เคยสงสัยกันไหมว่าทำไมนะ ดอกไม้ที่มีสีสันสวยงามกลับไม่ค่อยมีกลิ่นหอม แต่ดอกไม้ที่มีสีขาวมักจะมีกลิ่นหอมชวนดม และเป็นเอกลักษณ์อีกด้วย วันนี้จะพาทุกคนมารู้จักสาเหตุที่ทำให้ ดอกไม้สีขาว มีกลิ่นหอมนั่นเอง
กลิ่นหอมเกิดจากน้ำมันหอมระเหยที่พืชสังเคราะห์ขึ้น แล้วลำเลียงไปเก็บไว้ในต่อมหรือเซลล์พิเศษ ซึ่งกระจายอยู่ในเกสรเพศผู้ เกสรเพศเมีย ฐานรองดอก และกลีบดอก ซึ่งจะได้กลิ่นหอมของดอกไม้ก็ต่อเมื่อดอกไม้บาน เพราะน้ำมันหอมระเหยที่แทรกอยู่ตามส่วนต่างๆ ของดอกจะระเหยออกมาทำปฏิกิริยากับอากาศและเกิดกลิ่นหอม ซึ่งดอกไม้แต่ละชนิดจะมีกลิ่นเฉพาะตัวที่แตกต่างกันไป มีทั้งหอมมาก หอมน้อย หอมอ่อนๆ หอมหวาน และหอมเย็น ขึ้นอยู่กับองค์ประกอบและน้ำหนักโมเลกุลของสารประกอบในน้ำมันหอมระเหย แต่ดอกไม้แต่ละชนิดก็มีช่วงเวลาดอกบานต่างกัน เช่น บานเวลาเย็น พลบค่ำหรือตอนเช้า ระยะเวลาดอกบานก็ไม่เท่ากันบางชนิดบานหลายวัน แต่บางชนิดบานเพียงวันเดียวก็โรย ช่วงเวลาการส่งกลิ่นก็ต่างกัน บางชนิดส่งกลิ่นหอมตลอดเวลา บางชนิดส่งกลิ่นเฉพาะบางช่วงเวลา เช่นในช่วงพลบค่ำ เช้าตรู่ หรือช่วงสาย เมื่อมีจุดเด่นเป็นกลิ่นหอมแล้ว ธรรมชาติจึงสรรค์สร้างให้ดอกไม้ประเภทนี้มีสีสันไม่ค่อยสะดุดตา ส่วนใหญ่จึงมีสีขาวหรือสีขาวนวล ขนาดดอกเล็ก ต่างจากดอกไม้ทั่วไปที่มีสีสันฉูดฉาดเพื่อล่อแมลงนั่นเอง วันนี้จะพาทุกคนมารู้จักกับ ดอกไม้สีขาว ที่มีกลิ่นหอมมีอะไรบ้างนะ
10 ดอกไม้สีขาว มีกลิ่นหอม มีอะไรบ้างนะ
1.แก้ว
ไม้ต้นขนาดเล็ก สูงได้ถึง 5 เมตร ดอกสีขาว มีกลิ่นหอมเวลากลางคืนนิยมปลูกเป็นต้นเดียวหรือปลูกเป็นกลุ่มตัดแต่งเป็นพุ่ม ปลูกได้ทั้งในที่แดดเต็มวันถึงแดดรำไร ทนแล้งได้ดี สามารถปลูกริมทะเลได้ ออกดอกทั้งปี
2.พุดซ้อน
ไม้พุ่ม ใบสีเขียวเป็นมัน ดอกสีขาวอมเหลืองอ่อนมีกลิ่นหอมอ่อนๆ ในตอนเช้าและเย็น ปลูกต้นเดียวหรือเป็นกลุ่มเพื่อบังสายตา ตัดแต่งได้ ปลูกริมทะเล ชอบแดดจัด ทนร่มรำไรได้แต่จะให้ดอกน้อย ออกดอกทั้งปี
3.ชมนาด
ไม้เลื้อยที่เลื้อยได้ไกลถึง 10 เมตร ใบสีเขียวสดเป็นมัน ออกดอกเป็นช่อกระจุกตามซอกใบและปลายกิ่ง ดอกสีขาว มีกลิ่นหอมคล้ายข้าวผสมใบเตย ออกดอกช่วงเดือนมกราคม – มิถุนายน ดอกดกเดือนเมษายน ชอบดินร่วนระบายน้ำดี แสงแดดจัด
4.มะลุลี
