บาคาร่า หรือ บาคาร่าออนไลน์ เรียกได้ว่าเป็นเกมยอดฮิตตลอดกาล ได้รับความนิยมสูงสุดเสมอมา หากเทียบกับเกมเดิมพันอื่น ๆ ในโลกของเกมคาสิโนออนไลน์ สาเหตุของความนิยม เพราะ เกมบาคาร่า เป็นเกมที่เล่นง่าย ให้โอกาสในการเดิมพันที่สูง คือ 50 : 50 โอกาสครึ่งต่อครึ่งกันเลย ทำให้ผู้เล่นสามารถทำกำไรจากเกมนี้ได้มาก และ ไม่ยากเกินไปนัก ทั้งนี้ทั้งนั้น ก่อนที่จะเริ่มเข้าไปเล่นในเกมเดิมพันนี้ ผู้เล่นจำเป็นต้องรู้ก่อนว่า การวางเดิมพันบาคาร่า จะลงเงินเดิมพันอย่างไร ลงตำแหน่งไหน คูณกี่เท่า ได้เงินเท่าไร บทความนี้เรา sccwiki.com จะมาอธิบายให้นักเดิมพันทุกท่านได้เข้าใจกัน
สูตรบาคาร่า กฎเหล็ก 7 อย่าง ยึดตามนี้ให้มั่น การเอาชนะเจ้ามือ ไม่ใช่เรื่องเป็นไปไม่ได้
ตำแหน่ง การวางเดิมพันบาคาร่า และ อัตราการจ่าย
เกมบาคาร่า ในรอบการเดิมพัน 1 รอบ มีตำแหน่งการวางเดิมพันบาคาร่า ให้ผู้เล่นได้เลือกวางเดิมพันถึง 19 ตำแหน่งด้วยกัน ซึ่งในแต่ละตำแหน่งนั้น ก็ให้อัตราการจ่ายที่แตกต่างกัน แยกกันไปตามความยากง่ายในการออกของผลลัพธ์ ยิ่งยากยิ่งอัตราการจ่ายสูง โดยทั้ง 19 ตำแหน่ง มีอัตราการจ่ายดังต่อไปนี้
ตำแหน่ง Player (ผู้เล่น )
การเดิมพันในตำแหน่ง Player เป็นการแทงว่าแต้มของฝ่ายผู้เล่นจะมีมากกว่าแต้มของฝ่ายเจ้ามือ ยกตัวอย่าง การเดิมพันในรอบนั้น ฝ่ายผู้เล่นมีแต้ม 9 แต้ม ส่วนเจ้ามือมีแต้ม 8 แต้ม แบบนี้ฝ่ายผู้เล่นชนะ โดยมีอัตราการจ่ายเงินอยู่ที่ 1 เท่า ของเงินเดิมพัน คือ หากแทง 100 บาท จะได้เงินรางวัล 100 บาท รวมเป็น 200 บาท
ตำแหน่ง Banker (เจ้ามือ)
การเดิมพันตำแหน่ง Banker เป็นการอแทงว่าแต้มของฝ่ายเจ้ามือจะชนะในรอบนี้ ยกตัวอย่าง การเดิมพันในรอบนั้น ฝ่ายผู้เล่นมีแต้ม 5 แต้ม ส่วนเจ้ามือมีแต้ม 9 แต้ม แบบนี้ฝ่ายเจ้ามือชนะ โดยมีอัตราการจ่ายเงินอยู่ที่ 0.95 เท่า ของเงินเดิมพัน คือ หากแทง 100 บาท จะได้เงินรางวัล 95 บาท รวมเป็น 195 บาท ( การแทง banker ต้องเสียค่าคอมมิชชั่น 0.5% เสมอ)
ตำแหน่ง Tie (เสมอ)
การเดิมพันตำแหน่ง Tie เป็นการแทงว่าแต้มของฝ่ายผู้เล่นและฝ่ายเจ้ามือจะมีผลออกมาเท่ากัน ยกตัวอย่างเช่น การเดิมพันในรอบนั้น ผู้เล่นมี 10 แต้ม เจ้ามือมี 10 แต้ม แบบนี้เรียกว่าเสมอกัน โดยมีอัตราการจ่ายอยู่ที่ 8 เท่า ของเงินเดิมพัน คือ แทง 100 บาท ได้ 800 เป็น 900 บาท นั่นเอง
ตำแหน่งไพ่คู่ฝั่งใดก็ได้
