เลเวอร์คูเซ่น แชมป์ไร้พ่ายบุนเดสลีกา 23/24 หลังจากหลังสามารถเอาชนะ เวเดอร์ เบรเมน ไปได้ 5-0 การันตีคว้าแชมป์บุนเดสลีกาสมัยแรกได้สำเร็จ แฟนบอลเลเวอร์คูเซนหลายหมื่นคนที่อดทนรอคอยช่วงเวลานี้มาอย่างยาวนานก็ได้กรูกันลงไปในสนามทันที เป็นชัยชนะครั้งนี้เป็นการปิดฉากให้พวกเขาคว้าแชมป์บุนเดสลีกาสมัยแรกในประวัติศาสตร์ของสโมสรมาครองได้สำเร็จแม้ว่าจะยังไม่จบฤดูกาล เพราะทำคะแนนทิ้งห่างบาเยิร์น มิวนิคถึง 16 คะแนน อีกทั้งพวกเขาตอนนี้ยังทำสถิติไร้พ่าย 43 นัดติดต่อกัน โดยแบ่งเป็นชนะ 38 นัด เสมอ 5 นับเป็นทีมเดียวใน 5 ลีกใหญ่ที่ยังไม่แพ้ใครจนถึงตอนนี้
และ ยังคงอยู่ในเส้นทางในลุ้นทริปเปิลแชมป์ กับ แชมป์ไร้พ่าย นับเป็นฤดูกาลประวัติศาสตร์เลยก็ว่าได้ โดยแชมป์นี้เป็นการลบคำปรามาสที่โดนมาตลอดว่า “Neverkusen” หรือเลเวอร์คูเซนผู้ไม่มีวันคว้าแชมป์ แผลเป็นในใจของทุกคนในสโมสรและแฟนฟุตบอลตลอดช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมาได้ด้วย และทีมเลเวอร์คูเซ่น หรือที่คนไทยรู้จักในชื่อว่าทีมห้างขายยากว่าจะมาถึงวันนี้ได้ต้องผ่านเรื่องราวอะไรมาบ้าง เราจึงจะมาบอกเล่าถึง ประวัติ เลเวอร์คูเซ่น เส้นทาง 120 ปีที่รอคอย กับแชมป์บุนเดสลีกาครั้งแรก
ประวัติ วิคตอร์ เกียวเคเรส ดาวยิงเนื้อหอมกับผลงาน 46 นัด 40 ประตู 15 แอสซิสต์
ประวัติ เลเวอร์คูเซ่น ผู้สร้างตำนานไร้พ่ายบุนเดสลีกา 23/24
- จุดกำเนิดจากยิมนาสติกของชาวโรงงาน
ประ วัติ เลเวอร์คูเซ่น หรือชื่อเต็มๆว่า ไบเออร์ 04 เลเวอร์คูเซน เป็นสโมสรฟุตบอลเก่าแก่ของประเทศเยอรมนีที่ก่อตั้งมาตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 1904 เพียงแต่ในจุดเริ่มต้นนั้นสโมสรแห่งนี้ไม่ได้เป็นทีมฟุตบอลแต่เป็นเหมือนสโมสรกีฬายิมนาสติกซึ่งเป็นกีฬายอดนิยมของชาวเยอรมันในยุคสมัยนั้นโดยมีกีฬาอื่น ๆ เป็นเพียงแค่ตัวเสริมเท่านั้น ซึ่งฟรีดิช ไบเออร์ จูเนียร์ เจ้าของบริษัท ฟรีดิช ไบเออร์ แอนด์ โค ที่เริ่มจากธุรกิจสีย้อมผ้ามาจนถึงเคมีภัณฑ์และยารักษาโรค เองก็ต้องการให้ลูกจ้างในโรงงานได้ออกกำลังกายเพื่อมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นด้วย
“Turn- und Spielverein Bayer 04 Leverkusen” หรือเรียกกันง่ายๆว่า “TuS 04” สโมสรกีฬาของเลเวอร์คูเซน ซึ่งตั้งชื่อตามคาร์ล เลเวอร์คุส นักธุรกิจเพื่อนสนิทของไบเออร์ และเป็นผู้ขายที่ดินสำหรับสร้างโรงงานริมแม่น้ำไรน์ มาเริ่มแตกตัวออกมีทีมฟุตบอลเป็นของตัวเองในอีก 3 ปีถัดมาคือปี 1907 แม้จะมีข้อแม้ว่าคนจะเล่นฟุตบอลได้เป็นสมาชิกของสโมสรและเล่นยิมนาสติกต่อเนื่องทุกสัปดาห์
