะเป็นการประเมินค่าซ่อมรถ ถ้าไม่มีความรู้เลยก็อาจจะโดนอู่รถ ประกันภัยคิดราคาเกินจริงได้ หรือ รถน้ำท่วม ประกันจ่ายไหม วันนี้เรามาจึงขอไขข้อข้องใจ หากรถโดนน้ำท่วม พร้อมเปิดราคากลางค่าซ่อมรถยนต์กรณีรถถูกน้ำท่วม ไว้เป็นแนวทางในการประเมินค่าใช้จ่ายในการซ่อมเพื่อป้องกันการไม่ให้เสียรู้กัน และประกันภัยมีเกณฑ์การประเมินความเสียหายกับรถยนต์ที่โดนน้ำท่วมอย่างไร และแบบไหนถึงจะคืนทุนประกัน

โรคคาโรชิ คืออะไร รู้จักภัยคุกคามของคนบ้างาน อันตรายถึงตาย

รถน้ำท่วม ประกันจ่ายไหม ไขข้อข้องใจได้เลย

รถ น้ำท่วม ประกัน จ่ายไหม สำหรับประกันรถยนต์ เป็นการคุ้มครองความสูญเสียหรือเสียหายจากการใช้รถที่เกิดกับชีวิตหรือทรัพย์สิน ไม่ว่าจะเป็นบุคคลที่โดยสารอยู่ในรถ หรือบุคคลภายนอกก็ตาม โดยจะชดเชยค่าสินไหมทดแทนตามที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ของผู้เอาประกันภัย โดยเกณฑ์มาตรฐานการประเมินการซ่อมรถยนต์ที่ถูกน้ำท่วม ซึ่งหากใครทำประกันภัยรถยนต์ประเภทที่คุ้มครองภัยพิบัติจากธรรมชาติอย่างน้ำท่วมก็สามารถเคลมได้ ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ได้มีการกำหนดระดับความเสียหายในการประเมินค่าซ่อมแซมเพื่อใช้เป็นแนวทางปฎิบัติตามมาตรฐานเดียวกัน โดยแบ่งเป็น 5 ระดับ ดังนี้

  • ระดับ A น้ำท่วมถึงพื้นรถยนต์ ประเมินค่าซ่อม 8,000-10,000 บาท
  • ระดับ B น้ำท่วมถึงเบาะนั่ง ประเมินค่าซ่อม 15,000-20,000 บาท
  • ระดับ C น้ำท่วมถึงส่วนล่างของคอนโซลหน้า ประเมินค่าซ่อม 25,000-30,000 บาท
  • ระดับ D น้ำท่วมถึงส่วนบนของคอนโซลหน้า ประเมินค่าซ่อมเริ่มต้นที่ 30,000 บาทขึ้นไป
  • ระดับ E รถยนต์จมน้ำทั้งคัน บริษัทประกันภัยจะคืนทุนให้กับผู้เอาประกันภัยหรือผู้รับประโยชน์ตามกรมธรรม์

ดังนี้น หากใครที่มีรถยนต์และได้รับความเสียหายจากน้ำท่วมสามารถยึดระดับความเสียหายของ คปภ. ได้ในเบื้องต้น แต่อย่างไรก็ตาม อู่ประกันจะทำหน้าที่ประเมินราคาตามความเสียหายที่เกิดขึ้นจริงเพื่อให้บริษัทประกันอนุมัติอีกครั้ง หรือหากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วน คปภ. 1186

ไขข้องสงสัยอื่น ๆ เกี่ยวกับประกันรถยนต์

กรมธรรม์ของผู้เอาประกันภัย แบ่งออกเป็น 2 ประเภท ดังนี้

1.ประกันรถยนต์ภาคบังคับ

เรียกอีกอย่างว่า พ.ร.บ.รถยนต์ โดยจะคุ้มครองการรักษาพยาบาลคนที่ได้รับอุบัติเหตุจากรถของเรา ทุกครั้งที่ต่อทะเบียนรถยนต์ก็จะต้องแสดงตัว พ.ร.บ.นี้ด้วย