มะลุลีเป็นไม้เถาเลื้อยสีเขียวสด เมื่อเถาแก่จะเป็นสีน้ำตาล ใบเดี่ยวออกตามข้อเรียงเป็นคู่ตรงข้าม ใบรูปไข่ ออกดอกเป็นช่อตรงส่วนยอดและตามง่ามใบ โคนช่อมีขนสีเทา ดอกสีขาวสะอาดเหมือนมะลิ กลีบดอกมี 9 กลีบ กลิ่นหอมแรง หอมทั้งกลางวันและกลางคืน ออกดอกตลอดปี
5.โมก
ไม้พุ่มขนาดกลาง สูงได้ถึง 5 เมตร ดอกสีขาว กลิ่นหอมอ่อนๆ ตั้งแต่เย็นถึงเช้ามีทั้งพันธุ์ดอกชั้นเดียว (ดอกลา) และดอกซ้อน ทนน้ำท่วมขัง ทนร่มได้ดีจึงปลูกในอาคารได้นาน ปลูกริมทะเลได้ นิยมปลูกเป็นแถวบังสายตาหรือปลูกริมน้ำตก ลำธาร ออกดอกทั้งปี
6.จำปี
ไม้ต้นขนาดกลาง สูง 10 – 20 เมตร ใบสีเขียวขนาดใหญ่ ออกดอกสีขาวที่ซอกใบ ดอกมีกลิ่นหอม ออกดอกช่วงเดือนสิงหาคมพฤศจิกายน เป็นต้นไม้โตเร็ว ชอบดินร่วนระบายน้ำดี แสงแดดจัด ไม่ทนน้ำท่วมขัง ควรปลูกกลางแจ้งให้ห่างจากต้นไม้อื่นอย่างน้อย 5 เมตร หากปลูกลงกระถางต้องใช้กระถางใหญ่ หมั่นตัดแต่งทรงพุ่มอยู่เสมอเพื่อความสวยงาม
7.หอมเจ็ดชั้น
ไม้พุ่ม ช่อดอกสีขาวนวลหรือขาวอมเหลือง ออกเป็นช่อใหญ่ที่ปลายกิ่ง ดอกบานพร้อมกันทั้งช่อนาน 2 – 3 วันแล้วโรย ส่งกลิ่นหอมแรงตลอดวัน ออกดอกช่วงเดือนตุลาคม – กุมภาพันธ์ หากปลูกในพื้นที่ที่มีความชื้นตลอดปี จะทยอยออกดอกในช่วงอื่นๆ ได้ ควรปลูกให้ห่างจากต้นไม้อื่นอย่างน้อย 2 เมตร หมั่นตัดแต่งกิ่งจะทำให้ออกดอกดกขึ้น หากปลูกในที่มีอากาศเย็นจะออกดอกดก
8.มะลิฉัตรโบราณ
เป็นไม้พุ่มขนาดเล็ก ทยอยออกดอกเกือบตลอดปี แต่ดกในช่วงปลายฤดูร้อนถึงฤดูฝน ให้ดอกน้อยในช่วงฤดูหนาว นิยมนำดอกไปทำหัวน้ำหอม ปลูกได้ทั้งในที่ร่มและแสงรำไร หากปลูกลงแปลงกลางแจ้งจะโตเร็วและออกดอกมาก
9.ซ่อนกลิ่นเถาใบด่าง
ซ่อมกลิ่นเถาใบด่างหรือ ชะลูดช้างด่าง เป็นไม้เลื้อยเนื้อแข็ง เลื้อยได้ไกลถึง 4 เมตร ออกดอกสีขาวละมุน ใบด่างรูปทรงสวยงาม ส่งกลิ่นหอมกรุ่นในเวลาเย็น ปลูกเลี้ยงง่าย หลังออกดอกควรตัดแต่งกิ่งให้เหลือแต่ตอจะแตกใบใหม่อย่างรวดเร็ว ออกดอกตลอดปี แต่ดกช่วงฤดูแล้ง
10.ลดาวัลย์
ดอกออกเป็นช่อที่ซอกใบและปลายยอด มีกลิ่นหอม ดอกบานช่วงเช้า ออกดอกดกช่วงฤดูหนาว ปลายเดือนพฤศจิกายน-มกราคม ลดาวัลย์ชอบแสงแดดจัด ดินร่วนระบายน้ำดี นิยมปลูกขึ้นซุ้ม โดยทำหลักปักแล้วผูกต้นกับหลักให้เลื้อยขึ้นซุ้ม ควรปลูกทุกเสาของซุ้ม จะทำให้ได้ซุ้มที่สวยงามเร็วขึ้น
สามารถรับข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ : คลิกที่นี่
อ้างอิง : คลิกที่นี่