สำหรับซีรีส์เกม Diablo เป็นเกม Action role-playing game ที่นำเสนอเนื้อหาที่น่าสนใจ มีจักรวาลเกมที่อัดแน่นด้วยเรื่องราวที่เข้มข้นจนทำให้เกม Diablo ขึ้นไปเป็นเกมระดับตำนานด้วยระบบการต่อสู้ที่สนุกมาก ๆ ในปัจจุบันจะมีการจะวางจำหน่ายตัวเกม Diablo 4 เร็ว ๆ นี้ ถือว่าเป็นเกมที่ประสบความสำเร็จมาก ๆ แน่นอนว่าจุดกำเนิดการพัฒนาในภาคแรกมีเรื่องราวน่าสนใจเอามาก ๆ ก็เลยคิดว่านับเป็นโอกาสอันดีที่เราน่าจะลองย้อนดู ประวัติ Diablo ถึงออกแบบและโปรแกรมเมอร์ Diablo เล่าถึงเส้นทางการพัฒนา Diablo ตั้งแต่แนวคิดริเริ่มจนถึงช่วงการพัฒนาเกมและการวางจำหน่วย และจะมีมีที่มาที่ไปเป็นอย่างไรไปดูพร้อมกันเลย
Diablo 4 รายละเอียดเบื้องต้น ระบบเกม ทำความรู้จักก่อนเกมเปิดจริง
ประวัติ Diablo เริ่มต้นจากชื่อภูเขา
หากพูดถึง ประวัติ Diablo มันจะเริ่มจาก “แนวคิดดั้งเดิมเป็นสิ่งที่ผมคิดได้ตั้งแต่ช่วงมัธยมตอนปลาย” คุณ Brevik กล่าว ซึ่งเขาได้แนวคิดจากชื่อภูเขาในท้องถิ่น คือ ภูเขา Diablo “มันเป็นสิ่งที่ผมอยากทำมาตลอด สร้างเกม และแม้ว่าผมยังอยู่ในช่วงมัธยมตอนปลาย ผมคิดถึงแต่ว่าเกมแบบไหนที่ผมจะสร้างและชื่ออะไรที่ผมอาจใช้ได้” แนวคิดดั้งเดิมนั่น Diablo จะเป็นเกม turn-based RPG และได้รับอิทธิพลมาจากเกมโปรดของเขาอย่าง Rogue และ Nethack
หลังจากเรียนจบมหาลัย เขาทำงานกับบริษัทภาพคลิปอาร์ตแบบดิจิตอล ซึ่งท้ายที่สุดบริษัทดังกล่าวล้มละลาย บุคลากรต่างแยกย้าย บ้างก็ตั้งบริษัทของตัวเอง คุณ Brevik ได้ตั้งบริษัทใช้ชื่อเดียวกับโครงการลับของบริษัทเก่าของเขา “Project Condor” บริษัท Condor จึงได้ถือกำเนิดขึ้น
การร่วมมือระหว่าง Blizzard South และ Condor
ช่วงที่คุณ Brevik วางแผนโครงการเกม Diablo บริษัทของเขากำลังพัฒนาเกมอื่นอยู่เช่นกัน หนึ่งในเกมนั่นก็คือ Justice League Task Force ในฉบับเครื่อง Sega Genesis ส่วนฉบับ SNES พัฒนาโดย Silicon & Synapse ซึ่งต่างฝ่ายต่างไม่รู้มาก่อนว่ามีการพัฒนาอีกฉบับหนึ่ง เพราะทางผู้จัดจำหน่ายไม่ได้แจ้งไว้ พวกเขาต่างได้ทราบในงาน Consumer Electronics Show “เราจัดแสดง เกมของเราอยู่บนจอ เราดูแล้ว มีเกมอีกฉบับนี่หว่า สำหรับ SNES” คุณ Brevik กล่าว
