จากละครเรื่องแม่หยัว ที่ทางช่อง One 31 ได้นำมาออกอาการ โดยได้นางเอกเป็นนักแสดงดังอย่างใหม่ ดาวิกา มารับบทบาทเป็น แม่หยัว ทำให้แฟนคลับของใหม่ ดาวิกา รวมถึงผู้ที่ชื่นชอบละครแนวพีเรียดย้อนยุคของไทยให้ความสนใจกันเป็นอย่างมาก รวมถึงได้มีคนนำบางช่วงบางตอนของละครไปตัดต่อจนเป็นไวรัลทำให้แม้แต่คนที่ไม่ได้ดูละครก็สนใจที่จะมาดูและสนใจเกี่ยวกับประวัติของแม่หยัว เนื่องจากมีเค้าโครงมาจากเรื่องจริง และในละครได้สอดแทรกข้อมูลที่น่าสนใจหลายอย่าง เหมือนเป็นการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ไปด้วย โดยหากใครต้องการทราบประวัติความเป็นมาของสตรีที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดแห่งยุคอโยธยา วันนี้เราได้หา ประวัติศรีสุดาจันทร์ หรือ แม่หยัว มาให้ทุกท่านได้ศึกษากัน
วิธีเช็กเบอร์มิจฉาชีพ เบอร์พี่มิจ เช็กได้ไม่อยาก เพียงทำตามวิธีเหล่านี้
ประวัติศรีสุดาจันทร์ สตรีที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดแห่งยุคอโยธยา
ประวัติ ศรีสุ ดาจันทร์ หรือ แม่หยัวศรีสุดาจันทร์ เป็นบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์ไทยในช่วงสมัยกรุงศรีอยุธยา เป็นพระมเหสีของสมเด็จพระไชยราชาธิราช มีพระราชโอรส 2 พระองค์ คือ พระยอดฟ้า และพระศรีศิลป์ และมีบทบาทสำคัญในการเมืองของราชสำนักอยุธยา โดยเฉพาะหลังจากการสวรรคตของสมเด็จพระไชยราชาธิราชในปี พ.ศ. 2091
เรื่องราวของ ท้าวศรีสุดาจันทร์ ได้ถูกบันทึกเอาไว้ในแผ่นหินศิลาที่จารึกถึงพระชาติกำเนิด โดยมีข้อสันนิษฐานว่าอาจสืบเชื้อสายมาจากสมเด็จพระเจ้ารามราชาแห่งราชวงศ์อู่ทอง ที่เสียราชสมบัติแล้วถูกส่งไปอยู่เมืองปทาคูจาม พระองค์ถูกละเว้นไว้ในฐานะที่เป็นตระกูลผู้สืบเชื้อสาย จึงได้รับการเลี้ยงดูสืบมาและให้มาทำหน้าที่สำคัญในราชสำนัก
นอกจากนี้ยังมีบางตำราบอกเกี่ยวกับประวัติท้าวศรีสุดาจันทร์ ว่าพระองค์ถือกำเนิดจากคนสามัญในครอบครัวยากจนแสนเข็ญ บิดามารดาอยู่ที่บ้านนาเกลือปากน้ำเจ้าพระยา ตำบลสาขลา แขวงเมืองพระประแดง มีชื่อเดิมว่า บัวผัน เมื่อเกิดมาตั้งแต่เด็กจนโตเป็นสาวมีความมหัศจรรย์อย่างมาก คือความงดงามของเรือนร่างที่พิเศษในแบบที่หญิงอื่นไม่มี กลิ่นกายที่หอมราวกับดอกชำมะนาด ทำให้ชายใดที่ได้อยู่ใกล้ไม่อาจยับยั้งชั่งใจได้ จนมีคนนำความส่งต่อไปยังกรุงศรีอยุธยา สมเด็จพระอัครมเหสีรับสั่งให้นำบัวผันมาเข้าเฝ้า และทรงเมตตารับเลี้ยงไว้ให้รับใช้ใกล้ชิด จนในที่สุดก็ได้นำตัวบัวผันไปถวายต่อพระราชสวามี หรือ สมเด็จพระไชยราชาธิราช กษัตริย์พระองค์ที่ 13 แห่งกรุงศรีอยุธยา
ภายหลังจากการขึ้นครองราชย์ของขุนวรวงศาธิราชได้ไม่นาน กรมการเมืองลพบุรีได้เข้าเฝ้ากราบทูลว่า มีช้างเผือกเชือกหนึ่งที่ลพบุรี ขุนวรวงศาธิราชรับสั่งว่าจะไปคล้องเองแต่เกิดเปลี่ยนพระทัย จน 7 วันต่อมาช้างเผือกได้เข้ามาทางวัดแม่นางปลื้มเข้าเพนียดวัดซอง ก็ได้รับสั่งว่าหนนี้จะไปคล้องเอง ในระหว่างที่ขุนวรวงศาธิราช แม่อยู่หัวศรีสุดาจันทร์ พระธิดา และพระศรีศิลป์
กำลังประทับเรือพระที่นั่ง ขุนวรวงศาธิราช แม่อยู่หัวศรีสุดาจันทร์ และพระธิดา ก็ถูกลอบปลงพระชนม์ที่คลองสระบัว ก่อนที่จะนำพระศพทั้งหมดไปเสียบประจานไว้ที่วัดแร้งให้เป็นที่อับอาย สิ้นสุดแผ่นดินขุนวรวงศาธิราชที่ครองราชย์ได้เพียง 42 วัน ถือเป็นจุดสิ้นสุดยุคสมัยของ ท้าวศรีสุดาจันทร์ และยุคมืดของกรุงศรีอยุธยาอย่างแท้จริง
สรุป ประวัติศรีสุดาจันทร์ ท้าวศรีสุดาจันทร์ สตรีผู้ถูกจารึกในหน้าประวัติศาสตร์ไทย ที่ทำบัลลังก์กษัตริย์กรุงศรีอยุธยาสั่นคลอน ซึ่งแม้ว่าสิ่งที่ถูกพูดถึงเกี่ยวกับตัวละครดังกล่าวจะเป็น ท่าพับเป็ด หรือความสัมพันธ์กับ ขุนวรวงศาธิราช แต่หากมองย้อนไปในอดีต ท้าวศรีสุดาจันทร์ ถือเป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญบนหน้าประวัติศาสตร์ไทยสมัยยุคมืดของกรุงศรีอยุธยา ที่ปรากฏการเข่นฆ่าเพื่ออำนาจมากมาย ทำให้หลายคนเริ่มให้ความสนใจและอยากรู้จัก ท้าวศรีสุดาจันทร์ ให้มากขึ้น วันนี้กระปุกจะพาทุกคนไปรู้จัก ประวัติ ท้าวศรีสุดาจันทร์ แม่หัวเมืองแห่งอโยธยา นางพญาผู้มีบทบาทในประวัติศาสตร์ไทย อยู่คู่กษัตริย์อยุธยากว่า 5 รุ่น
ขอบคุณเนื้อหาจาก : wikipedia