ฉนวนกาซา หรือกาซา เป็นพื้นที่เล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ใจกลางภูมิภาคตะวันออกกลาง โดยดินแดนฝั่งตะวันตกของฉนวน กาซาติดกับทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ส่วนทางทิศเหนือและทิศตะวันออกติดกับอิสราเอล และทางทิศใต้ติดกับอียิปต์ และสิ่งที่ทำให้ทั่วโลกรู้จักพื้นที่แห่งนี้ คือการเป็นพื้นที่แห่งความขัดแย้งและสู้รบกันระหว่าง 2 ประเทศ คือ อิสราเอลและปาเลสไตน์
ซึ่งฉนวน กาซาเป็น 1 ใน 2 ดินแดนของชาวปาเลสไตน์ อีกแห่งคือเวสต์แบงก์ (West Bank) ที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่กว่า แต่อิสราเอลยึดครองอยู่ โดยมีพรมแดนติดกับประเทศจอร์แดน เรามาทำความรู้จักพื้นที่ที่เป็นเขตกันชนในการสู้รบระหว่าง อิสราเอล – ปาเลสไตน์ นั้นก็คือ “กาซา” หรือที่รู้จักการในนามฉนวน กาซาให้ลึกซึ้งขึ้นด้วยบทความนี้
นานาโกะ ฮารุ คือใคร เปิดประวัติบุคคลอันตราย สมัย hi5 บูมๆ
ฉนวนกาซา ลองมาทำความเข้าใจเขตกันชน สมรภูมิรบอิสราเอล-ฮามาส
ฉนวน กาซา เป็นพื้นที่ขนาดเล็กที่มีขนาดเพียงแค่ 365 ตารางกิโลเมตร ซึ่งเล็กกว่าจังหวัดที่มีพื้นที่น้อยที่สุดของไทยอย่างสมุทรสงคราม ที่มีขนาด 416 ตารางกิโลเมตร โดยฉนวนกาซามีอาณาเขตทางตะวันตกเฉียงใต้ติดกับอียิปต์ ทางเหนือและตะวันออกติดกับประเทศอิสราเอล และทางตะวันตกติดทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ที่มาของชื่อฉนวนกาซาเพราะเป็นเขตแดนที่ถูกกำหนดขึ้นจากข้อตกลงระหว่างอิสราเอลกับอียิปต์ หลังสงครามอาหรับ-อิสราเอลครั้งแรกในปี 2491 หรือ 75 ปีก่อน ให้เป็นเสมือนเขตกันชนระหว่างคู่อริทั้ง 2 ฝ่าย
ถึงแม้ฉนวนกาซาจะเป็นพื้นที่ขนาดเล็ก แต่ก็ได้ชื่อว่ามีประชากรหนาแน่นมากที่สุดในโลก ซึ่งมีผู้คนอาศัยอยู่ที่นี่มีมากถึง 1.8 ล้านคน ในจำนวนนี้ร้อยละ 75 เป็นผู้หญิงและเด็ก ประชากรในฉนวนกาซาถึง 3 ใน 4 เป็นผู้อพยพลี้ภัยที่อาศัยอยู่ตามแคมป์ที่สหประชาชาติจัดไว้ให้ ส่วนใหญ่ของผู้ลี้ภัยเหล่านี้เกิดในพื้นที่ฉนวนกาซา แต่ก็มีบางส่วนที่อพยพมาตั้งแต่หลังสงครามอาหรับ-อิสราเอลครั้งแรกในปี 2491
ประวัติศาสตร์ของฉนวน กาซา
ฉนวน กาซามีผู้คนอาศัยอยู่มานับพันปี มีหลายสิ่งหลายอย่าง เช่น ฐานทัพของอียิปต์ และเมืองหลวงของชาวฟิลิสตีนส์ หรือกลุ่มชนโบราณ ที่ในอดีตเคยยึดครองที่ราบชายฝั่ง ซึ่งปัจจุบันคืออิสราเอลและฉนวน กาซา และกลายมาเป็นชาวปาเลสไตน์ในภายหลัง ตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 16 ถึงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 20 ฉนวน กาซาเป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิออตโตมันมาเกือบตลอด
