มีรายงายจาก อัลจาซีรา ในวันที่ 13 ตุลาคม จากสถานการณ์การสู้รบระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์ โดยอิสราเอลถูกกล่าวหาใช้ “ฟอสฟอรัสขาว” ในฉนวนกาซา เผยเป็นอาวุธเพลิงสุดอันตราย สามารถเผาผลาญผิวหนังของมนุษย์ลงไปถึงกระดูก ขณะที่ ฮิวแมนไรท์วอทช์ ระบุว่า อิสราเอลมีการใช้ฟอสฟอรัสขาวในการปฏิบัติการทางทหารในฉนวนกาซาและเลบานอน โดยระบุว่า ฮิวแมนไรท์วอทช์ ได้รับและวิเคราะห์ภาพวิดีโอที่ถ่ายในฉนวนกาซาและเลบานอน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงกระสุนปืนใหญ่บรรจุฟอสฟอรัสขาวกำลังระเบิดขึ้น และยังมีภาพของสำนักข่าวเอเอฟพีเหนือฉนวนกาซาซึ่งเห็นเส้นสีขาวกระจายอยู่เหนือท้องฟ้า สำหรับใครที่ยังไม่รู้จักกับ ฟอสฟอรัสขาว คืออะไร ไปทำความเข้าใจความอันตรายของฟอสฟอรัสขาวกันได้เลย
iron dome คืออะไร ทำความรู้จัก ผนังทองแดงกำแพงเหล็ก ระบบป้องกันขีปนาวุธของอิสราเอล
ฟอสฟอรัสขาว คืออะไร รู้จักอาวุธต้องห้าม ที่อิสราเอลใช้ อันตรายถึงชีวิต
ฟอสฟอรัสขาว เป็นสารพิษที่มีลักษณะคล้ายขี้ผึ้ง เผาไหม้ได้ที่อุณหภูมิมากกว่า 800 องศาเซลเซียส ซึ่งสูงพอจะละลายโลหะได้ มันสามารถจุดไฟให้ลุกลามได้อย่างรวดเร็ว และควันหนา ในพื้นที่กว้าง จึงทำให้ฟอสฟอรัสขาวเป็นสารพิษที่กองทัพเลือกใช้ในการสร้างม่านควัน ซึ่งควันจะอยู่ราว 7 นาที และปกติแล้วจะไม่มีสี มีสีขาว หรือเหลือง
อย่างไรก็ตาม ฟอสฟอรัสขาวดับยากมาก โดยจะลุกเป็นไฟไปเรื่อย ๆ จนกว่าฟอสฟอรัสจะไหม้หมด หรือจนกว่าจะไม่ได้สัมผัสออกซิเจนอีกต่อไป โดยใช้งานผ่านกระสุนปืนใหญ่ ระเบิด จรวด หรือระเบิดมือ ทั้งนี้ ฟอสฟอรัสขาวที่ระเบิดออกมาจะกระจายไปเป็นบริเวณกว้าง ขึ้นอยู่กับระดับความสูงของระเบิด จนทำให้เกิดความเสียหายกับพลเรือน โครงสร้างพื้นฐานต่างๆ มากกว่าระเบิด
ฟอสฟอรัสขาวอันตรายต่อมนุษย์มากน้อยเพียงไหน
ฟอสฟอรัสขาวสามารถไหม้ผิวหนังของคนไปจนถึงกระดูก และดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย ทำให้เกิดความผิดปกติต่ออวัยวะต่างๆ ในร่างกาย ทั้งตับ ไต และหัวใจ โดยผู้เชี่ยวชาญระบุว่า แผลที่เกิดจากฟอสฟอรัสขาว มีผล 2 ระดับคือ ผลที่เกิดจากแผลไหม้ที่ค่อนข้างรุนแรงและลึกมาก ขณะที่ผลต่อไปคือ เมตาบอลิซึม ที่อาจฆ่าผู้ป่วยได้ เพราะความผิดปกติของระบบเมตาบอลิซึม มีผลทำให้เกิดภาวะหัวใจล้มเหลว ซึ่งหากแพทย์ไม่ได้ระบุว่า แผลเกิดจากฟอสฟอรัสขาว ก็อาจให้การรักษาไม่ได้ทันท่วงที และเสี่ยงต่อความล้มเหลวของการทำงานอวัยวะในร่างกาย และฟอสฟอรัสขาวนั้นสามารถติดไปได้หลายพื้นผิว เช่นเสื้อผ้า ที่ทำให้ผิวหนังไหม้ได้อีกครั้ง นอกจากนี้ยังอาจถึงชีวิตหากสูดดม และทำให้ระคายเคืองดวงตาอย่างรุนแรง
ทั้งนี้ ฟอสฟอรัสขาวไม่ได้ถูกห้ามโดยอนุสัญญาระหว่างประเทศ เนื่องจากไม่ได้ถูกนับเป็นอาวุธเพลิง ที่มีจุดประสงค์เพื่อจุดไฟหรือทำให้เกิดแผลไหม้ แต่กลายเป็นอาวุธอเนกประสงค์ แต่เพราะมันมีผลกระทบที่เป็นอันตรายต่อมนุษย์จึงเป็นสารเคมีที่ต้องได้รับการควบคุมอย่างเข้มงวด และกองทัพอิสราเอลเคยใช้ฟอสฟอรัสขาวเป็นม่านควัน ระหว่างโจมตีในฉนวนกาซาปี 2551-2552 ซึ่งในขณะนั้นกลุ่มสิทธิมนุษยชนหลายกลุ่มระบุว่าเป็นการก่ออาชญากรรมสงคราม ขณะที่กองทัพอิสราเอลเคยบอกในเวลาต่อมาว่าจะยุติการใช้สารเคมีดังกล่าวเพื่อการพรางตัว
สรุป ฟอสฟอรัสขาว ถือเป็นอาวุธเพลิงภายใต้ข้อตกลงของอนุสัญญาว่าด้วยการห้ามใช้อาวุธธรรมดาบางประเภท ซึ่งห้ามการใช้อาวุธเพลิงในการโจมตีเป้าหมายทางทหารที่อยู่ท่ามกลางพลเรือน สำหรับฟอสฟอรัสขาวดับยากมาก จะลุกเป็นไฟต่อไปจนกว่าฟอสฟอรัสจะไหม้หมดหรือจนกว่าจะไม่ได้สัมผัสกับออกซิเจน ซึ่งเผาไหม้ได้ที่อุณหภูมิมากกว่า 800 องศาเซลเซียส ซึ่งสูงพอที่จะละลายโลหะได้
ขอบคุณเนื้อหาจาก : wikipedia