การเดิมพันตำแหน่งไพ่คู่ฝั่งใดก็ได้ เป็นการทายว่าไพ่ 2 ใบแรก ของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ระหว่างทั้ง 2 ฝ่ายจะออกมาเป็นหน้าไพ่ที่เหมือนกัน กล่าวคือ ต้องให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ไพ่ 2 ใบแรก ออกเป็นไพ่คู่ เช่น ผู้เล่นได้รับไพ่ 8 , 8 หรือ เจ้าได้ไพ่ 9 , 9 แบบนี้ถึงจะได้รับเงินเดิมพัน โดยมีอัตราการจ่ายเงินรางวัลอยู่ที่ 5 เท่า ของเงินเดิมพัน คือ แทง 100 ได้ 500 รวมเป็น 600 บาท
ตำแหน่งไพ่คู่ฝั่ง Player
การเดิมพันตำแหน่งไพ่คู่ของผู้เล่น คือการแทงว่าไพ่ 2 ใบแรกของฝ่ายผู้เล่นออกมาเหมือนกัน กล่าวคือ ไพ่ 2 ใบแรกของผู้เล่นจะต้องเป็นหน้าไพ่ที่เหมือนกัน เช่น ไพ่ 10 , 10 เป็นต้น แบบนี้ถึงจะได้รับเงินเดิมพัน อัตราการจ่ายเงินรางวัลอยู่ที่ 11 เท่าของเงินเดิมพัน คือ เดิมพัน 100 บาท ได้ 1100 บาท รวมเป็น 1200 บาท
ตำแหน่งไพ่คู่ฝั่ง Banker
การเดิมพันตำแหน่งไพ่คู่ของเจ้ามือ คือการแทงว่าไพ่ 2 ใบแรกของฝ่ายเจ้ามือจะออกมาเหมือนกัน กล่าวคือ ไพ่ 2 ใบแรกของเจ้ามือจะต้องเป็นหน้าไพ่ที่เหมือนกัน เช่น ไพ่ 5 , 5 เป็นต้น แบบนี้ถึงจะได้รับเงินเดิมพัน อัตราการจ่ายเงินรางวัลอยู่ที่ 11 เท่าของเงินเดิมพัน คือ เดิมพัน 100 บาท ได้ 1100 บาท รวมเป็น 1200 บาท
ตำแหน่ง Perfect Pair
การเดิมพันตำแหน่ง Perfect Pair เป็นการแทงว่าไพ่ 2 ใบแรกของฝ่ายผู้เล่น และเจ้ามือจะออกมาเป็นหน้าไพ่ที่เหมือนกัน แต่ทั้ง 2 ฝ่าย หน้าไพ่แตกต่างกันได้นะ กล่าวคือ Perfect Pair ไพ่ 2 ใบแรกของผู้เล่น และเจ้ามือจะต้องเป็นไพ่คู่ทั้ง 2 ฝั่ง เช่น ผู้เล่นได้รับไพ่ 7 , 7 เจ้ามือได้รับไพ่ 3 , 3 แบบนี้ถึงจะได้รับเงินเดิมพัน โดยมีอัตราการจ่ายเงินรางวัลอยู่ที่ 25 เท่าของเงินเดิมพัน คือ แทง 100 ได้ 2500 รวม 2600 บาท นั่นเอง
ตำแหน่งต่ำ
การเดิมพันตำแหน่งต่ำ เป็นการแทงว่าการเดิมพันในรอบนั้นจะไม่มีฝ่ายไหนที่เรียกไพ่ใบที่สามเพิ่มเลย หรือจบเกมส์ด้วยไพ่เพียง 4 ไพ่เท่านั้น อัตราการจ่ายเงินรางวัลอยู่ที่ 1.5 เท่าของเงินเดิมพัน คือ แทง 100 ได้ 150 รวมเป็น 250 บาท
ตำแหน่งสูง
การเดิมพันตำแหน่งสูง เป็นการแทงว่าการเดิมพันในรอบนั้นจะมีฝ่ายไหนฝ่ายหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายผู้เล่น หรือฝ่ายเจ้ามือก็ได้ ที่เรียกไพ่ใบที่สามเพิ่ม หรือจบเกมส์ด้วยไพ่มากกว่า 4 ไพ่ อัตราการจ่ายเงินรางวัลอยู่ที่ 0.54 เท่าของเงินเดิมพัน คือ แทง 100 บาท ได้ 54 บาท รวมเป็น 154 บาท
ตำแหน่งตัวเลข 0 – 9
การเดิมพันตำแหน่งหมายเลข 0 – 9 เป็นการทายว่าการเดิมพันในรอบนั้นฝ่ายผู้เล่น และฝ่ายเจ้ามือ จะเสมอกันที่แต้มที่เราเลือกแทง (ตำแหน่ง 0 – ตำแหน่ง 9 แต้ม )