2.ประกันรถยนต์ภาคสมัครใจ

นอกจากประกันรถยนต์ภาคบังคับแล้ว เราก็จะมีประกันรถยนต์ที่สามารถเลือกความคุ้มครองได้ตามต้องการ โดยจะครอบคลุมเรื่องค่าใช้จ่ายซ่อมแซมรถ ค่ารักษาพยาบาล รวมถึงกรณีรถหาย แบ่งออกเป็น 5 ประเภท
– ประกันรถยนต์ ชั้น 1 คือประกันรถยนต์ที่มีความครอบคลุมมากที่สุด คุ้มครองทั้งตัวรถและชีวิตของผู้ขับ คู่กรณี และบุคคลที่สามที่ได้รับผลกระทบ ฝนตก น้ำท่วม ก็คุ้มครอง

– ประกันรถยนต์ชั้น 2 คุ้มครองความเสียหายของรถทุกคันที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งกรณีรถหายหรือไฟไหม้ หรือน้ำท่วม
– ประกันรถยนต์ชั้น 3 คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลของคนขับ ผู้โดยสารในรถคันนั้น รวมถึงความเสียหายของทรัพย์สินและชีวิตคู่กรณีและบุคคลภายนอก
– ประกันรถยนต์ชั้น 3+ คุ้มครองเหมือนประกันรถยนต์ชั้น 3 เพิ่มเติมคือความคุ้มครองรถของผู้เอาประกัน เฉพาะการเกิดอุบัติเหตุแบบมีคู่กรณี
– ประกันรถยนต์ชั้น 2+ คุ้มครองเหมือนประกันรถยนต์ชั้น 3+ เพิ่มเติมความคุ้มครองกรณีที่รถหาย หรือเกิดไฟไหม้

ประกันรถยนต์คุ้มครองความเสียหายจากน้ำท่วมอย่างไร ?

  1. สูญเสียโดยสิ้นเชิง
    พบในกรณีที่น้ำท่วมมิดคัน หรือท่วมสูงเกินคอนโซลหน้า ทำให้ห้องโดยสารเสียหาย ประเมินแล้วพบว่าซ่อมแล้วไม่คุ้ม แบบนี้บริษัทประกันมักจะจ่าย 70-80% ของทุนประกันรถยนต์หรือมูลค่ารถยนต์
  2. เสียหายบางส่วน
    ถ้าประเมินแล้วพบว่า สามารถซ่อมแซมเพื่อนำกลับมาใช้ได้ บริษัทประกันรถยนต์จะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมด

ขั้นตอนการส่งเคลมประกัน

  1. ถ่ายรูปรถในขณะที่ถูกน้ำท่วม โดยเน้นรายละเอียดให้เห็นทะเบียนรถ
  2. โทรไปสอบถามบริษัทประกันรถยนต์ เพื่อตรวจสอบรายละเอียดการเคลม แจ้งประสานงานเรื่องรถยกหรือรถลาก
  3. นัดหมายกับบริษัทประกันรถยนต์ เพื่อตรวจสอบความเสียหาย
  4. รอรับรถยนต์หลังจากที่ถูกนำไปซ่อมแซมจากอู่

สรุป รถน้ำท่วม ประกันจ่ายไหม สำหรับประกันรถยนต์ชั้น 1 จะคุ้มครองกรณีน้ำท่วมรถยนต์ หรือถ้ามีงบจำกัดก็อาจเลือกประกันรถยนต์ชั้น 2+ หรือ 3+ ของบางบริษัท ที่เพิ่มความคุ้มครองเรื่องน้ำท่วมโดยเฉพาะ โดยกรณีที่ประกันรถยนต์จ่ายโดยเราขับรถอยู่ท่ามกลางฝนตกหนัก แล้วน้ำก็ค่อยๆ สูงขึ้น จนทำให้น้ำท่วมรถ หรือจอดรถไว้หน้าบ้าน แล้วคืนนั้นฝนตกหนัก ตอนเช้ารถยนต์จมน้ำท่วมได้รับความเสียหาย แบบนี้ส่งเรื่องเคลมได้เลย และกรณีที่ประกันรถยนต์ไม่จ่าย รถยนต์เสียหายจากน้ำท่วม โดยเกิดจากความประมาทของผู้ขับขี่ เช่น เห็นอยู่แล้วว่าถนนข้างหน้าน้ำท่วมหนัก หรือมีการติดป้ายแจ้งเตือน แต่ก็ยังขับรถลุยน้ำไป แล้วอยู่ ๆ เครื่องดับกลางทาง แบบนี้ประกันไม่จ่ายนะ เพราะถือว่าเรานำรถยนต์ไปในพื้นที่เสี่ยงภัยเอง


ขอบคุณเนื้อหาจาก : wikipedia

เป็นกำลังใจช่วยแชร์หน่อยค่ะ



ball