พริกถูกค้นพบครั้งแรกที่อเมริกากลาง และอเมริกาใต้ ตั้งแต่เมื่อราว 7,000 ปีก่อน โดย คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส หลังจากนั้นได้มีการนำพริกมาปลูก และเผยแพร่ไปทั่วยุโรป ก่อนจะแผ่ขยายไปทั่วโลก ซึ่งประเทศไทยของเรานั้น ก็รู้จักและคุ้นเคยกับการปลูกพริกมานานแล้ว สายพันธุ์ของพริกในประเทศไทย มีอยู่ทั้งหมดประมาณ 831 สายพันธุ์ และสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 กลุ่มใหญ่ คือ พริกชี้ฟ้า พริกขี้หนูเม็ดใหญ่ และพริกขี้หนูเม็ดเล็ก แถม ประโยชน์ของพริก มีมากจนน่าทึ่งเลยล่ะ
ซึ่งความเผ็ดของพริกมาจากสารชื่อ “แคปไซซิน” (Capsaicin) ซึ่งจะมีอยู่มากใยบริเวณเยื่อแกนกลางสีขาว ส่วนเปลือกและเมล็ดนั้นจะมีสารนี้น้อย และสารชนิดนี้จะทนทานต่อความร้อนและความเย็นอย่างมาก แม้จะนำมาต้มให้สุดหรือแช่แข็งก็ไม่ได้ทำให้สูญเสียความเผ็ดไปแต่อย่างใด โดยเราสามารถเรียงลำดับความเผ็ดของพริกจากมากไปหาน้อยได้ คือ พริกขี้หนู > พริกเหลือง > พริกชี้ฟ้า > พริกหยวก > พริกหวาน เป็นต้น
ประโยชน์ของพริก
1.ช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานให้แข็งแรงมากยิ่งขึ้น
2. พริกมีสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยชะลอวัย
3. ช่วยให้อารมณ์ดี ทำให้ร่างกายสร้างสาร Endorphin (สารแห่งความสุข)
4. วิตามินซีที่ช่วยเสริมสร้างคอลลาเจนในร่างกาย
5. ช่วยในการบำรุงและรักษาสายตา
6. ช่วยกระตุ้นให้เจริญอาหารยิ่งขึ้น
7. สารแคปไซซินช่วยให้เกิดอาการตื่นตัวของร่างกาย
8. ช่วยในการดีท็อกซ์ของร่างกาย
9. พริกช่วยบรรเทาอาการไข้หวัด ลดน้ำมูก ลดเสมหะ และบรรเทาอาการไอ
10. ช่วยลดสารที่มากีดขวางระบบทางเดินหายใจอันเนื่องมาจากการเป็นไข้หวัด ไซนัส หรือโรคภูมิแพ้ต่าง ๆ
11. ช่วยรักษาโรคลักปิดลักเปิด หรือโรคเลือดออกตามไรฟัน
12. ช่วยให้หายใจได้สะดวกยิ่งขึ้น
13. ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็ง และความเผ็ดของพริกมีส่วนช่วยฆ่าเซลล์มะเร็งได้
14. ช่วยลดปริมาณสารคอเลสเตอรอลในร่างกาย ทำให้ปริมาณของไตรกลีเซอไรด์ในกระแสเลือดลดลง
15. ช่วยขยายเส้นโลหิตในลำไส้และกระเพาะอาหารเพื่อการดูดซึมอาหารที่ดีขึ้นและพริกยังมีสาร Capsaicin ช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียในกระเพาะอาหาร
16. มีส่วนช่วยในการขับปัสสาวะ
17. ช่วยป้องกันการเกิดโรคหัวใจล้มเหลว
18. ช่วยลดความดันโลหิต
19. ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของหลอดเลือดให้ดียิ่งขึ้น ลดการอุดตันของเส้นเลือด เส้นเลือดสมองอุดตัน
20. ช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวดต่าง ๆ เช่น อาการปวดฟัน เจ็บคอ การอักเสบของผิวหนัง อาการปวดศีรษะ ปวดเส้นเอ็น โรคเกาต์ ข้อต่ออักเสบ เป็นต้น
21. ช่วยบรรเทาอาการอาหารไม่ย่อย ขับแก๊สในกระเพาะ
22. ช่วยในการสลายลิ่มเลือด
23. ช่วยป้องกันการติดเชื้อต่าง ๆ ในบริเวณจมูก ลำคอ ปอด เยื่อบุผนังช่องปาก
24. ช่วยให้ร่างกายขับถ่ายของเสียและนำธาตุอาหารไปยังเนื้อเยื่อในร่างกาย
25. พริกช่วยกระตุ้นให้อยากอาหารมากขึ้น
26. นำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ชนิดต่าง ๆ เช่น พริกแห้ง พริกป่น พริกดอง ซอสพริก เครื่องแกง น้ำพริกต่าง ๆ และผลิตภัณฑ์ยารักษาโรค
27. ในด้านการแพทย์แผนจีนนำสารนี้มาใช้ประโยชน์เพื่อบำรุงพลังหยาง
28. ในด้านการแพทย์ได้มีการสกัดเอาสารแคปไซซินในพริกออกมาในรูปแบบครีมหรือเจล ใช้ทาเพื่อบรรเทาอาการเจ็บปวดที่ผิวหนัง เช่น ไฟไหม้ น้ำร้อนลวก งูสวัด เป็นต้น
29. ในด้านความงามจะใช้สารสกัดจากแคปไซซินมาสกัดเป็นเจลเพื่อใช้ในการนวดสลายไขมัน
เป็นอย่างไรกันบ้าง ประโยชน์ของพริก ที่เรากิน ๆ กันอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน มีไม่น้อยเกินคาดกันเลยใช่มั้ย งานนี้ใครไม่กินเผ็ดต้องลองทบทวนแล้วหัดกินกันใหม่แล้วนะ
สามารถรับข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ : คลิกที่นี่
อ้างอิง : คลิกที่นี่