จนกระทั่งอังกฤษเข้าควบคุมพื้นที่ฉนวน กาซาหลังสงครามโลกครั้งที่ 1 และการแย่งชิงดินแดนระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์ที่ลามมาจนถึงปัจจุบัน เริ่มต้นขึ้นหลังสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อชาวยิวที่หนีการข่มเหงเดินทางจากยุโรปเพื่อค้นหาพื้นที่สำหรับลี้ภัย หลังจากเผชิญความน่าสะพรึงกลัวของการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์จากนาซี
ตัวเลขของชาวยิวที่ลี้ภัยไปยังดินแดนแห่งนี้เพิ่มขึ้นต่อเนื่องในช่วงทศวรรษ 1930 กระทั่งชาวปาเลสไตน์ซึ่งอยู่ในพื้นที่มาก่อนต้องการเอกราชและลุกฮือขึ้นต่อต้านชาวยิว จนเกิดความขัดแย้งและก่อความรุนแรงระหว่าง 2 ฝ่าย ทำให้สหราชอาณาจักรตัดสินใจนำปัญหานี้ให้ UN จัดการ โดยในปี 1947 UN ได้จัดทำแผนแบ่งดินแดนกาซาของชาวปาเลสไตน์ ซึ่งในขณะนั้นอยู่ภายใต้การควบคุมของอังกฤษ ออกเป็น 2 ส่วน ส่วนหนึ่งสำหรับชาวยิว และอีกส่วนหนึ่งสำหรับชาวปาเลสไตน์
ขณะที่ เดวิด เบน-กูเรียน ผู้ก่อตั้งประเทศอิสราเอล ได้ประกาศสถาปนารัฐอิสราเอลในปี 1948 ทำให้ชาวปาเลสไตน์มากกว่า 7 แสนคนต้องหลบหนีหรือถูกขับไล่ออกจากดินแดนที่อาศัย หลังจากที่อิสราเอลประกาศเอกราช อียิปต์ก็เปิดฉากโจมตีอิสราเอลผ่านฉนวน กาซา แต่อิสราเอลเป็นฝ่ายชนะ และหลังจากนั้นฉนวน กาซายังคงอยู่ภายใต้การควบคุมของอียิปต์ และมีผู้ลี้ภัยชาวปาเลสไตน์หลั่งไหลจากอิสราเอลเข้าไปอาศัย แต่ไม่สามารถอพยพไปยังอียิปต์ได้ และไม่ได้รับอนุญาตให้กลับไปยังบ้านเดิมในอิสราเอล ส่งผลให้ชาวปาเลสไตน์หลายคนต้องอาศัยอยู่อย่างยากลำบาก
ต่อมาในปี 1967 ก็เกิดสงครามระหว่างอิสราเอล กับอียิปต์ จอร์แดน และซีเรีย ซึ่งกลายเป็นที่รู้จักในชื่อสงคราม 6 วัน โดยอิสราเอลยึดฉนวน กาซาไว้เกือบ 40 ปี จนกระทั่งถอนทหารและผู้ตั้งถิ่นฐานออกไปในปี 2005 และนับตั้งแต่นั้นมา ความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์ โดยเฉพาะกลุ่มติดอาวุธฮามาสในฉนวน กาซา ก็ปะทุขึ้นบ่อยครั้ง แต่ครั้งนี้นับว่ารุนแรงมากที่สุด จากการที่ฮามาสเลือกเปิดฉากโจมตีด้วยการบุกภาคพื้นดินแทนการยิงจรวดข้ามชายแดนเพียงอย่างเดียว
สรุป ฉนวนกาซา เป็นที่อยู่อาศัยของชาวปาเลสไตน์ มีขนาดพื้นที่ 360 ตร.กม.ใกล้เคียงกับ จ.สมุทรสงคราม ของประเทศไทย ที่มีขนาด 416.7 ตร.กม.มีอาณาเขตทางตะวันตกเฉียงใต้ติดกับอียิปต์ ทางเหนือและตะวันออกติดกับประเทศอิสราเอล และทางตะวันตกติดทะเล เมดิเตอร์เรเนียน สาเหตุที่ถูกเรียกว่าฉนวน กาซาเนื่องจากเขตแดนส่วนนี้ถูกกำหนดขึ้นจากข้อตกลงระหว่างอิสราเอลกับอียิปต์หลัง สงครามอาหรับ-อิสราเอล ครั้งแรก เมื่อปี 1948 ให้เป็นคล้ายกับเขตกันชนระหว่าง 2 ฝ่าย
ขอบคุณเนื้อหาจาก : wikipedia