ยกตัวอย่างเช่น
- สมมติเราลงเดิมพันในตำแหน่งหมายเลข 0 การเดิมพันในรอบนั้นถ้าหากฝ่ายผู้เล่นมีแต้ม 0 แต้ม ฝ่ายเจ้ามือได้แต้ม 0 แต้มเท่ากัน แบบนี้ถึงจะได้รับเงินเดิมพัน
- สมมติเราลงเดิมพันในตำแหน่งหมายเลข 5 การเดิมพันในรอบนั้นถ้าหากฝ่ายผู้เล่นมีแต้ม 5 แต้ม ฝ่ายเจ้ามือได้แต้ม 5 แต้มเท่ากัน แบบนี้ถึงจะได้รับเงินเดิมพัน
- สมมติเราลงเดิมพันในตำแหน่งหมายเลข 9 การเดิมพันในรอบนั้นถ้าหากฝ่ายผู้เล่นมีแต้ม 9 แต้ม ฝ่ายเจ้ามือได้แต้ม 9 แต้มเท่ากัน แบบนี้ถึงจะได้รับเงินเดิมพัน
ซึ่งในแต่ละตำแหน่ง 0 – 9 ที่เราเลือกวางเดิมพันจะให้อัตราการจ่ายเงินเดิมพันที่แตกต่างกัน ดังต่อไปนี้
- ตำแหน่งหมายเลข 0 อัตราการจ่ายเงินรางวัลอยู่ที่ 150 เท่า คือ แทง 100 ได้ 15000 รวมเป็น 15100 บาท
- ตำแหน่งหมายเลข 1 อัตราการจ่ายเงินรางวัลอยู่ที่ 215 เท่า คือ แทง 100 ได้ 21500 รวมเป็น 21600 บาท
- ตำแหน่งหมายเลข 2 อัตราการจ่ายเงินรางวัลอยู่ที่ 220 เท่า คือ แทง 100 ได้ 22000 รวมเป็น 22100 บาท
- ตำแหน่งหมายเลข 3 อัตราการจ่ายเงินรางวัลอยู่ที่ 200 เท่า คือ แทง 100 ได้ 20000 รวมเป็น 20100 บาท
- ตำแหน่งหมายเลข 4 อัตราการจ่ายเงินรางวัลอยู่ที่ 120 เท่า คือ แทง 100 ได้ 12000 รวมเป็น 12100 บาท
- ตำแหน่งหมายเลข 5 อัตราการจ่ายเงินรางวัลอยู่ที่ 110 เท่า คือ แทง 100 ได้ 11000 รวมเป็น 11100 บาท
- ตำแหน่งหมายเลข 6 อัตราการจ่ายเงินรางวัลอยู่ที่ 45 เท่า คือ แทง 100 ได้ 4500 รวมเป็น 4600 บาท
- ตำแหน่งหมายเลข 7 อัตราการจ่ายเงินรางวัลอยู่ที่ 45เท่า คือ แทง 100 ได้ 4500 รวมเป็น 4600 บาท
- ตำแหน่งหมายเลข 8 อัตราการจ่ายเงินรางวัลอยู่ที่ 80 เท่า คือ แทง 100 ได้ 8000 รวมเป็น 8100 บาท
- ตำแหน่งหมายเลข 9 อัตราการจ่ายเงินรางวัลอยู่ที่ 80 เท่า คือ แทง 100 ได้ 8000 รวมเป็น 8100 บาท
และนี่คือ 19 ตำแหน่ง การวางเดิมพันบาคาร่า ที่นักเดิมพันสามารถเลือกวางเดิมพันได้ใน เกมบาคาร่า และ อัตราการจ่ายเงินรางวัลของแต่ละตำแหน่ง เป็นอย่างไรบ้าง เราจัดมาให้แบบละเอียดยิบ ๆ กันเลย ใครอยากได้คูณเยอะ คูณน้อย หรือ โอกาสสูง โอกาสต่ำ ก็เลือกวางเดิมพันในตำแหน่งที่ชื่นชอบ และ พร้อมจะรับความเสี่ยงกันได้เลยนะ ขอให้โชคดีกับการเดิมพันกันทุกท่านครับ
สามารถรับข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ https://www.sccwiki.com/
ขอบคุณข้อมูลจาก : SCC777
อ้างอิง https://th.wikipedia.org/wiki/