ซึ่งเป็นเรื่องที่แปลก เพราะทั้งสองฉบับมันเหมือนกันอย่างน่าประหลาด ทาง Condor ได้ไปพูดคุยกับ Silicon & Synapse (ซึ่งพวกเขาก็อยากทำเกมเป็นของตัวเองแบบเดียวกับที่ Condor อยากทำ Diablo) เพื่อนำเสนอโครงการพัฒนาเกม Diablo “เราพยายามเสนอแนวคิดของเกมนี้ให้คนเยอะมาก แต่พวกเขาบอกปฏิเสธ RPG มันตายไปแล้ว ไม่มีทางที่ลงทุนกับเกมแนว RPG” คุณ Brevik กล่าว แต่หลังจาก Silicon & Synapse กลายเป็น Blizzard (South) และสร้างเกม Warcraft พวกเขาติดต่อกลับมายัง Condor พวกเขาชอบมัน และเสนอตัวเป็นผู้จัดจำหน่ายเกมนี้ “เราตื่นเต้นมาก เราเซ็นสัญญาทำ Diablo”
ประวัติ Diablo ที่มีปัญหาทางการเงินสู่การเป็น Blizzard North และกำเนิด Battle.net
ในช่วงพัฒนา Diablo มีปัญหาเรื่องงบในการพัฒนาเกมนี้ เป็นเพราะทางบริษัทไม่ช่ำชองทางการบริหารสักเท่าไร “เราตื่นเต้นมากที่จะพัฒนา Diablo เราเซ็นสัญญา [กับ Blizzard] โดยปราศจากการชั่งใจว่าเราเพิ่งตกลงทำ Diablo สำหรับเงิน 300,000” คุณ Brevik กล่าว “เรามีทีมงาน 15 คนในที่ทำงาน แล้ว…เราจะต้องจ่ายเงินพวกเขา 20,000 ต่อปีเพื่อทำเกมนี้? แล้วเราจะจ่ายค่าที่สำนักงานยังไง?”
พวกเขาเลยต้องหาลำไพ่พิเศษเพื่อนำเงินมาใช้ในการพัฒนา Diablo เลยมีการเซ็นสัญญาพัฒนาเกมฟุตบอลลงเครื่องคอนโซลให้ 3DO ด้วยจำนวนเงินเกือบล้าน แต่หลังจากนั้นทาง Blizzard South เจรจาซื้อ Condor เปลี่ยนชื่อเป็น Blizzard North ทำให้ทางทีมไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องทุนอีกต่อไป 3DO
เมื่อรู้เรื่องการเจรจาดังกล่าว ก็มีการยื่นข้อเสนอเกทับ โดยให้เงินมากกว่าสองเท่า แต่ทาง Condor เลือกที่จะอยู่กับทาง Blizzard South เพราะวัฒนธรรมองค์กรและความเห็นตรงกัน พวกเขาจึงกลายเป็น Blizzard
นอกจากการพัฒนา Diablo มีการพัฒนาแพลตฟอร์ม Battle.net โดย Blizzard North แต่ส่วนใหญ่พัฒนาที่ Blizzard South แต่ Diablo ไม่มีระบบการเล่นหลายคนหรือแม้กระทั่งโค้ดสำหรับการพัฒนาเสียส่วนใหญ่ ในช่วงเดือนสุดท้ายของการพัฒนา ทีม Blizzard North ต้องมุ่งหน้าลงใต้เพื่อไปพัฒนาร่วมกันกับ Blizzard South เพื่อให้ Battle.net รองรับ Diablo ซึ่งในท้ายที่สุดก็ต้องปรับปรุงสถาปัตยกรรมแบบไคลเอนท์เซิร์ฟเวอร์สำหรับ Diablo II อยู่ดี
สรุป Diablo เริ่มชื่อภูเขา และDavid Brevik เป็นผู้ออกแบบและโปรแกรมเมอร์ Diablo ในช่วงพัฒนา Diablo มีปัญหาเรื่องงบในการพัฒนาเกมนี้ เป็นเพราะทางบริษัทไม่ช่ำชองทางการบริหารสักเท่าไร แต่หลังจากนั้นทาง Blizzard South เจรจาซื้อ Condor เปลี่ยนชื่อเป็น Blizzard North ทำให้ทางทีมไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องทุนอีกต่อไป
ขอบข้อมูลจาก : blizzard