สโมสรฟุตบอลนิวคาสเซิลยูไนเต็ด หรือ ทีมสาลิกาดง สร้างปรากฎการณ์ใหม่ในวงการฟุตบอลพรีเมียร์ลีกโดยการขึ้นไปเป็น Top 4 ของตาราง ถือเป็นความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ ในรอบ 20 ปี ด้วยฟอร์มการเล่นสุดโหด ผนวกกับเทคนิคและความแพราวพราว และเข้าสู่รอบนัดชิงชนะเลิศ พบกับทีมแมนฯ ยูไนเต็ด ในศึกคาราบาวคัพอีกด้วย นี่พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า สาลิกาดง ไม่ใช่ทีมตกชั้นในพรีเมียร์ลีกอีกต่อไป แต่พวกเขา พร้อมสร้างความยิ่งใหญ่ในการคว้าชัยในรายการต่าง ๆ และวันนี้เรามาดู ประวัติ นิวคาสเซิล ที่ได้ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากจากที่เป็นทีมบ๊วยเลี่ยนผ่านเรื่องต่าง ๆ จนกลายเป็นทีมระดับท็อปของโลกฟุตบอล
วิคเตอร์ โอซิมเฮน ประวัติ เขาคือใคร ทำไมทีมไหน ๆ ก็อยากได้
ประวัติ นิวคาสเซิล จากทีมท้ายตารางสู่ทีมระดับท็อป
นิวคาสเซิล ในการประสบความสำเร็จเราต้องลองย้อนกลับไปในช่วงเดือนตุลาคม ปี 2021 นิวคาสเซิล มีการเปลี่ยนแปลงเจ้าของ โดยการเทคโอเวอร์ของ กองทุน Public Investment Fund (PIF) ที่มีประธานเป็น มูฮัมหมัด บิน ซัลมาน มกุฎราชกุมารแห่งซาอุดีอาระเบีย นั่นทำให้ทีมสาลิกาดง กลายเป็นสโมสรฟุตบอลที่มั่งคั่งที่สุดในพรีเมียร์ลีก
ซึ่งเหล่าทูนอาร์มี่มองว่า ดีลครั้งนี้ จะเป็นจุดเริ่มต้นของโอกาส และความเปลี่ยนแปลงมากมายในอนาคต ทั้งความน่าจะเป็นในการซื้อตัวนักเตะระดับซุปเปอร์สตาร์ ตลอดจนการเข้ามาพัฒนา และสร้างทีมที่แข็งแกร่งอีกด้วย
และหลังจากนั้นไม่นาน นิวคาสเซิล ได้แต่งตั้ง เอ็ดดี้ ฮาว เข้ามารับหน้าที่เป็นผู้จัดการทีมคนใหม่ โดยมีสัญญาถึงปี 2024 ซึ่งประกาศในครั้งนี้ ยิ่งเพิ่มความน่าจับตามองเป็นเท่าตัว เนื่องด้วยตัวของ ฮาว ก็เคยได้สร้างชื่อเสียงจากการคุมทัพในพรีเมียร์ลีก และนั่นก็เป็นสิ่งที่การันตีถึงฝีมือ และความสามารถของเขาได้เป็นอย่างดี
ปัจจัยในการพาทีมประสบความสำเร็จ
จริงอยู่ที่นิวคาสเซิลมีกำลังในการซื้อนักเตะราคาสูง แต่นั่น ไม่ใช่แผนในการสร้างทีมของพวกเขา ซึ่งการเลือกนักเตะเสริมทัพนั้น จะเน้นนักเตะที่มีคุณภาพ ทั้ง นิค โป๊ป, สเวน บอทแมน รวมถึงบิ๊กดีลอย่าง อเล็กซานเดอร์ อิซัค เพราะพวกเขามองว่า แข้งใหม่เหล่านี้ คือตัวเลือกคุ้มค่า ด้วยฝีมือเป็นที่ประจักษ์สายตา พ่วงด้วยราคาที่เหมาะสม
เมื่อประกอบกับการโค้ชในแบบของ เอ็ดดี้ ฮาว ที่มักปลูกฝังนักเตะ ให้เน้นสร้างความกดดันเป็นทีม ทั้งการดันกองหลังขึ้นสูง เพื่อกดแนวรับ ทำให้เกมรุกดีขึ้น ซึ่งสามารถดันให้นักเตะทีมตนเอง เข้าไปอยู่ในพื้นที่คู่แข่ง ส่งผลให้เกิดการเพรซซิงสูง และสร้างสถานการณ์ให้คู่แข่งเกิดความผิดพลาดในทันที ซึ่งหากลองสังเกตแทคติคนี้ จุดสำคัญคือการทำงานเป็นทีม เพราะผู้เล่นคนเดียว ไม่สามารถวิ่งกดดันแนวรับคู่แข่งที่ผ่านบอลไปมาได้อย่างสำเร็จ รวมไปถึงเทคนิคในการแก้เกม และปรับจุดอ่อนของนักเตะได้อย่างยอดเยี่ยม นั่นทำให้ เอ็ดดี้ ฮาว เป็นบุคคลสำคัญ ที่อยู่เบื้องหลังความดุดันของนิวคาสเซิลในฤดูกาลนี้อย่างไม่ค้านสายตา
สรุปนิวคาสเซิล ในการประสบความสำเร็จเป็นทีมระดับท็อป หากใครที่ยังมองภาพไม่ชัดในบทความเบื้องต้น ลองเปรียบเทียบการเล่นของนิวคาสเซิลในยุคก่อนนี้ กับยุคปัจจุบัน จะเห็นได้ชัดว่า เอ็ดดี้ ฮาว ได้เข้ามากวาดล้าง และสร้างทีมใหม่ แบบที่ไม่เหลือคราบทีมเดิมอีกต่อไป และอีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้นิวคาสเซิลเป็นทีมระดับท็อปคือการใช้เงินอย่างชาญฉลาด พ่วงด้วยความสามารถของผู้จัดการ และการผสานฝีมือของนักเตะนั่นเอง
ขอบคุณข้อมูลจาก : wikipedia