แต่ไบเออร์ เป็นสโมสรที่เป็นเจ้าของทีมเลเวอร์คูเซนมาอย่างยาวนานเกินกว่า 20 ปี ทำให้ได้รับการยกเว้นเป็นกรณีพิเศษ เพราะพิสูจน์แล้วว่าพวกเขาไม่ใช่นายทุนที่หวังครอบครองสโมสรเพื่อผลประโยชน์ทางธุรกิจเพียงอย่างเดียว แต่เป็นสโมสรที่มีความเชื่อมโยงกับชุมชนอย่างมีนัยสำคัญ
โดยปัญหาคือช่วงเวลาที่ผ่านมาพวกเขาไม่เคยได้แชมป์ใหญ่อย่างบุนเดสลีกาเลย Neverkusen กับ 120 ปีที่ว่างเปล่า และเมื่อฤดูกาล 2001-02 หรือ 22 ปีที่แล้ว เลเวอร์คูเซน เคยสร้างความฮือฮาด้วยการมีลุ้นคว้า “3 แชมป์” ในฤดูกาลเดียวกัน
แต่ไม่มีใครอยากเชื่อเหมือนกันว่าเลเวอร์คูเซนจะพลาดทุกอย่างหมด โดยหายนะเริ่มจากการพลาดแชมป์บุนเดสลีกาให้แก่โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ในช่วงโค้งสุดท้ายของฤดูกาลทั้งๆที่ต้องการเพียงแค่ 4 คะแนนจาก 3 นัดสุดท้ายเท่านั้น ต่อด้วยการแพ้ชาลเก 04 ในนัดชิงชนะเลิศเดเอฟเบ โพคาล และปิดท้ายด้วยการพ่ายเรอัล มาดริดในศึกยูเอฟา แชมเปียนส์ ลีก รอบชิงชนะเลิศ (ซีเนอดีน ซีดาน ยิงลูกวอลเลย์สุดสวยระดับตำนานในเกมนี้) ทำให้การลุ้น 3 แชมป์จบลงด้วยการเป็น “3 รองแชมป์”
เรื่องนี้เป็นความเจ็บปวดที่เป็นเหมือนแผลเป็นที่ไม่มีวันจางหายสำหรับชาวเมืองเลเวอร์คูเซน กับสมญาที่พวกเขาไม่เต็มใจรับ “Vizekusen” หรือ “Neverkusen” ผู้ไม่มีวันได้แชมป์
สมญานี้เป็นการตอกย้ำเรื่องที่เลเวอร์คูเซนเคยพลาดแชมป์บุนเดสลีกามาแล้วถึง 3 ฤดูกาลตั้งแต่ฤดูกาล 1996-97, 1998-99 และ 1999-2000 โดยเฉพาะฤดูกาลหลังสุดที่เจ็บลึกไม่แพ้กันเพราะต้องเป็นรองแชมป์ทั้งๆที่แต้มเท่าบาเยิร์น มิวนิค แค่ประตูได้เสียน้อยกว่าเท่านั้น และแชมป์ใหญ่ในประวัติศาสตร์ของสโมสรมีแค่ 2 ครั้งคือ แชมป์ยูเอฟา คัพ ในฤดูกาล 1987-88 และแชมป์เดเอฟเบ โพคาล ในฤดูกาล 1992-93 ซึ่งเก่าและนานจนไม่มีใครจำได้แล้ว
- การเข้ามาของ ชาบี อลอนโซ่
ในฤดูกาล 2022-2023 เลเวอร์คูเซ่นเริ่มต้นฤดูกาลได้อย่างย่ำแย่ จากการคุมทัพของ เกราร์โด้ เซออนเน่ ทำให้มีความจำเป็นที่ต้องปลด และแต่งตั้ง ชาบี อลอนโซ่ กุนซือชาวสเปน เข้ามาคุมทัพเลเวอร์คูเซ่น ในช่วงกลางฤดูกาล ซึ่งแม้ ชาบี อลอนโซ่ ในสมัยนักเตะจะเป็นสุดยอดกองกลาง ที่เคยคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกกับสเปนมาแล้ว แต่ถ้าพูดถึงงานกุนซือในเวลานั้นเรียกได้ว่ายังเป็นกุนซือที่ยังไร้ประสบการณ์ในเวทีลีกสูงสุด เขาเคยเป็นโค้ชเยาวชนที่เรอัลมาดริด ก่อนจะเริ่มเป็นโค้ชจริงจังที่ทีมสำรองที่เรอัล โซเซียดาด นับเป็นการตัดสินใจที่เสี่ยงอยู่พอสมควร
