ทีมซานมารีโน จากสาธารณรัฐซานมารีโน ได้สร้างประวัติศาสตร์ให้กับสโมสรตัวเองกับการครั้งแรกในรอบ 20 กว่าปี ซาน มาริโน เป็นประเทศเล็กๆ มีอาณาเขตล้อมรอบด้วยอิตาลี และมีประชากรประมาณ 30,000 คน ที่ผ่านมาเคยเก็บชัยชนะเหนือลิกเตนสไตน์ซึ่งเป็นชัยชนะแรกในประวัติศาสตร์ลูกหนังของประเทศ ในเกมกระชับมิตรเมื่อปี 2004 อย่างไรก็ตาม
นี่เป็นชัยชนะแรกในทัวร์นาเมนต์ที่มีความหมาย และล่าสุด ซาน มาริโน ทีมที่มีอันดับโลกเป็นอันดับ 210 หรืออันดับสุดท้ายในฟีฟ่า แรงกิ้ง เก็บชัยชนะครั้งประวัติศาสตร์ หลังเปิดบ้านเฉือนชัยลิกเตนสไตน์ 1-0 ในฟุตบอลยูฟ่า เนชั่นส์ลีก เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2024 โดยนิกโก้ เซนโซลี่ แข้งวัย 19 ปี ทำประตูชัยในนาที 53 หลังจากลิกเตนสไตน์พาบอลเข้าไปตุงตาข่ายก่อนหน้านั้น แต่เป็นจังหวะล้ำหน้า เราทำความรู้จักกับ ประวัติ ซานมารีโน ทีมชาติอันดับบ๊วยของโลกในวงการฟุตบอล
ประวัติ อังเคล โกเมส อดีตดาวรุ่งแมนยู ที่ตัดสินใจอำลาทีม วันนี้คำแบ็กแจ้งเกิดในทีมชาติแล้ว
ประวัติ ซานมารีโน ทีมชาติอันดับบ๊วย จะเป็นอย่างไร
ประ วัติ ซาน มารีโน ก่อตั้งขึ้นในปี 1931 แต่สหพันธ์ไม่ได้จัดตั้งทีมชาติจนกระทั่งปี 1986 เมื่อทีมที่เป็นตัวแทนของสหพันธ์ลงเล่นกับทีมชาติแคนาดา U-23ในนัดกระชับมิตรซึ่งจบลงด้วยความพ่ายแพ้ 1–0 ซานมารีโนเข้าร่วมกับFIFAและUEFAในปี 1988 ทำให้ทีมสามารถเข้าร่วมการแข่งขันชิงแชมป์รายการสำคัญๆ ได้ ก่อนหน้านั้น ผู้เล่นซานมารีโนถือเป็นชาวอิตาลีในบริบทของฟุตบอลนานาชาติ
นัดแรกของซานมารีโนในการแข่งขันที่ได้รับการอนุมัติจากฟีฟ่า คือในรอบคัดเลือกสำหรับการแข่งขันชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปปี 1992ซานมารีโนแพ้ 4–0 และแพ้ทั้งแปดนัดในรอบคัดเลือก ทีมประสบปัญหาในการแข่งขันนอกบ้าน โดยแพ้ไปด้วยสกอร์อย่างน้อยสี่ประตู ซานมารีโนทำได้เพียงประตูเดียว ซึ่งเป็นลูกจุดโทษ ในเกมที่ แพ้โรมาเนีย 3–1 คาบ้าน และเสียประตูทั้งหมด 33 ประตู
ทีมผ่านเข้ารอบคัดเลือกของยูฟ่า ยูโร 1996ในรูปแบบเดียวกันกับการแข่งขันชิงแชมป์ยุโรปครั้งก่อนๆ โดยแพ้ทุกนัด เกมเยือนฟินแลนด์ทำให้ซานมารีโนได้ประตูแรกในเกมเยือนในรอบคัดเลือกของการแข่งขันชิงแชมป์ยุโรป อย่างไรก็ตาม ทีมยังแพ้ไป 4–1 ประตูเดียวที่พวกเขาทำได้คือเกมเหย้าที่หมู่เกาะแฟโร พ่าย 3–1 โดยชัยชนะ 2 นัดเหนือซานมารีโนเป็นคะแนนเดียวที่หมู่เกาะแฟโรได้รับในกลุ่ม ในนัดแรก สกอร์ 3–0 ที่เมืองทอฟเทียร์ถือเป็นชัยชนะอย่างเป็นทางการของหมู่เกาะแฟโร
