ประวัติ ซุปเปอร์เล็ก

ประวัติ ซุปเปอร์เล็ก เกียรติหมู่ 9 ด้วยสไตล์การเตะอันหนักหน่วง รุนแรง ซึ่งเป็นเครื่องหมายการค้าประจำตัว ทำให้ “ซุปเปอร์เล็ก” ได้รับฉายาจากแฟนมวยต่างชาติว่า “The Kicking Machine” (เครื่องจักรจอมเตะ) ซึ่งเจ้าตัวเองก็ปลื้มกับฉายานี้ไม่น้อย เพราะนอกจากจะเป็นเอกลักษณ์ประจำตัวแล้ว ยังสามารถข่มขวัญคู่ต่อสู้ก่อนขึ้นชกได้อีกด้วย โดยซุปเปอร์เล็ก ยอมรับแบบไม่อ้อมค้อมว่า รู้สึกภาคภูมิใจที่ได้มีโอกาสเข้ามาเป็นส่วนหนึ่ง และเติบโตขึ้นมากับค่ายชื่อดังแห่ง อ.ประโคนชัย อย่าง “เกียรติหมู่ 9” ที่ช่วยประสิทธิ์ประสาทวิชามวยไทย และมีรุ่นพี่ฝีมือดีซึ่งคอยเป็นต้นแบบในการก้าวขึ้นไปประสบความสำเร็จบนสังเวียน ซึ่งความรักใคร่อันแน่นแฟ้นที่เกิดขึ้นกับเพื่อนร่วมค่าย ทำให้พวกเขาสนิทสนมกันประหนึ่งพี่น้องร่วมสายเลือด

ประวัติ รถถัง จิตรเมืองนนท์ The Iron Man ยอดมวยจอมกระชากเรตติ้ง 

ประวัติ ซุปเปอร์เล็ก เกียรติหมู่ 9 “The Kicking Machine” แชมป์เปี้ยนมวย one ลุมพิณี

ประ วัติ ซุปเปอร์ เล็ก เกียรติหมู่ 9 มีชื่อจริงว่า มนัสชัย เอี่ยมศิริ (ชื่อเล่น เป๊บซี่) เกิดเมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2538 การเข้าสู่วงการมวยของ ซุปเปอร์เล็ก เกียรติหมู่ 9 คงต้องย้อนไปสมัยที่เจ้าตัวใช้ชีวิตอยู่ในย่านชนบทของอำเภอประโคนชัย จังหวัดบุรีรัมย์

ต้องพลัดพรากจากพ่อตั้งแต่อยู่ในท้องแม่ได้ 3 เดือน ด้วยความจน แม่จึงต้องปล่อยให้เขาอยู่กับตายาย ในวัย 7 ขวบของเด็กทั่วไปอาจจะเที่ยวเล่นสนุกกับเพื่อน ๆ บ้างเหมือน ซุปเปอร์เล็ก ที่ตามรุ่นพี่ไปซ้อมมวยตั้งแต่ยังเด็ก

พอเริ่มฝึกไปฝึกมาก็เริ่มเกิดความชื่นชอบและขึ้นชกมวยครั้งแรก จากจุดเริ่มต้นในวันนั้นทำให้ ซุปเปอร์เล็ก ได้เข้าไปร่วมซ้อมคายมวยแถวบ้าน “เกียรติหมู่ 9” และจุดเริ่มต้นความยิ่งใหญ่ก็มาจากตรงนั้น

ซุปเปอร์เล็กเริ่มชกมวยเมื่ออายุ 8 ปี โดยคุณตา ตัดสินใจพาหลานไปฝากที่ค่ายมวยเกียรติหมู่ 9 เพื่อหวังให้เขาช่วยแบ่งเบาภาระครอบครัว เดินสายแข่งขันตามงานวัดทั่วอีสานจนสร้างชื่อเสียงในแถบภูธรได้พอสมควร จากนั้นเข้ากรุงเทพฯ มาแข่งที่สนามมวยลุมพินีแต่แพ้ 4 ไฟต์ติดต่อกัน

ทางค่ายจึงตัดสินใจให้เขากลับไปชกต่างจังหวัดเหมือนเดิม จึงเรียกฟอร์มกลับมาอีกครั้ง เมือ พ.ศ. 2555 ในวัย 16 ปี ซุปเปอร์เล็กได้รับรางวัลนักมวยดีเด่นการกีฬาแห่งประเทศไทย (นักมวยถ้วยพระราชทานฯ) เขาได้เข้าร่วมงานกับวันแชมเปียนชิพในฐานะฮีโร่ตัวแทนจากประเทศไทยและนักชกตัวท็อปในชุดวันซูเปอร์ซีรีส์