แม้ในช่วงแรกอาจเริ่มต้นได้ไม่ค่อยดี แต่ก็เขาค่อย ๆ พาทีมพัฒนาไปพร้อมกับตัวเขา ซึ่งหลังจากที่เขาเข้ามาเลเวอร์คูเซ่นก็อยู่ในแนวโน้มที่ดีขึ้นเรื่อย ๆ เขายกระดับฟอร์มนักเตะ เปลี่ยนแปลงระบบการเล่นมาเป็น 3-4-2-1 ปรับปรุงเกมรับและเกมรุก จนในฤดูกาลนั้นเขาสามารถผ่านทีมเข้ารอบรองชนะเลิศยูโรป้าได้สำเร็จ และนับเป็นการเข้ารอบรองยูโรป้าครั้งแรกในรอบกว่า 20 ปี แม้สุดท้ายจะพ่ายต่อโรม่าของมูรินโญ่ก็ตาม อีกทั้งในลีกเขาก็สามารถพาทีมจากอันดับ 17 ขึ้นมาจบในอันดับ 6 คว้าโควต้าไปยูโรป้าลีกในฤดูกาลหน้าได้สำเร็จ
- การคว้าแชมป์บุนเดสลีกานั้นเป็นเพียงแค่ “ก้าวแรก” เท่านั้นสำหรับเลเวอร์คูเซน
ทีมห้างขายยา ยังเหลือลุ้นแชมป์อีก 2 รายการด้วยกัน และเป็นการลุ้นแชมป์แบบมีลุ้นจริงๆด้วยไม่ว่าจะเป็นเดเอฟเบ โพคาล ที่จะพบกับไกเซอร์สลาเทิร์น ซึ่งพวกเขาเป็นต่ออยู่หลายกระบุง กับรายการยูเอฟา ยูโรปา ลีก ที่มาถึงรอบ 8 ทีมสุดท้ายโดยเกมนัดแรกชนะเวสต์แฮมไปแล้ว 2-0 และพูดได้เต็มปากว่าเลเวอร์คูเซนมีความหวังกับ 2 รายการนี้ และหวังจะกวาด 3 แชมป์เพื่อลบฝันร้ายเมื่อ 2 ปีที่แล้วให้ได้อย่างหมดจด แต่มันอาจไม่แค่นั้นเพราะเป้าหมายที่ใหญ่ที่สุดที่แฟนๆฝันไว้และต่อให้ไม่ใช่แฟนก็อยากเห็นเหมือนกันคือการคว้าแชมป์ทุกอย่างโดยไม่แพ้ใครเลยตลอดทั้งฤดูกาล ซึ่งมีโอกาสที่จะเป็นไปได้โดยในบุนเดสลีกาตอนนี้เหลือ 5 นัดเท่านั้น ถ้าทำได้ จะเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์จริงๆที่มีสโมสรคว้าแชมป์ได้ทุกรายการที่ลงแข่งขันในฤดูกาลเดียวโดยไม่แพ้ใครเลย
ทำไมถึงเรียกว่าทีม ห้างขายยา
ก่อนที่ฟุตบอลในหมู่คนงานจะเริ่มได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น มีการแยกตัวออกจากทีมยิมนาสติกอย่างเป็นทางการในปี 1928 โดยใช้ชื่อในขณะนั้นว่า “Sportvereinigung Bayer 04 Leverkusen” หรือ “เอสเฟา ไบเออร์ 04 เลเวอร์คูเซน”
ก่อนจะมีการเปลี่ยนแปลงอีกหลายครั้งจนปัจจุบันสโมสรฟุตบอล ไบเออร์ 04 เลเวอร์คูเซน ในปี 1999 และนี้ก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ได้รับฉาญาว่าทีม ห้างขายยา เพราะว่า ไบเออร์ เป็นบริษัทยา นั่นเอง
สรุป ประวัติ เลเวอร์คูเซ่น เป็นสโมสรฟุตบอลจากเมืองเลเวอร์คูเซ่นในประเทศเยอรมนี ก่อตั้งเมื่อ 1 กรกฎาคม ค.ศ. 1904 มีสนามเหย้าคือ ไบอาเรนา มีความจุ 30,210 ที่นั่ง ปัจจุบันเล่นอยู่ในบุนเดิสลีกาและอยู่ภายใต้การคุมทีมของซามี ฮูเปีย โดยสโมสรแห่งนี้มีกีฬาหลายชนิดที่นอกเหนือจากฟุตบอล เช่น ยิมนาสติก, เทนนิส, บาสเกตบอล เลเวอร์คูเซ่น
นับเป็นสโมสรเดียวในเยอรมนี ที่ยังไม่เคยได้แชมป์ลีกในประเทศ แต่เคยได้แชมป์ยุโรปมาแล้ว และล่าสุดเลเวอร์คูเซ่นได้สร้างตำนานในเส้นทางในลุ้นทริปเปิลแชมป์ กับ แชมป์ไร้พ่ายจนสำเร็จ โดยการนำทีมของชาบี อลอนโซ่
ขอบคุณเนื้อหาจาก : wikipedia