แม้จะเทียบกับมาตรฐานของชาวซานมารีโนแล้ว การผ่านเข้ารอบฟุตบอลโลกปี 1998ก็ยังถือว่าน่าผิดหวัง ซานมารีโนแพ้ทุกแมตช์ด้วยประตูมากกว่าสามลูกและยิงไม่ได้แม้แต่ลูกเดียว นี่เป็นทัวร์นาเมนต์คัดเลือกฟุตบอลโลกครั้งเดียวที่พวกเขายิงประตูไม่ได้ การผ่านเข้ารอบยูโร 2000จบลงด้วยความพ่ายแพ้ในทุกแมตช์อีกครั้ง ซานมารีโนเกือบจะได้แต้มแล้ว คือไซปรัส ที่ พ่ายแพ้ไป 1–0 เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 1998
ในเดือนเมษายน 2004 ซานมารีโนได้รับชัยชนะครั้งแรกหลังจากพยายามมากกว่า 70 ครั้ง โดยเป็นชัยชนะ 1-0 เหนือลิกเตนสไตน์ในเกมกระชับมิตรเมื่อวันที่ 28 เมษายน 2004 โดยได้ประตูจากอันดี เซลวาใน นาทีที่ 5 เกมดัง กล่าวเป็นการเปิดตัว ของมาร์ติน อันเดอร์แมตต์ในฐานะผู้จัดการทีมลิกเตนสไตน์ ผลงานในรอบคัดเลือกฟุตบอลโลก 2006 ดำเนินไปในแนวทางเดียวกันกับรอบคัดเลือกกลุ่มก่อนหน้านี้ โดยส่วนใหญ่แล้วเกมจะจบลงด้วยความพ่ายแพ้ของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ยกเว้นเกมที่ ลิทัวเนียและเบลเยียมแพ้ด้วยประตูเดียวในบ้าน
ในการคัดเลือกฟุตบอลโลก 2010 พวกเขาแพ้ทั้ง 10 นัดและไม่สามารถผ่านเข้ารอบได้ พวกเขาเสียประตูไป 47 ประตูในนัดเหล่านั้น รวมถึง 10 ประตูในเกมที่แพ้โปแลนด์ซึ่งกลายเป็นชัยชนะของโปแลนด์ที่ทำประตูได้มากที่สุดตลอดกาล และยิงได้เพียงครั้งเดียวในเกมที่แพ้สโลวาเกีย 3-1 รอบคัดเลือก ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2012เริ่มต้นในลักษณะเดียวกัน โดย 9 นัดแรกพ่ายแพ้ทั้งหมด โดยเสียประตูรวม 49 ประตู และไม่มีประตูใดทำได้ ผลงานที่ดีที่สุดคือแพ้ฟินแลนด์ 1 ประตู ในบ้าน ส่วนผลงานที่แย่ที่สุดคือแพ้เนเธอร์แลนด์ 11-0 ซึ่งกลายเป็นชัยชนะที่ทำประตูได้มากที่สุดตลอดกาลของเนเธอร์แลนด์ และเป็นความพ่ายแพ้นอกบ้านที่แย่ที่สุดของซานมารีโน ตามมาด้วยความพ่ายแพ้ที่เบากว่าอีก 2 นัด คือแพ้สวีเดน 5-0 ที่บ้าน ก่อนจะปิดท้ายการแข่งขันด้วยการแพ้มอลโดวา 4-0 นอกบ้าน
เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2022 ซานมารีโนได้ลงเล่นเกมอย่างเป็นทางการนัดแรกในประวัติศาสตร์กับทีมที่ไม่ใช่ยุโรปในเกมกระชับมิตรกับกาบูเวร์ดีที่สนามกลางในสเปน โดยผลการแข่งขันคือแพ้ 2-0 จากนั้นซานมารีโนจะพบกับทีมจากแอฟริกาทีมที่สองซึ่งมีมาตรฐานต่ำกว่าทีมก่อนหน้ามากซึ่งก็คือเซเชลส์ อันดับที่ 198 โดยพวกเขาจะเป็นเจ้าภาพในเกมกระชับมิตรที่สตาดิโอ โอลิมปิโกเมื่อวันที่ 21 กันยายน 2022
ซานมารีโนยุติสตรีคการแพ้ 18 เกมรวดด้วยการเสมอแบบไม่มีสกอร์ แต่โดยรวมแล้วน่าผิดหวังเพราะไม่สามารถใช้โอกาสที่มีให้เป็นประโยชน์และเอาชนะในบ้านกับคู่แข่งที่อยู่ใกล้พวกเขาซึ่งเล่นแนวรับในรูปแบบ 4-5-1ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก ฤดูกาล 2022-2023คัดเลือกเข้าสู่กลุ่ม B ของลีก D อีกครั้งซึ่งประกอบด้วยสามทีม แต่พวกเขาแพ้สี่เกมโดยไม่สามารถทำประตูได้ ส่งผลให้ซานมารีโนกลายเป็นทีมยุโรปทีมเดียวที่ยังไม่สามารถทำประตูได้ 3 นัดติดต่อกัน
เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2023 ซานมารีโนทำประตูอย่างเป็นทางการได้เป็นครั้งแรกในรอบสองปีกับเดนมาร์กในเกมที่แพ้ 1–2 ในการแข่งขันคัดเลือกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2024พวกเขาทำประตูได้อีกครั้งในเกมที่พบกับคาซัคสถานเมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2023 โดยแพ้ไป 3–1
และเพียงสามวันต่อมาพวกเขาก็ทำประตูได้อีกครั้งในเกมที่แพ้ฟินแลนด์ 2–1 นี่ถือเป็นครั้งแรกที่ซานมารีโนทำประตูได้ติดต่อกันสามเกม พวกเขายังเป็นการแข่งขันคัดเลือกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปครั้งแรกที่พวกเขาไม่ได้เป็นทีมที่แย่ที่สุดโดยรวม (ลิกเตนสไตน์ทำประตูได้เพียงหนึ่งประตูในทัวร์นาเมนต์ ในขณะที่ยิบรอลตาร์ทำประตูไม่ได้เลย)
เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2024 ซานมารีโนทำคะแนนได้ 4 เกมติดต่อกันเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ หลังจากนำเซนต์คิตส์และเนวิส 1–0 ก่อนจะแพ้ไปในที่สุด 3–1 เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2024 ซานมารีโนยุติสถิติแพ้รวด 12 เกมด้วยการเสมอเซนต์คิตส์ 0–0 และเมื่อวันที่ 5 กันยายน 2024 ซานมารีโนเอาชนะลิกเตนสไตน์ 1–0 ในยูฟ่าเนชั่นส์ลีก 2024–25ซึ่งถือเป็นชัยชนะอย่างเป็นทางการครั้งแรกนับตั้งแต่เข้าร่วมฟีฟ่าและยูฟ่า โดยที่นิโก เซนโซลีเป็นผู้ทำประตูเดียวของเกมใน
สรุป ประวัติ ซานมารีโน เป็นตัวแทนของซานมารีโน ในการแข่งขัน ฟุตบอลชายระดับนานาชาติทีมนี้อยู่ภายใต้การควบคุมของสหพันธ์ฟุตบอลซานมารีโน และถือเป็นสมาชิก ยูฟ่าที่มีจำนวนน้อยที่สุดปัจจุบันทีมนี้เป็นทีมฟุตบอลชาติที่อยู่ในอันดับต่ำที่สุดของฟีฟ่า โดยชนะการแข่งขันเพียงสองนัดนับตั้งแต่ก่อตั้ง โดยนัดแรกอย่างเป็นทางการของซานมารีโนคือความพ่ายแพ้ 4-0 ต่อสวิตเซอร์แลนด์ในรอบคัดเลือกชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป ในปี 1990
ทีมชาติซานมารีโนที่ไม่เป็นทางการลงเล่นกับทีม ชาติแคนาดาชุดอายุต่ำกว่า 23 ปีในปี 1986 โดยแพ้ไป 1-0 ตั้งแต่เริ่มลงเล่นอย่างเป็นทางการ ซานมารีโนได้เข้าร่วมรอบคัดเลือกของทุกรายการชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปและฟุตบอลโลกชัยชนะอย่างเป็นทางการครั้งแรกของพวกเขาคือชัยชนะ 1-0 เหนือลิกเตนสไตน์เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2024 ในยูฟ่าเนชั่นส์ลีก
ขอบคุณเนื้อหาจาก : wikipedia