โดยต้นปี พ.ศ. 2566 ได้ลงแข่งขันชิงแชมป์เข็มขัดคิกบอกซิงของวันแชมเปียนชิพรุ่นฟลายเวตที่ว่างอยู่กับแดเนียล พูแอร์ตัสจากสเปน ซุปเปอร์เล็กชนะคะแนนเอกฉันท์ขึ้นเป็นแชมป์โลก

ในศึกวันลุมพินี 34 เมื่อวันศุกร์ที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2566 คู่เอก “รถถัง vs ซุปเปอร์เล็ก” ซุปเปอร์เล็กชนะคะแนเอกฉันท์ในกติกามวยไทย ซึ่งเป็นนักชกรายเดียวที่ชนะรถถัง จิตรเมืองนนท์ ได้ ในรายการ วันแชมป์เปี้ยนชิพ แต่ซุปเปอร์เล็กไม่สามารถทำน้ำหนักได้[10]ในไฟท์ดังกล่าวจึงเป็นเพียงซูเปอร์ไฟต์ จากเดิมที่เป็นการชกชิงเข็มขัดวันฟลายเวทมวยไทยที่ รถถัง จิตรเมืองนนท์ ครองบังลังอยู่ ในการแข่งขันนี้สถิติยอดรับชมสูงสุดในประวัติศาสตร์มวยไทย ครองอันดับ 1 ช่วงเวลาไพรม์ไทม์ (เวลาที่มีผู้ชมมากที่สุด) ด้วยเรตติ้ง 7.2 สำหรับกลุ่มผู้ชายอายุ 15 ปีขึ้นไป และ 5.1 สำหรับกลุ่มผู้ชมทั่วประเทศ ทุกเพศ ทุกช่วงอายุ ประมาณการยอดผู้ชมทางทีวีและออนไลน์เฉพาะในประเทศไทยประมาณ 50 ล้านคน นอกจากนั้นยังติดอันดับท็อป 5 ในหลายประเทศทั่วโลก โดยในสหรัฐติดเทรนด์อันดับที่ 2 ทางทวิตเตอร์ และติดอันดับ 11 ทางยูทูบทั่วโลกในช่วงที่มีการแข่งขัน

เมื่อวันที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2567 ซุปเปอร์เล็กป้องกันแชมป์คิกบ็อกซิงรุ่นฟลายเวต (125-135 ปอนด์) เป็นครั้งที่ 2 ในรายการ วัน 165 ที่ อาริอาเกะอารีนา กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ผู้ท้าชิงคือ ทาเครุ เซกาวา ซุปเปอร์สตาร์ชาวญี่ปุ่นและคือ 1 ในนักชกคิงบ็อกซิงที่ดีที่สุดในโลก ซุปเปอร์เล็กเอาชนะคะแนนเอกฉันท์ นับเป็นไฟต์ที่ ทาเครุ เซกาวา บาดเจ็บหนักที่ในชีวิตการเป็นนักมวยด้วยแข้งของซุปเปอร์เล็ก และยังได้โบนัสมูลค่า 5 หมื่นดอลลาร์ (ประมาณ 1.8 ล้านบาท) และซุปเปอร์เล็กชิงแชมป์โลกกับโจนาธาน แฮ็กเกอร์ตีจากสหราชอาณาจักร เข็มขัดแชมป์โลกวันมวยไทย รุ่นแบนตัมเวต (135-145 ปอนด์) เมื่อวันที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2567 (เวลาสหรัฐ) ที่เมืองเดนเวอร์ สหรัฐ สามารถชนะน็อกยกที่ 1 ด้วยเวลาเพียง 49 วินาที ด้วยศอก ทำให้ซุปเปอร์เล็กได้เข็มขัดไปครอง

สรุป ประวัติ ซุปเปอร์เล็ก เกียรติหมู่ 9 มีชื่อจริงว่า มนัสชัย เอี่ยมศิริ (ชื่อเล่น เป๊บซี่) เป็นนักมวยไทยและคิกบอกซิงชาวไทย ปัจจุบันเป็นแชมป์โลกคิกบอกซิงของวันแชมเปียนชิพรุ่นฟลายเวต เคยเป็นแชมป์สนามมวยลุมพินี 2 รุ่น และอดีตแชมป์โลกของมวยไทยสภามวยโลกรุ่นซุปเปอร์เฟเทอร์เวต และยังได้รับการยอมรับว่าเป็นยอดมวยไทยที่เก่งที่สุดแห่งยุค


ขอบคุณเนื้อหาจาก : wikipedia

เป็นกำลังใจช่วยแชร์หน่อยค่ะ



ball